โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตทางธรรมชาติ ซึ่งสาเหตุหลักคือการใช้สอยทรัพยากรเพื่อประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ดังนั้นประชาคมโลกจึงได้นำเรื่องของสิ่งแวดล้อมมาเป็นกติกาใหม่ และมีบทลงโทษด้วยการกีดกันทางการค้ามากขึ้น เป็นเหตุผลที่ทุกบริษัทต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน
ต้นแบบบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนโดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอดจนได้รับการยอมรับในระดับสากล คือ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA โดย คุณอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA กล่าวว่า ในอดีตเรื่องของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนอาจไม่ใช่ประเด็นใหญ่ แต่ปัจจุบันสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมากขึ้น จากการที่คนได้เจอผลกระทบโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกร้อน หรือฝุ่น PM2.5 และเมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไปจึงทำให้การดำเนินธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ดังนั้น การที่จะทำให้ธุรกิจของเราอยู่ได้แบบยั่งยืนต้องคำนึงถึงการเติบโตในส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย กล่าวคือ บริษัทต้องมีส่วนที่รับผิดชอบต่อสังคม และเติบโตไปทั้ง Business Chain
“หากว่าหุ้นส่วนทางธุรกิจไม่ได้เติบโตไปด้วยกัน ท้ายที่สุดก็ไม่เกิดความยั่งยืน ดังนั้นการดำเนินธุรกิจจึงจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบและคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรอบด้าน”
ถึงแม้ EA จะเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Business) แต่การดำเนินธุรกิจบางส่วนอาจก่อให้เกิดมลภาวะ เช่น การใช้พลังงานฟอสซิลในการผลิตสินค้าบางส่วน ดังนั้นบริษัทฯ จึงชดเชยผลกระทบเหล่านี้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ไบโอดีเซล กรีนดีเซล ยานยนต์ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งธุรกิจแบตเตอรี่ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ช่วยให้มีพลังงานไฟฟ้าที่เป็นพลังงานสะอาดในประเทศไทยมากขึ้น จึงช่วยลดสัดส่วนพลังงานฟอสซิลที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกลงได้
ทั้งนี้ EA เป็นบริษัทที่เริ่มดำเนินการด้านความยั่งยืนมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท นอกจากจะเพิ่มพอร์ตพลังงานไฟฟ้าสะอาดให้กับประเทศแล้ว ยังสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนรอบข้างด้วยการสร้างศูนย์เรียนรู้แก่คนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่ส่งเสริมความยั่งยืนใน 3 มิติหลัก คือ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG)
มิติด้านสิ่งแวดล้อม : ในปีที่ผ่านมา EA มีปริมาณคาร์บอนเครดิตที่ได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) รวมกว่า 758,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายใต้โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานประเทศไทย (T-VER) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมสังคมคาร์บอนต่ำและสนับสนุนการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ
ขณะที่ EA ได้มีการเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินพันธบัตรสีเขียว (Green Bond) ที่ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย เพื่อใช้ในการลงทุนของโรงไฟฟ้าพลังงานลม ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงในปี 2563
มิติด้านสังคม : ในช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทาง EA ได้ดูแลพนักงานอย่างใกล้ชิดให้มีความปลอดภัย ภายใต้การจัดการความเสี่ยงและแผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ และได้ช่วยเหลือสังคมโดยริเริ่มโครงการด้านจิตอาสาในนาม “กลุ่มช่วยกัน” เพื่อดูแลช่วยเหลือผู้มีส่วนได้เสียในสถานการณ์ที่ยากลำบาก โดยจัดหาอุปกรณ์กำจัดเชื้อโรค เครื่องมือแพทย์ บริจาคให้แก่โรงพยาบาล สถานที่ราชการ สถานศึกษาทั่วประเทศ
นอกจากนี้ EA ยังเป็นองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน สะท้อนการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ให้ความสำคัญในเรื่องของการปฏิบัติด้านแรงงานและสิทธิมนุษยชน การปฏิบัติต่อพนักงานและผู้มีส่วนได้เสีย และเป็นบริษัทพลังงานแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการยอมรับให้เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีวัดความเสมอภาคทางเพศของ Bloomberg Gender Equality Index (GEI) เป็นปีแรก สะท้อนการเห็นคุณค่าในความแตกต่างหลากหลาย และส่งเสริมความเสมอภาคของผู้หญิงในที่ทำงาน และรายงานความโปร่งใสด้านความเสมอภาคทางเพศ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ
นอกจากนี้ EA ได้จัดตั้งกองทรัสต์ให้แก่พนักงานเป็นผลสำเร็จ เพื่อเสริมความมั่นคงทางการเงินให้แก่พนักงานและเป็นการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ สร้างคุณค่าร่วมเพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน และรักษาบุคลากรระยะยาวไว้กับบริษัทฯ โดยจะมีการพิจารณาคัดเลือกจากผู้ที่มีผลการปฏิบัติงานโดดเด่น เข้าเป็นผู้รับประโยชน์จากกองทรัสต์
มิติด้านบรรษัทภิบาล : ในการดำเนินธุรกิจของ EA ได้ให้ความสำคัญในเรื่องความโปร่งใสและการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน โดยได้รับการรับรองเข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (Thailand’s Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption : CAC) นับเป็นก้าวสำคัญในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในระดับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านบรรษัทภิบาลของบริษัท
คุณอมร กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ EA ประสบความสำเร็จด้านความยั่งยืน จนได้รับการยอมรับมาจาก 3 องค์ประกอบหลัก คือ
- ความมุ่งมั่นจะอยู่ใน Green Business ซึ่งตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา EA มีแนวทางที่จะดำเนินธุรกิจและเติบโตไปในทิศทางที่เป็นธุรกิจสีเขียวมาโดยตลอด
- การนำเอานวัตกรรมมาประยุกต์และต่อยอดความสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น การนำเอาปาล์มดิบมาวิจัยและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม อย่างเช่น กรีนดีเซล (Green Diesel) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงประสิทธิภาพสูงที่ทำให้การเผาไหม้และการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ดีเซลมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น สามารถช่วยลดมลพิษ และลดฝุ่น PM2.5 ตลอดจนพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ทั้งเรือไฟฟ้า MINE SMART FERRY และรถโดยสารไฟฟ้า MINE BUS ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยกระดับการเดินทาง เพื่อสร้างเมืองไร้มลพิษอย่างยั่งยืน ขณะที่แผนในอนาคต EA จะนำเทคโนโลยีมาผลักดันธุรกิจให้อยู่ในห่วงโซ่ที่มี Value Added มากขึ้น
- ต้องคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรอบด้าน โดยการทำธุรกิจ EA มีหลักการว่าต้องยุติธรรมกับทั้งคู่ค้า ลูกค้า ผู้ถือหุ้น รวมถึงพนักงาน และต้องดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสด้วยการชี้แจงข้อมูล พร้อมมีกระบวนการตรวจสอบอย่างชัดเจน
สำหรับแผนการเติบโตในด้านความยั่งยืนในอนาคต คุณอมร กล่าวว่า EA จะใช้นวัตกรรมเป็นตัวนำเพื่อสร้างมูลค่า และเมื่อบริษัทสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ก็จะสามารถช่วยเหลือสังคมและสิ่งรอบตัวได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นอันดับแรกที่ต้องทำคือ สร้างมูลค่าเพิ่มในธุรกิจที่ไม่เอารัดเอาเปรียบสังคม และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
“เมื่อสิ่งแวดล้อมเดินทางมาจนถึงช่วงวิกฤต จึงเริ่มมีกติกาโลกเกิดขึ้นหลาย ๆ อย่าง เพื่อลงโทษคนที่ทำธุรกิจโดยที่ไม่คำนึงถึงเรื่องของสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล เช่น ในสหภาพยุโรปมีการออกมาตรการ CBAM ซึ่งเป็นมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป หากเราทำธุรกิจแล้วมีส่วนทำลายสิ่งแวดล้อมก็จะถูกกีดกันทางการค้า ด้วยการเก็บภาษีจำนวนมาก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความได้เปรียบในเชิงแข่งขัน ดังนั้นภาคธุรกิจจำเป็นต้องเริ่มต้นด้านความยั่งยืนตั้งแต่วันนี้ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมและเพื่อตัวเอง”
เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
.
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
.
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #EA #บริษัทพลังงานสะอาด #ESG #สิ่งแวดล้อม