ช่วงเวลาที่โลกต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจและโรคระบาดต่าง ๆ ทำให้ต้องยอมรับว่าเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้จ่ายของเราไปมากพอสมควร
.
อย่างไรก็ดี ในทางกลับกันกลุ่ม ‘สินค้าฟุ่มเฟือย’ อย่างกระเป๋า เครื่องประดับ นาฬิกาฯ จากแบรนด์หรูกลับเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้แบรนด์หรูเหล่านั้นมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าพันดอลลาร์สหรัฐ
.
ซึ่งในปี 2022 ที่ผ่านมาแบรนด์หรูที่นำทัพด้วย Louis Vuitton, Dior, Tiffany & Co. จากอาณาจักร LVMH ก็ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เพียงเท่านี้ในอาณาจักร LVMH ยังมีแบรนด์หรูอื่น ๆ อาทิ Celine, Fendi, Givenchy ฯ ทำให้อาณาจักรแห่งนี้กลายเป็นที่รวบรวมแบรนด์หรูขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและผู้เป็นเจ้าของคือมหาเศรษฐีอันดับที่ 3 ชาวฝรั่งเศสอย่าง คุณ Bernard Arnaultและตระกูลนั่นเอง
.
ต่อมาก็ตามมาด้วย Hermes แบรนด์หรูที่มีอายุมากกว่าร้อยปี ที่สำหรับในประเทศไทยก็มีคุณ แป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดจำหน่ายภายใต้บริษัท บริษัท ซังออนอเร่ (กรุงเทพ) จำกัด
.
แบรนด์ขวัญใจสาว ๆ อย่าง Chanel ที่หลาย ๆ คนซื้อไว้เพื่อเก็งกำไรและมีราคาที่พุ่งสูงขึ้นทุกปีอีกด้วย และยังมีอีกหนึ่งอาณาจักรแบรนด์หรูที่ครองใจกลุ่มลูกค้าไว้ได้ดีเช่นกัน ก็คือ Kering เจ้าของแบรนด์หรูอย่าง Gucci, Saint Laurent และอื่น ๆ อีกมากมาย
.
และจากภาพอินโฟกราฟิกจะเห็นได้แล้วว่ามูลค่าของแบรนด์หรูเหล่านี้สูงขึ้นเรื่อย ๆ เลยทีเดียวถึงแม้ว่าสินค้าส่วนใหญ่จะจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยก็ตาม สะท้อนให้เห็นแล้วไม่ว่าจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจอย่างไร แต่คำว่า’ของมันต้องมี’ คงใช้ได้จริง ๆ กับสินค้าเหล่านี้..
.
.
ที่มา :Satisa, LVMH, Kering
เขียนและเรียบเรียง : อโญศิริ สุระตโก
.
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
.
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #แบรนด์เนม #แบรนด์หรู #LVMH #Kering #Hermes #Chanel