ใช้ วิกฤตเป็นโอกาส ในสไตล์ จีน ควบคุม ราคาบ้าน เพื่อประชาชนในประเทศ
ใช้ วิกฤตเป็นโอกาส ในสไตล์ จีน ควบคุม ราคาบ้าน เพื่อประชาชนในประเทศ

ใช้ วิกฤตเป็นโอกาส ในสไตล์ จีน ควบคุม ราคาบ้าน เพื่อประชาชนในประเทศ

แม้จะมีการเติบโต แต่ถ้ากับประเทศจีนที่เป็นความหวังของโลกทั้งใบ ถ้าหากโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ทำให้เศรษฐกิจโลกโดนกดดันได้ โดยล่าสุดยอดการเติบโตค้าปลีกของจีนในเดือนสิงหาคม 2021 ที่ผ่านมาเติบโตเพียง 2.5% เท่านั้น ซึ่งนับว่าต่ำที่สุดในปีนี้เลยก็ว่าได้ และต่ำกว่าที่สำนักงานสถิติของทางการจีนคาดการณ์วี่ต่ำกว่า 7% ไปไกลมาก ฝากการผลิตของฝากอุตสาหกรรมก็มีการโตต่ำกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อยที่ 5.3% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบกับคาดการณ์ที่ 5.8% ขณะที่การลงทุนในทรัพย์สินที่ให้ผลตอบแทนคงที่สำหรับแปดเดือนแรกของปีเพิ่มขึ้น 8.9%

โดยผลลัพธ์นี้มาจากการที่ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาทางประเทศจีนมีการควบคุมการระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์เดลต้าอย่างเข้มงวดจนถึงกลางเดือนสิงหาคม และภายใต้นโยบายนี้ทำให้การเดินทางภายในประเทศถูกควบคุม ซึ่งไปกระทบต่อการจับจ่ายของประชาชนอย่างเลี่ยงไม่ได้ในช่วงวันหยุดยาว นาย Larry Hu หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ชาวจีนของทางบริษัท Macquarie มองว่า “มันยากมากที่ยอดค้าปลีกจะกลับมาฟื้นคืน ในระดับเดียวกับก่อนช่วงการระบาดของโคโรน่าไวรัสภายใต้นโยบายอันเข้มงวดแบบนี้ นานแค่ไหนที่ภาครัฐของจีนจะใช้นโยบายแบบนี้ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับอัตราการฉีดวัคซีน และประสิทธิภาพวัคซีน ผมคิดว่าจะถูกคงแบบนี้ไปจนถึงช่วงก่อนโอลิมปิกเกมส์ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า”

ผลกระทบของอสังหาริมทรัพย์

โดยนาย Fu Linghui ซึ่งเป็นโฆษกของทางสำนักงานสถิติของจีน มองว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะต้องเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ทั้งในแง่กระบวนการก่อสร้างและการดำเนินงาน ผลกระทบจะเกิดขึ้นทั่วทั้งอุตสาหกรรมจากการสังเกต โดยขณะนี้ทางการจีนกำลังพยายามควบคุมการเก็งกำไรในตลาดนี้อยู่ รวมไปถึงอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงอย่างอุตสาหกรรมก่อสร้าง ถ้าเราจำกันได้ที่แอดมินเคยวิเคราะห์ไปว่าประเทศจีนกำลังมีการเขย่าโครงสร้างประเทศใหม่ เพื่อกระจายความเท่าเทียมกันในแง่รายได้ซึ่งจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของชาวจีนให้เกิดขึ้นในประเทศ ภายใต้นโยบายที่เรียกว่า “Common Prosperity”

คำถามที่น่าสนใจคือ การเข้มงวดกับอุตสาหกรรมนี้ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนนั้นหรือไม่ เพราะราคาบ้านที่ถูกเก็งกำไรถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ชาวจีนเผชิญหน้ากับค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยธุรกิจเหล่านี้คิดเป็น 25% ของมูลค่า GDP ของประเทศจีนเลยทีเดียว จากการประเมินของ Moody’s

ซึ่งอีกเรื่องที่เกี่ยวข้องก็คือการที่ตอนนี้รัฐบาลจีนเข้มงวดกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมากผ่านการใช้หนี้เพื่อขยายธุรกิจของพวกเขา จนตอนนี้ยักษ์ใหญ่ด้านนี้อย่างบริษัท China Evergrande ถูกเตือนถึงสองครั้งในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา บนความเป็นไปได้ที่ตราสารหนี้ของพวกเขาจะผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 ถึงเดือนสิงหาคม 2021 อัตราการเติบโตของการลงทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้นถึง 10.9%

การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือน

การลดความเสี่ยงในตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับจีนในตอนนี้ โดยตัวเลขการลงทุนของกองทุนส่วนบุคคลของจีนลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์ถึง 65% เลยทีเดียว (เก็งกำไร) โดยในรายงานเพิ่มเติมด้วยว่ารายได้ของฝากครัวเรือนในจีนมีมากถึง 10% มาจากอสังหาริมทรัพย์ เงินกู้บ้านค่อย ๆ เพิ่มขึ้นใน 7 ปีหลังสุดพุ่งขึ้นไปแตะ 36.6 ล้านล้านหยวน เมื่อสิ้นสุดเดือนมิถุนายน หรือเติบโต 13% YoY ต่ำกว่าปี 2020 เล็กน้อยที่ 14.5%

เราอาจจะเห็นการควบคุมโคโรน่าไวรัสอย่างเข้มงวดจากจีน จนทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจในระยะสั้นเติบโตไม่มาก แต่หากมองดี ๆ ก็จะเห็นว่า มันคือหนึ่งในการสร้างโอกาสบนวิกฤต เพราะเมื่อเศรษฐกิจในระยะสั้นไม่ดี สินค้าต่าง ๆ ก็มีแนวโน้มจะปรับราคาลดลง โดยเฉพาะกับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งดำเนินธุรกิจลำบาก สร้างใหม่ก็ยาก ขณะที่หนี้ที่กู้มาก็มีดอกเบี้ยรออยู่ ซึ่งถ้าหากชำระไม่ได้สิ่งที่ตามมาคือ ตลาดเก็งกำไรจะพังทลายลง ผสานกับการควบคุมการออกตราสารหนี้ในกลุ่มนี้ให้เข้มงวด

เห็นอะไรไหมครับนี้คือการทุบตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเอาราคาลงรึเปล่า ซึ่งเป็นผลดีกับประชาชนโดยภาพรวม ที่จะมีโอกาสเข้าถึงการซื้อบ้านมากขึ้น

เขียนและเรียบเรียง : เอกพล มงคลพัฒนกุล

ที่มา : CNBC

ติดตาม Business+ ได้ที่ thebusinessplus.com
Line Business+ ได้ที่ https://lin.ee/pbIHCuS

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #จีน #สีจิ้นผิง #เศรษฐกิจจีน #อสังหาริทรัพย์ #ก่อสร้าง #Realestate