The Business Plus บิสิเนสพลัส
หลังจากที่เราได้ส่องตลาด E-commerce ในไทยกันไปแล้ว วันนี้เป็นคิวที่เราจะมาส่องโปรไฟล์เพื่อนบ้านอาเซียนอย่าง ฟิลิปปินส์กันบ้าง ว่าตอนนี้พวกเขาไปถึงไหน และมีแนวทางการเติบโตอย่างไรกันบ้าง
.
ก่อนอื่นเรามาดูภาพรวมของอาเซียนกันก่อน มีการประเมินจาก vir.com ระบุว่าอุตสาหกรรม E-commerce ของภูมิภาคอาเซียนเติบโตอย่างรวดเร็วมากกว่าบลาซิล จีน และอินเดีย จากร้อยละ 5 ปี 2564 ขึ้นเป็นร้อยละ 9 ในปี 2564
.
ปัจจุบันมูลค่าสินค้ารวมของตลาด E-commerce อาเซียนสูงถึง 132 พันล้านเหรียญสหรัฐ และในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีมูลค่าสูงถึง 254 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 14 ต่อปี
.
โดยเฉพาะหลายประเทศในอาเซียนที่จะเติบโตหลายเท่าและน่าจับตามองเป็นอย่างมากทั้ง เวียดนามที่คาดว่าจะเติบโตเป็น 4.5 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2564 ฟิลิปปินส์ 3.8 เท่า และอินโดนีเซีย 1.6 เท่า
.
.
E-commerce ฟิลิปปินส์
แน่นอนว่าด้วยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ E-commerce ของฟิลิปปินส์เติบโตได้นั้น ก็คงหนีไม่พ้นเหล่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่มากขึ้น หรืออุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยี ที่ทำให้การเข้าถึง และการใช้จ่ายบนตลาด E-commerce เป็นเรื่องง่ายขึ้น
.
มีรายงานจาก We are social and Hootsuite เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมาระบุว่า ฟิลิปปินส์มีอัตราการใช้อินเตอร์เน็ตเฉลี่ยเพิ่มสูงถึง 10 ชั่วโมง 56 นาทีต่อวัน ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลก
.
ซึ่งปัจจุบันประชากรฟิลิปปินส์มีมากกว่า 108 ล้านคน มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากกว่า 76 ล้านคน และใช้จ่ายบนตลาด E-commerce ราว 25 ดอลล่าร์เหรียญสหรัฐ ต่อคนต่อปี (ราว 822 บาท)
.
ทำให้ปีที่ผ่านมาตลาด E-commerce ของฟิลิปปินส์มีมูลค่ารวมกว่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าปี 2568 จะมีมูลค่ารวมกว่า 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ตามการคาดการณ์ของ นาย Yi Ping Liao นักวิจัยอาวุโสและผู้ช่วยผู้จัดการพอร์ตการลงทุน
.
ทีนี้เรามาดูพฤติกรรมผู้บริโภค E-commerce ของชาวฟิลิปปินส์กัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วนิยมใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Lazada ตามมาด้วย Shopee และ Zalora
.
ในช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมาผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ช้อปปิ้งสินค้าหมวดหมู่ เครื่องใช้ในบ้าน (Household appliance) มากที่สุด ซึ่งคาดว่าจะมีเงินสะพัดมากถึง 1.59 แสนล้านหรียญสหรัฐในปีนี้ และมากถึง 3.18
แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2565 ตามมาด้วยเหล่าผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skincare) ที่คาดว่าจะมีการใช้จ่ายมากกว่าเป็น 2 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
.
ทั้งนี้ยังได้มีการพูดถึง “อัตราการเจาะตลาด E-commerce” (E-commerce penetration rate) ของฟิลิปปินส์ที่มีเพียงร้อยละ 5 (โดยส่วนภูมิภาคอาเซียนจะอยู่ที่ร้อยละ 6 สิงค์โปร์มีอัตราเจาะตลาดมากที่สุดที่ร้อยละ 14 รองลงมาคือ อินโดนีเซียอยู่ที่ร้อยละ 8)
.
ซึ่งยิ่งอัตราการเจาะตลาดต่ำ ก็หมายความว่ารูมเติบโตทางตลาดยิ่งมีมากขึ้น ซึ่งจะเป็นช่องทางโอกาสใหม่ ๆ ให้กับนักลงทุน และผู้ประกอบการในการเสริมแติมแต่งสินค้าและบริการใหม่ ๆ ในตลาดได้อีก จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ตลาด E-commerce ของฟิลิปปินส์เป็นตลาดที่น่าจับตามอง
.
E-commerce เวียดนาม
ส่วนด้านเวียดนาม อย่างที่ทราบกันดีว่าภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามเติบโตโดดเด่นเป็นอย่างมาก ซึ่งในด้านของอุตสาหกรรม E-commerce เวียดนามมีขนาดตลาดเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน (อันดับหนึ่งอินโดนีเซีย และรองลงมาเป็นประเทศไทย)
.
ปัจจุบันประชากรเวียดนามมากกว่า 97.3ล้านคน ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากกว่า 47 ล้านคน และใช้จ่ายบนตลาด E-commerce ราว 65 ดอลล่าร์สหรัฐต่อคนต่อปี (หรือราว 2,138 บาท) ทำให้มีมูลค่าตลาดมากถึง 6 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ
.
อย่างไรก็ตามเมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้ว จะพบว่าภาพรวมการเติบโต E-commerce ของฟิลิปปินส์และเวียดนาม ทั้งด้านมูลค่าตลาด หรือค่าเฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อหัวยังค่อนข้างห่างกันอยู่ระดับหนึ่ง แม้อาจจะยังเป็นรองอยู่ แต่ในภาพรวมการเติบโตถือว่าน่าสนใจทีเดียว
เขียนและเรียบเรียง : ธนัญญา มุ่งสันติ
ข้อมูล : ditp / ecommercedb.com / ecommerce-asean-guide
.
Line Business+ ได้ที่ https://lin.ee/pbIHCuS
.
