ธอส.ทำให้คนไทยมีบ้านด้วยโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สานต่อ “โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2)” ภายใต้กรอบวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท มุ่งเน้นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผู้ที่เริ่มต้นทำงานสร้างครอบครัว และผู้สูงอายุ ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก 1.99% ต่อปี ให้กู้ซื้อที่อยู่อาศัยราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1,200,000 บาท ทั้งบ้านใหม่ บ้านมือสอง และทรัพย์ NPA ของ ธอส. เงินงวดคงที่งวดละ 5,000 บาท นานถึง 84 งวดแรก (กรณีกู้ 1.2 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี)

หนึ่งในธนาคารชั้นนำของไทยที่มีเป้าหมายผลักดันความฝันของไทยที่อยากมีบ้านให้เป็นจริงมากที่สุด หากไม่มีชื่อของ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ คงเป็นไปไม่ได้ โดยในปีที่ผ่านมาได้มีสินเชื่อปล่อยใหม่ไปแล้วกว่า 132,300 ล้านบาท (ตัวเลข ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2564) โดยสินเชื่อที่ได้รับการตอบรับสูงสุดประกอบด้วย โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ยอดอนุมัติ 30,100 ล้านบาท โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรักยอดอนุมัติ 13,100 ล้านบาท และสินเชื่อบ้านลูกค้าสวัสดิการ ธอส.ยอดอนุมัติ 12,500 ล้านบาท ผลงานตรงนี้ช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำให้ทาง ธอส. อีกครั้ง และล่าสุด ธอส. ได้ช่วยให้คนไทยมีบ้านเพิ่มขึ้น นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ธอส.ได้สานต่อ “โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2)” ภายใต้กรอบวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท

สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1,200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรกเท่ากับ 1.99% ต่อปี ปีที่ 5-7 เท่ากับ MRR -2% ต่อปี และปีที่ 8 ถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป เท่ากับ MRR -0.75% ต่อปี กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR -1% ต่อปี และกรณีกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารอยู่ที่ 6.150% ต่อปี) ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี เงินงวดคงที่ 84 งวดแรก ( 7 ปี ) กรณีกู้ 1,200,000 บาท ผ่อนชำระงวดละ 5,000 บาท ในช่วง 84 งวดแรก ให้กู้เพื่อซื้อบ้าน หรือห้องชุด ทั้งที่เป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ บ้านมือสอง และทรัพย์ NPA

ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อปลูกสร้าง และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยพร้อมซื้อบ้านหรือห้องชุด พิเศษ!! ธอส. ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการมีบ้านให้กับลูกค้าด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียม 4 ประเภท ประกอบด้วย 1.ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินกู้) 2.ค่าประเมินราคาหลักประกัน (1,900-2,300 บาท) 3.ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (1,000 บาท ต่อราย) และ 4.ค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง (1% ของวงเงินจำนอง)

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีบ้านเป็นของตนเอง ธอส. จึงได้ผ่อนปรนเงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสมรวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ประกอบอาชีพประจำหรืออาชีพอิสระ ธนาคารยังเปิดให้นำหลักฐานการชำระค่าเช่าบ้าน หรือผ่อนชำระเงินดาวน์บ้านไม่น้อยกว่า 12 เดือนมาใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อ และหากไม่สามารถแสดงหลักฐานที่มาของรายได้ ให้ธนาคารพิจารณาได้ ให้ลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ Financial Literacy และออมอย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าเงินงวดผ่อนชำระเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 9 เดือน เพื่อใช้เป็นหลักฐานการพิจารณาสินเชื่อกับธนาคารได้ต่อไป

สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถรับรหัสเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ได้ โดยการดาวน์โหลด Mobile Application : GHB ALL และกดลงทะเบียนเพื่อรับรหัสเข้าร่วมโครงการ เมื่อทำตามขั้นตอนครบถ้วนแล้วลูกค้าจะได้รับรหัส 9 ตัวทาง Application Line GHB Buddy (ตัวอักษร 3 ตัว และตัวเลข 6 ตัว)เพื่อนำมาแสดงในการยื่นขอสินเชื่อ และทำนิติกรรมได้ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2566 หรือ ก่อนเต็มกรอบวงเงินของโครงการ

โดยในโครงการนี้ ธอส. ยังได้นำบ้านมือสองของธนาคาร หรือทรัพย์ NPA ทั่วประเทศ จำนวนกว่า 1,500 รายการ ที่มีราคาขายไม่เกิน 1,200,000 บาท ลดราคาสูงสุดถึง 50% จากราคาจำหน่ายปกติมาเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 จองซื้อก่อนได้สิทธิ์ก่อน พิเศษ!! ธอส. ลดภาระค่าใช้จ่ายให้อีก 3 ต่อสำหรับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ NPA ต่อที่ 1 เลือกใช้มาตรการผ่อนดาวน์ดอกเบี้ย 0% นานถึง 12 เดือน ก่อนยื่นกู้โดยใช้อัตราดอกเบี้ยของโครงการบ้านล้านหลังระยะที่ 2 ต่อที่ 2 ฟรี! ค่าประกันอัคคีภัย 3 ปีแรก สำหรับลูกค้า 150 รายแรก ที่ซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 2 เดือน นับจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขาย และต่อที่ 3 วางเงินประกันการซื้อทรัพย์เพียง 5,000 บาท ทุกรายการ ดูข้อมูลทรัพย์ NPA ที่เข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลังได้ที่ www.ghbhomecenter.com หรือ Mobile Application : G H Bank Smart NPA และ Line Official Account : @GHB NPA

ทั้งนี้ ธอส. ดำเนินโครงการบ้านล้านหลัง ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2562 ภายใต้กรอบวงเงินสินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อย (Post Finance) รวม 50,000 ล้านบาท ให้กู้ซื้อที่อยู่อาศัยราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1,000,000 บาท และเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 ที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้ปรับราคาซื้อขายและวงเงินกู้เป็นไม่เกิน 1,200,000 บาท กรณีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก 3.00% ต่อปี กรณีรายได้เกิน 25,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก 3.00%ต่อปี ล่าสุด 53,000 ราย วงเงินรวมกว่า 40,000 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (Pre Finance) ของโครงการบ้านล้านหลังมีผู้ประกอบการได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว 12 โครงการ วงเงินสินเชื่อกว่า 1,251 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติอีก 3 โครงการ วงเงินสินเชื่อ 150 ล้านบาท

ล่าสุด ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2564 เวลา 9.00 น. มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 72,515 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 87,018 ล้านบาท มีผู้ยื่นขอสินเชื่อที่สาขาแล้วจำนวน 6,279 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 5,477.23 ล้านบาท อนุมัติสินเชื่อแล้วจำนวน 5,104 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 4,560 ล้านบาท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคาร อาคารสงเคราะห์ และติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL และ www.ghbank.co.th

ติดตาม Business+ ได้ที่ thebusinessplus.com
Line Business+ ได้ที่ https://lin.ee/pbIHCuS

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #ธอส #โครงการบ้านล้านหลัง