ทำไม RS ถึงลุยตลาดสัตว์เลี้ยง? ส่องกลยุทธ์หลังบ้านสู่ธุรกิจ Entertainmerce

ในช่วงที่โลกภายนอกมีแต่เรื่องโรคระบาดที่น่ากลัว สภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ การได้อยู่ภายในบ้านที่ปลอดภัย กับเพื่อนคู่ใจอย่างสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักคงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้ตามมาก็คือ ‘อาหารสัตว์’ ที่เหล่าทาสแมวทาสสุนัข เป็นใจทุ่มให้เกินร้อย

 

‘อาหารสัตว์’ ถือเป็นหนึ่งในตลาดขนาดใหญ่ทั้งในไทยและทั่วโลก มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการคาดการณ์จาก ResearchAndMarkets ระบุว่า ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกจะเติบโตจาก 72.07 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563 เป็น 75.29 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 4.5% ซึ่งคาดว่าปี 2568 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 90.32 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 304,704 ล้านบาท

 

ในส่วนประเทศไทยก็มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องทุกปี เฉลี่ย 10% โดยมีมูลค่าตลาดกว่า 39,000 ล้านบาทในปี 2563 ซึ่งอาหารสัตว์เลี้ยง คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 45% หรือราว 17,600 ล้านบาท 

 

ปัจจัยสำคัญมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงมีการกลายพันธุ์และส่งผลกระทบระยะยาว ผู้คนยังต้องอยู่บ้านมากขึ้น การทำงานในรูป work from home จนเป็นเรื่องปกติ และการตัดสินใจที่จะไม่มีบุตร อยู่เป็นโสด รวมถึงสภาวะการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย การสัตว์เลี้ยงจึงอีกเทรนด์ที่เติบโตไม่น้อย

 

และในกระแสความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นนี่เอง ทางด้านบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ก็หันมาลุยตลาดสัตว์เลี้ยงเต็มตัว พร้อมเปิดตัวแบรนด์ ‘Lifemate’ ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง จำหน่ายสินค้าชนิดแรกด้วย อาหารเม็ด โดยเริ่มวาง Brand Positioning กลุ่มพรีเมียม เจาะลูกค้ากลุ่มอัพเพอร์ สแตนดาร์ด เน้นสื่อสารเป็นสินค้าเกรดดี มีคุณภาพ ในราคาที่เข้าถึงง่าย เนื่องจากมองว่ากลุ่มอีคอนโนมี ค่อนข้างอิ่มตัว แต่ในตลาดกลุ่มกลางถึงกลุ่มพรีเมียมมีโอกาสโตสูงกว่า 

 

สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ ‘เฮียฮ้อ’ ได้ให้สัมภาษณ์ในวันแถลงข่าวว่า “ธุรกิจอาหารคือปัจจัยสี่ ที่ขาดไม่ได้ ปัจจุบันบรรดาทาสแมว ทาสสุนัขทั้งหลายก็พร้อมจ่ายเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดให้สัตว์เลี้ยงของตัวเอง เสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว ซึ่งส่วนตัวก็มีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเองอยู่แล้ว และเข้าใจความต้องการในฐานะลูกค้าเช่นกัน รวมถึงเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยง จึงเป็นจุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจสำคัญในการทำ ‘Lifemate’”

 

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 320 ล้านบาท ภายในปี 2565 กินสัดส่วนตลาดอาหารสัตว์ (Market Share) 10% พร้อมกับมีแผนปล่อยสินค้าพรีเมียมอื่น ๆ เพิ่มเติม ทั้งอาหารเปียก ขนม อาหารเสริมวิตามินต่าง ๆ 

 

สำหรับตลาดสัตว์เลี้ยงในไทย ถือว่ามีตลาดขนาดใหญ่ และส่งออกมาที่สุดติด Top 3 ตลาดโลก

ปัจจุบันมีบริษัท 3 รายใหญ่ครองสัดส่วนอยู่ไม่น้อย โดยผลประกอบการปี 2563 ที่ผ่านมา 

 

บริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป จำกัด เจ้าของแบรนด์ Smart Heart, Me-O, LUVCare, APro สามารถทำรายได้รวมกว่า 11,293 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.97% (YoY) 

และมีกำไรสุทธิ 596 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101.48% (YoY) 

-คิดเป็นสัดส่วน 28.95% ของตลาดสัตว์เลี้ยงในไทย

 

บริษัท มาร์ส เพ็ทแคร์ (ประเทศไทย) จำกัด (เจ้าของแบรนด์ Pedigree, whiskas, Cesar, Sheba, IAM) ในปี 2563 มี

รายได้รวม 7,705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.82% (YoY)

กำไรสุทธิ 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.74% (YoY)

-คิดเป็นสัดส่วน 19.75% ของตลาดสัตว์เลี้ยงในไทย

 

บริษัท โรยัล คานิน (ประเทศไทย) จำกัด (ROYAL CANIN)

รายได้รวม 1,702 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.89% (YoY)

กำไรสุทธิ 250 ล้านบาท ลดลง 22.2% (YoY)

-คิดเป็นสัดส่วน 4.36% ของตลาดสัตว์เลี้ยงในไทย

 

ในส่วนของ RS แม้จะรู้จักกันในนามธุรกิจเพลง หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ เติบโตและกวาดรายได้มหาศาลจากธุรกิจพาณิชย์                                     

 

ซึ่งปัจจุบันโครงสร้างรายได้ RS สัดส่วนของธุรกิจพาณิชย์มีมากถึง 64% ธุรกิจสื่อ 31%  และธุรกิจเพลงและอื่น ๆ อยู่ที่ 5%  โดยผลประกอบการช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา แม้บริษัทจะมีรายได้รวม 2,843.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.83% แต่กำไรสุทธิกลับลดลง 54.55% หรือราว 193.47 ล้านบาท 

 

สาเหตุหลักมาจากแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง ทำให้กําลังซื้อของผู้บริโภค และเม็ดเงินโฆษณามีทิศทางการหดตัวจากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นผลให้ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ชะลอตัว

 

อย่างไรตามก็เป็นที่น่าจับตามองว่า RS จะมีการปรับกลยุทธ์ด้วยการพัฒนาธุรกิจสู่ ‘Digital Entertainmerce’ ดันธุรกิจคอมเมิร์ซและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ขยายเป็น Entertainmerce Ecosystem แบบครบวงจร ซึ่งในอนาคตอาจจะได้เห็นทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สำหรับของคนและสัตว์เลี้ยงจำหน่ายหลากหลายช่องทาง รวมถึงคอนเทนท์ต่าง ๆ ที่สำคัญยังมี ‘Pop coin’ ที่กำลังจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้อีกด้วย

 

ฉะนั้นการเปิดตัวแบรนด์ Lifemate ของ RS ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนย่อยของวงโคจรธุรกิจขนาดใหญ่ของบริษัทฯ เพื่อลุยตลาดสัตว์เลี้ยงที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น เป็นที่น่าติดตามกันต่อไปว่าในอนาคต RS จะมีทิศทางธุรกิจอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะการปรับตามพฤติกรรมและเทรนด์ของโลก และเรื่องของคริปโตเคอเรนซี่ที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้

 

ข้อมูล : SET / datawarehouse
ผู้เขียน : ธนัญญา มุ่งสันติ