The Business Plus บิสิเนสพลัส
“คุณจะรู้ว่าใครเป็นเพื่อนคุณก็ในตอนนี้ที่คุณตกที่นั่งลำบาก”
คำพูดนี้ใช้ได้คลาสสิกตลอดกาล และนาทีก็คงไม่มีประเทศไหนเหมาะกับคำนี้มากไปกว่าประเทศแอฟริกาใต้อีกแล้ว หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่าง โอไมครอน จนถูกประเทศในกลุ่ม G7 ที่นำโดย สหราชอาณาจักร และประเทศในกลุ่มอียู รวมไปถึงสหรัฐ แบนการเดินทางพร้อมยกเลิกเที่ยวบินที่มาจากทางประเทศแอฟริกา จนนายซีริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ออกแสดงความไม่พอใจต่อมาตรการที่กลุ่มประเทศเหล่านี้บังคับใช้กับประเทศของเขา
ล่าสุดประเทศจีนโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เตรียมจะจัดส่งวัคซีนอีก 1,000 ล้านโดสไปให้ทางประเทศแอฟริกา พร้อมสนับสนุนให้บริษัททั้งหลายของจีนลงทุนไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในระยะเวลา 3 ปีจากนี้ เรียกว่าช่วยยับยั้งไวรัสไม่พอ ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ด้วย
ประเทศแอฟริกาถือว่ามีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำกว่าเป้า สาเหตุหนึ่งก็เพราะกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วไม่ได้บริจาควัคซีนมาให้ตามที่คุยโวเอาไว้ โดยทางจีนจะบริจาค 600 ล้านโดสก่อน และอีก 400 ล้านโดสจะมอบให้ผ่านวิธีอื่น ๆ โดยอาจจะเป็นการผลิตร่วมกันระหว่างบริษัทจากจีนและประเทศในทวีปแอฟริกาทั้งหลาย นอกจากนี้จีนจะสร้างโครงการด้านสุขภาพ 10 โครงการในแอฟริกา พร้อมส่งผู้เชี่ยวชาญกว่า 1,500 คนไปช่วย
โดยสุนทรพจน์ที่ทางประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้พูดผ่านวีดีโอในงานเปิด China-Africa Cooperation ได้กล่าวว่า จีนพร้อมจะสนับสนุนเงินทุนในรูปสกุลเงินหยวนให้กับทางสถาบันการเงินของแอฟริกา พร้อมวงเงินปล่อยกู้สูงสุด 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปราศจากเงื่อนไขใด ๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้จีนจะมอบอีก 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนการค้าด้านส่งออกของแอฟริกา (ส่งออกอะไร สินค้าส่งออกเหล่านั้นใครลงทุน จีน เองรึเปล่า) รวมไปถึงการสร้างเขตร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจ และสวนอุตสาหกรรมจีนแอฟริกา ปัจจุบันจีนนำเข้าสินค้าประเภท น้ำมัน และแร่ จากแอฟริกาเป็นหลัก โดยคาดว่ามูลค่าจะแตะ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน 3 ปีจากนี้ พร้อมกันจะมีการร่วมมือกันในด้านอื่น ๆ อีกไม่ว่าจะเป็น สาธารณสุข นวัตกรรมดิจิทัล การสนับสนุนการค้า และการพัฒนาสีเขียว
ที่มา : CNBC
เขียน : เอกพล มงคลพัฒนกุล
