ความต้องการ พีซีและแท็บเล็ต พุ่ง!! ปี 2564 การจัดส่งพีซีและแท็บเล็ตสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 500 ล้านเครื่อง

จะเห็นว่า ธุรกิจต่าง ๆ กำลังปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคหลัง COVID-19 และรูปแบบการทำงานแบบ Remote Workers โดยเราให้คำจำกัดความของพนักงานใช้ทักษะความรู้ (Knowledge Workers) ว่า เป็นผู้ที่ต้องใช้ความรู้หรือทักษะด้านวิชาชีพเป็นหลัก อาทิ นักเขียน นักบัญชี หรือ วิศวกร และยังให้ความหมายของพนักงานที่ไม่ได้ทำงานในสำนักงาน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ หรือเอกชน หรือที่หน้างานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน ว่าเป็นพนักงานกลุ่มไฮบริด (Hybrid Workers) กับพนักงานที่ต้องทำงานระยะไกลเต็มตัว (Fully Remote Workers)

“แรงงานกลุ่มไฮบริด คือ อนาคตของโลกการทำงาน ทั้งการทำงานระยะไกล (Remote) และการทำงานในสถานที่ต่าง ๆ (On-site) ซึ่งล้วนเป็นแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและตอบโจทย์ความจำเป็นด้านแรงงานของนายจ้าง” ดังนั้น รูปแบบการทำงานระยะไกลขององค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก มีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยเราคาดว่าในปีหน้า 31% การทำงานของพนักงานทั่วโลกจะเป็นการทำงานระยะไกล (ผสมผสานกันระหว่างแบบไฮบริดและแบบเต็มเวลา) โดยประเทศสหรัฐอเมริกาจะเป็นผู้นำกลุ่มพนักงานระยะไกลที่มีสัดส่วนสูงถึง 53%

ส่วนประเทศต่าง ๆ ในทวีปยุโรป คาดว่า สหราชอาณาจักรจะมีสัดส่วนของพนักงานระยะไกลที่ 52% ขณะที่เยอรมนีและฝรั่งเศสมีสัดส่วนที่ 37% และ 33% ตามลำดับ ขณะที่อินเดียและจีนเป็นสองประเทศที่จะผลิตพนักงานระยะไกลเพิ่มจำนวนมากที่สุด แต่อัตราการเติบโตโดยรวมยังค่อนข้างต่ำ โดยอินเดียอยู่ที่ 30% จีนอยู่ที่ 28%

ผลกระทบการจัดหาและนำเทคโนโลยีไปใช้งานจนถึงปี 2567

ผลกระทบจากการทำงานระยะไกล กำลังส่งผลให้มีการประเมินโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีจากความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้ซื้อที่ต้องการทำงานได้จากทุกที่

“ตลอดปี 2567 องค์กรต่าง ๆ จะถูกบังคับให้ต้องเตรียมแผนรับมือการเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปสู่ดิจิทัลภายใน 5 ปี โดยแผนจะต้องปรับให้เข้ากับโลกยุคหลัง COVID-19 เกี่ยวข้องกับการทำงานระยะไกลและเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีดิจิทัลรอบด้าน” โดยผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลจะมีบทบาทสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านขององค์กร และในแผนระยะยาวจำเป็นต้องมีการลงทุนต่อเนื่อง เพื่อดำเนินการจัดเตรียมเทคโนโลยีสำหรับใช้ทำงานระยะไกลเป็นอันดับแรก รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ อาทิ ไฮเปอร์ออโตเมชัน, AI และเทคโนโลยีการทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในด้านสถานที่และบทบาทการทำงาน

แน่นอนว่า การทำงานแบบไฮบริดจะเพิ่มความต้องการพีซีและแท็บเล็ตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในปี 2564 จะมีการจัดส่งพีซีและแท็บเล็ตสูงสุดเป็นประวัติการณ์มากกว่า 500 ล้านเครื่อง ซึ่งตอกย้ำถึงความต้องการของทั้งตลาดในกลุ่มองค์กรธุรกิจและกลุ่มผู้บริโภค

หลายองค์กรต้องเปลี่ยนและปรับใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อหลายอย่าง เพื่อให้มั่นใจว่า ธุรกิจจะดำเนินต่อไปได้แม้พนักงานต้องทำงานระยะไกล และภายในปี 2567 การเข้าใช้งานเทคโนโลยีการทำงานระยะไกลทั้งหมดอย่างน้อย 40% จะผ่านระบบเครือข่ายแบบ Zero Trust Network Access (ZTNA) โดยเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ต่ำกว่า 5% ณ สิ้นปี 2563 ขณะที่องค์กรส่วนใหญ่จะยังให้บริการลูกค้าผ่านระบบเครือข่าย VPN โดย ZTNA จะกลายเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาทดแทนหลัก

เขียน : มร. แรนจิท แอทวัล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยการ์ทเนอร์

ติดตาม Business+ ได้ที่ thebusinessplus.com
Line Business+ ได้ที่ https://lin.ee/pbIHC

#BusinessPlus #PC #Tablet #ธุรกิจ #อุตสาหกรรม #RemoteWork #ทำงานระยะไกล