ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การรุกตลาดในปี 2017 นี้ เอปสันมีนโยบายที่จะนำนวัตกรรมใหม่และเปิดสายธุรกิจใหม่เพื่อนำสินค้าอื่น ที่นอกเหนือจากพรินเตอร์เข้าสู่ตลาด
ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมหุ่นยนต์แขนกลเพื่อรุกตลาดอุตสาหกรรมและโรงงานผลิต โดยจะเป็นหุ่นยนต์ขนาดกลาง มีความเที่ยงตรงแม่นยำ เจาะกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลางที่ต้องการเพิ่มกระบวนการผลิต อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงอุตสาหกรรมต่อเนื่องในรถยนต์
โดยการทำตลาดนั้นจะต้องมีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง SI ช่วยในการขาย ซึ่งปัจจุบันเอปสันมีพาร์ทเนอร์เกือบ 10 เจ้า และปีนี้คาดว่าจะเติบโตในส่วนของตลาดตรงนี้ประมาณ 150% โดยนอกจากจะมีหุ่นยนต์ขนาดกลางแล้ว เอปสันยังมีหุ่นยนต์สำหรับอุตสาหรกรรมขนาดใหญ่ แต่จะเป็นในส่วนของบริษัทแม่เป็นผู้ขาย
นอกจากนี้เอปสันยังได้เตรียมอิงค์เจ็ตพรินเตอร์ความเร็วสูง ที่จะเข้ามาแข่งขันโดยตรงกับเลเซอร์พรินเตอร์ และโปรเจ็กเตอร์เชิงธุรกิจที่ได้รับการพัฒนา ให้มีขนาดที่กระทัดรัด ติดตั้งง่าย และใช้งานได้ด้วยระบบสัมผัส หรือ Gesture Presenter เพื่อเข้ามาสร้างตลาดใหม่ๆ อีกด้วย
สำหรับทิศทางธุรกิจของเอปสันนั้น ในปีนี้ได้ตั้งเป้าเติบโตโดยรวมไว้ที่ 7% ซึ่งมาจากยอดขายในตลาดประเทศไทยที่คาดว่าจะโตเพิ่มขึ้น 5% และตลาดต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 15% โดยได้กำหนดแนวทาง การดำเนินธุรกิจในภูมิภาคนี้ โดยมุ่งเน้นที่จะพัฒนาใน 4 ด้าน ได้แก่ International Business, Core Business, Business Solution และ Business Revolution
International Business หรือธุรกิจในตลาดต่างประเทศ เอปสันจะยกระดับความเข้มข้นในการทำการตลาด ในตลาด CLMV มากยิ่งขึ้น เพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนไป โดยจะปรับระบบการบริหารจัดการให้ดำเนินงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นำสินค้าใหม่เข้าไป เปิดตัวในตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายในปัจจุบันและเพิ่มจำนวน พาร์ทเนอร์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าในเมืองสำคัญอื่นๆ มากขึ้น
สำหรับ Core Business หรือธุรกิจหลัก เอปสันจะยังมุ่งรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดทั้งในส่วน ของ L-Series และโปรเจ็กเตอร์ต่อไป มุ่งจัดกิจกรรมการรตลาดและสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับข้อได้เปรียบและประโยชน์ที่เทคโนโลยีของเอปสันสามารถมอบให้กับลูกค้าได้ ด้าน Business Solution หรือ โซลูชันทางธุรกิจ เอปสันจะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ใหม่ในการพัฒนาโซลูชั่นบนคลาวด์และโมบายโซลูชั่น ทั้งสำหรับเครื่องพิมพ์ประเภทต่างๆ และแว่นตาอัจฉริยะของเอปสัน เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ
ส่วนด้าน Business Revolution หรือการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ เอปสันมีนโยบายที่จะนำนวัตกรรมใหม่ พร้อมกับ เปิดสายธุรกิจใหม่ในตลาดเข้ามานำเสนออย่างต่อเนื่อง
ยรรยง กล่าวว่า นอกจากโฟกัสทางธุรกิจทั้ง 4 ด้านแล้ว เอปสันจะได้ทำแคมเปญสื่อสารการตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในโอกาสที่บริษัทฯ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 26 ในปีที่ผ่านมา เอปสันได้ใช้งบประมาณราว 30 ล้านบาทในการทำแคมเปญ #TrustInYou โดยนำคุณค่า 3 ประการจากปรัญชาองค์กร ได้แก่ Passion ความมุ่งมั่น ความคิดสร้างสรรค์และ นวัตกรรม ซึ่งเป็นสูตรความสำเร็จในการทำธุรกิจ มาใช้ในการสื่อสารแบรนด์ผ่านกลยุทธ์ Expert Endorsement โดยได้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมพิเศษ ให้ผู้บริโภคได้มีโอกาส engage กับแบรนด์และมีประสบการณ์ที่ดีกับสินค้าของเอปสันได้มากยิ่งขึ้น