ออริจิ้นส่ง Notting Hill Sukhumvit 105 ยึดทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ออริจิ้นเปิดโครงการที่ 35 Notting Hill Sukhumvit 105 มูลค่า 2,350 ล้านบาท ยึดหัวหาดส่วนต่อขยาย รถไฟฟ้าสายสีเขียว คาด 3-5 ปีขึ้นแท่น “New Lifestyle CBD”

 

Notting Hill Sukhumvit

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคักอีกครั้ง เห็นได้จากผู้เล่นในตลาดทยอยเปิดโครงการใหม่ ๆ กันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าบนย่านทำเลทองอย่างสุขุมวิท ที่ส่วนใหญ่เน้นเจาะตลาดไฮไรซ์กันเป็นดอกเห็ด

 

แต่อีกหนึ่งโลเคชั่นที่น่าจับตามองไม่แพ้กันคือ ส่วนต่อขยาย รถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่มีจำนวนผู้เล่นไม่มาก หนึ่งในนั้นคือ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ไนท์บริดจ์, นอตติ้ง ฮิลล์ และเคนซิงตันที่ให้ความสำคัญกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวมาตลอด โดยได้พัฒนาโครงการทั้งบนส่วนต่อขยายเดิม อ่อนนุช-แบริ่ง และส่วนต่อขยายช่วงใหม่ แบริ่ง-สมุทรปราการแล้ว รวม 19 โครงการ มูลค่ากว่า 10,248 ล้านบาท

 

ทั้งนี้เมื่อมามองความได้เปรียบของโลเคชั่นดังกล่าว จะพบว่ามีปัจจัยบวกถึง 4 ปัจจัย ได้แก่ 1. มีสถานีรถไฟฟ้าที่สร้างเสร็จก่อนรถไฟฟ้าสายอื่นและสามารถเดินทางเข้าสู่ย่านธุรกิจใจกลางเมือง (CBD) ได้ภายใน 20-30 นาที 2. เป็นย่านที่อยู่อาศัยแนวราบที่เป็นที่นิยมมาก่อน รวมถึงจะมีการขยายตัวของย่านธุรกิจการค้าในอนาคต 3. การคมนาคมสะดวก ติดทางด่วนเฉลิมมหานคร ทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษบางพลี-สุขสวัสดิ์ 4. ระดับราคาคอนโดมิเนียมยังไม่สูงมากนัก

 

Notting Hill Sukhumvit

พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ออริจิ้นยังให้ความสำคัญกับทำเลสายสีเขียวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ นอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105 (Notting Hill Sukhumvit 105) ขึ้นเป็นโครงการที่ 20 บนทำเลรถไฟฟ้าสายนี้ และเป็นโครงการที่ 35 ของออริจิ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์สถาปัตยกรรมโมเดิร์นคลาสสิกสไตล์อังกฤษ

 

 

โดยห้องพักอาศัยแบ่งออกเป็น 7 แบบ ขนาดตั้งแต่ 25.50-43.50 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.99 ล้านบาท/ยูนิต ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 75,000 บาท/ตารางเมตร รวมมูลค่าโครงการ 2,350 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นราคาที่คุ้มที่สุดในโซนสถานีบีทีเอสที่ปกติราคาจะเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ภายในเดือนมิถุนายน 2560 และจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 1/2562

 

พีระพงศ์-จรูญเอก-ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-บริษัท-ออริจิ้น-พร็อพเพอร์ตี้-จำกัด-มหาชน

 

พีระพงศ์ยังกล่าวถึงภาพรวมการลงทุนของบริษัทต่อไปว่า สำหรับปีที่ผ่านมา ออริจิ้นประสบความสำเร็จอย่างมากจากโปรเจ็กต์ Launch 2016 (9 Project) ที่สามารถทำรายได้กว่า 70% สำหรับทิศทางการลงทุนปี 2560 ออริจิ้นตั้งเป้าสู่การเป็น Your Digital Butler โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่ม 9 โครงการ ยึดตลาดพรีเมียมแมส มูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท และคาดหวังยอดขายทั้งปี 13,000 ล้านบาท