อาหารสมอง

10+1 อาหารที่สมองควรกิน : อาหารสมอง สำหรับคนใช้สมอง

รู้หรือไม่ว่า สมอง ก็ต้องการ อาหารสมอง ที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดการบำรุงรักษา และส่งผลในการทำงานที่ดีต่อระบบความคิดด้วยเช่นกัน ซึ่งหากสมองได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ก็จะส่งผลให้ระบบความคิดของเราราบรื่นขึ้น อีกทั้งยังต่อเนื่องไปยังการสั่งการต่าง ๆ ของร่างกาย เรามาดูกันดีกว่าว่าอาหารสมอง 10+1 อาหารที่สมองควรกิน มีอะไรบ้าง

จริงๆ แล้วการเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ยังคงเป็นพื้นฐานการบำรุงสุขภาพและเป็น อาหารสมอง ที่ดีเยี่ยม ส่วนการรับประทานอาหารชนิดอื่นเพิ่มเสริมเข้าไป ก็จะยิ่งช่วยให้การบำรุงรักษาสมองนั้นได้ผลดียิ่งขึ้น

โดยอาหารแต่ละประเภทก็มีส่วนเสริมสร้างบำรุงต่างกันไป ดังเช่นอาหาร 10 ประเภทนี้

1.ปลาทะเลน้ำลึก จำพวก ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์สมอง โอเมก้า 3 ในเนื้อปลาป้องกันโรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน รวมถึงความผิดปกติทางจิต เช่น โรคซึมเศร้าและอารมณ์รุนแรง

อาหารสมอง

2.ไข่ ช่วยในการพัฒนาระบบการทำงานของสมอง โดยสารโคลินในไข่ไก่ทำหน้าที่สำคัญในการพัฒนาการทำงานของสมองและความจำ

อาหารสมอง

3.อาหารประเภทธัญพืช เช่น เมล็ดดอกทานตะวัน เมล็ดงา เมล็ดแฟลกซ์ ที่มีโปรตีนสูง มีไขมันดี และวิตามินสูง อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มสารอาหารกระตุ้นสมอง มีแมกนีเซียมทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงสมองได้ดี เต็มไปด้วยเส้นใยอาหาร มีปริมาณโปรตีนที่เหมาะสม และเป็นอาหารอีกชนิดที่มีโอเมก้าสูง

 

4.พืชตระกูลถั่ว ไม่ว่าจะเป็นเฮเซลนัท อัลมอนด์ ถั่วลิสง แมคคาเดเมีย และวอลนัทราชาแห่งถั่ว ล้วนอุดมไปด้วยโปรตีน ไฟเบอร์สูง และมีไขมันดีมาก เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ช่วยทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง โปรตีนและไขมันช่วยให้ร่างการสมดุล และวิตามินอีช่วยในเรื่องกระบวนการคิดและจำ

อาหารสมอง

5.แครอท กระตุ้นให้สมองทำงานอย่างสดชื่นแบบเร่งด่วน หากรับประทานแครอทอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะช่วยกระตุนให้มีความจำที่ดี อีกทั้งแครอทยังช่วยบำรุงสายตา โดยสารเบต้าแคโรทีนในแครอทช่วยบำรุงเนื้อเยื่อชั้นในของดวงตา หรือที่เรียกว่า เรติน่า

การรับประทานแครอทบ่อย ๆ ทำให้สมองสดชื่นและถนอมดวงตารักษาโรคตาฟางและต้อกระจก มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย รักษาโรคความดันโลหิตสูง รักษาระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มประสิทธิภาพในระบบไหลเวียนของเลือด

อาหารสมอง

6.แปะก๊วย เป็นพืชสมุนไพรที่ใช้ในการรักษาโรคสมองเสื่อม โรคซึมเศร้า อาการหลง ๆ ลืม ๆ นิยมใช้เพื่อปรับปรุงระบบไหลเวียนโลหิตในสมอง เพราะเมื่อสมองขาดเลือดไปหล่อเลี้ยงย่อมเสื่อมสมรรถภาพและฝ่อลงในที่สุด ส่งผลต่อการทำงานและประสิทธิภาพของสมอง 

แปะก๊วยเป็นสมุนไพรที่มีมาตั้งแต่โบราณ มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศจีน และถูกนำมาใช้ในการแพทย์จีนติดต่อกันมายาวนานกว่า 5,000 ปี โดยในอดีตแพทย์จียนิยมนำแปะก๊วยมาบำบัดอาการไอ หืด และภาวะภูมิแพ้

อาหารสมอง
ขอบคุณภาพจาก https://krua.co

7.ผักโขม ลดอาการความจำเสื่อมโดยเฉพาะในผู้หญิง หากหญิงวัยกลางคนรับประทานผักโขมร่วมกับผักใบเขียวชนิดอื่น ๆ เป็นประจำ จะช่วยลดอาการความจำเสื่อมได้ปี 2 ปี อีกทั้งยังมีเอนไซม์ที่ดีต่อความแข็งแรงของเซลล์ปลายประสาท เสริมความแข็งแรงของตัวรับส่งข้อมูลระหว่างเซลล์ประสาท มีกรดโฟลิกสูงที่ดีต่อการจดจำ ควรกินผักโขมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง 

นอกจากนั้น ผักโขมยังมีประโยชน์อีกมากมาย ทั้งช่วยป้องกันมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคโลหิตจาง ความดันโลหิต ช่วยขับปัสสาวะ และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล เต็มไปด้วยสารอาหารที่ดี เช่น โปรตีน วิตามิน กรดอะมิโน และแร่ธาตุต่าง ๆ

อาหารสมอง
ขอบคุณภาพจาก www.honestdocs.co

8.ผลไม้รสเปรี้ยวตระกูลเบอร์รี่ ได้แก่ บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ เชอร์รี่ จะช่วยเสริมสุขภาพสมอง ระบบหมุนเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง ลดความดันโลหิตสูงให้สมดุล มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเพิ่มความสามารถในการคิดและระดับไอคิวได้ดี ป้องกันการเสียความจำระยะสั้น

อีกทั้งยังช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ประสาทในฮิปโปแคมปัสที่ทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อความทรงจำ โดยเฉพาะบลูเบอร์รี่สดจะดีต่อความทรงจำระยะยาวมากที่สุด และมีวิตามินซีเพิ่มด้วย

  • สตรอว์เบอร์รี่ – อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ มีสารต้านอนุมูลอิสระถึง 3 ชนิด คือ เคอซิติน เคมเพอรอล และเอนโทไซยานิน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน ป้องกันโรคหวัด ลดอาการภูมิแพ้ และโรคช่องปากที่เกิดจากการขาดวิตามินซีได้เป็นอย่างดี
  • บลูเบอร์รี่ – ช่วยลดการระคายเคืองในระบบทางเดินปัสสาวะ ป้องกันโรคเบาหวาน ไทฟอยด์ ระบบหายใจผิดปกติ บรรเทาอาการผิดปกติในลำไส้ใหญ่ ท้องผูก โรคกระเพาะอาหาร ทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานดีขึ้น เสริมสร้างความแข็งแรงให้ผนังหลอดเลือด และแน่นอนว่าอุดมไปด้วยวิตามินซี และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
  • ราสเบอร์รี่ – มีไขมันและแคลอรี่ต่ำ อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย มีกรดเอลลาจิกที่ช่วยในการป้องกันมะเร็ง อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์
  • เชอร์รี่ – ป้องกันโรคเบาหวาน ช่วยให้นอนหลับง่าย ลดความเสี่ยงของอาการเส้นเลือดในสมองตีบ

อาหารสมอง

9.แอปเปิล การดื่มน้ำแอปเปิลวันละประมาณ 2 แก้ว หรือรับประทานแอปเปิลวันละ 2-3 ลูก มีส่วนช่วยเพิ่มการสร้างสื่อประสาทในสมองที่ชื่อว่าอะเชทิลโคลีน ซึ่งเป็นตัวกำหนดความสามารถในการเรียนรู้และการจดจำ เพิ่มประสิทธภาพสมองส่วนฮิปโปแคมปัสซึ่งช่วยชะลอภาวะสมองเสื่อมได้

อาหารสมอง

10.ช็อกโกแลต ช่วยกระตุ้นสมอง มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยระบบหมุนเวียนเลือด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง อีกทั้งยังช่วยพัฒนาความจำได้ถึง 20% และยังผลิตสารเอ็นดอร์ฟินและเซโทรินที่เป็นสารแห่งความสุขในสมอง ทำให้อารมณ์ดี

อาหารสมอง

นอกจาก อาหารสมอง ที่เหมาะสมกับการบำรุงสมองแล้ว รู้หรือไม่ว่าสมองก็ต้องการกินสิ่งที่เรียกว่า ข้อมูล ด้วยเช่นกัน ซึ่งข้อมูลที่ว่านี้หมายถึงการกระตุ้น หรือประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เราได้รับจากภายนอกผ่านกิจกรรมต่าง ๆ นั่นเอง หรือเรียกอีกอย่างว่า สมองกินอาหารผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 เป็นประจำทุกวัน

อาหารสมอง

ไม่ใช่เฉพาะเด็กเล็กเท่านั้นที่จะเหมาะกับการกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 เพราะที่จริงแล้วสมองของเราจะได้รับการกระตุ้นและเริ่มเจริญเติบโตอย่างเต็มที่สุด ๆ เมื่อเข้าสู่วัยทำงานนั่นเอง

การเปิดรับประสบการณ์ใหม่ต่าง ๆ ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ทำให้สมองมีพัฒนาการมากขึ้น เนื่องจากสมองจะได้รับความทรงจำใหม่ รวมไปถึงการคิด วิเคราะห์ใหม่ และได้แก้ปัญหาใหม่ในสถาการณ์ที่ต่างไปจากความเคยชิน

เช่น การตั้งเป้าหมายในแต่ละวันและทำภารกิจให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวให้ได้ การฟังเพลงแนวใหม่ที่ไม่เคยฟัง อ่านหนังสือที่ไม่เคยอ่าน ดูหนังแนวที่ไม่เคยดู หรือแม้แต่การเดินทางไปในเส้นทางใหม่ ๆ 

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้สมองมีพัฒนาการและเติบโตก้าวหน้า ไม่หยุดนิ่งและเคยชินกับเรื่องเดิม ๆ จนไม่เกิดการคิดวิเคราะห์อะไรใหม่ ๆ และไม่เพิ่มความรู้ความเข้าใจใดใดในองค์ความรู้และหน่วยความจำของเรา 

หากลองทำสิ่งเหล่านี้ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารบำรุงสมอง ก็จะช่วยให้เราสามารถใช้สมองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแน่นอน

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                  

อาหารสมอง

ขอบคุณภาพประกอบจาก www.shutterstock.com