ทำไมวัยรุ่นเทสดีถึงชอบใช้ ‘Spotify’?

‘ฟังเพลง’ ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะหลายคน ๆ คงต้องเคยเผชิญปัญหาไม่รู้จะฟังอะไร ฉะนั้น Music Streaming ที่เลือกใช้จึงสำคัญ เพราะจะช่วยให้เราแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ดี

แล้วในปัจจุบันก็มีเจ้าดัง ๆ ให้เราได้เลือกใช้บริการมากมาย แต่ในปี 2021 ที่ผ่านมาอันดับ 1 ที่สามารถครองสัดส่วนการตลาดได้ทั่วโลกก็คือ ‘Spotify’ แอปพลิเคชันสีเขียวที่เราต่างคุ้นตา

และเรื่องราวของ ‘Spotify’เป็นอย่างไร? ทำไมวัยรุ่นเทสดีถึงชอบใช้? มาหาคำตอบกันผ่านบทความนี้

ย้อนกลับไปในปี 2006 คุณ Daniel Ek และคุณ Martin Lorentzon ต้องการแก้ปัญหาการฟังเพลงที่ไม่ถูกลิขสิทธิ์ เพราะถ้าหากเราจำได้ในอดีตเราแทบจะแยกไม่ออกเลยว่าเพลงที่เราโหลดมาฟังกันอยู่นั้นถูกลิขสิทธิ์หรือไม่ อีกทั้งการที่เราฟังเพลงละเมิดลิขสิทธิ์บ่อย ๆ คงทำให้ศิลปินเสียใจไม่น้อยเพราะใคร ๆ ก็อยากให้อุดหนุนเพลงแท้เสียมากกว่า เพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้นจุดเริ่มต้นของ ‘Spotify’ จึงเกิดขึ้น และในช่วงเวลานั้นเป็นเพียงสตาร์ทอัพเล็ก ๆ ในเมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดนเท่านั้น

2 ปีถัดมาเมื่อเหล่าผู้ก่อตั้งพัฒนา Spotify สำเร็จจึงเริ่มให้เปิดใช้งานครั้งแรกขึ้น โดยเสนอให้มีจำเป็นจะต้องฟังโฆษณาไปพร้อม ๆ กับฟังเพลงฟรี ซึ่งพวกเขาหวังให้ผู้คนสมัครใช้บริการรายเดือน เพื่อที่จะไม่ต้องฟังโฆษณา ทั้งนี้เหล่าผู้ก่อตั้งยังมีแนวคิดที่ว่า “วิธีเดียวในการแก้ปัญหาคือการสร้างบริการที่ดีกว่าการละเมิดลิขสิทธิ์” และพวกเขาก็มองเห็นอนาคตของ Spotify ที่จะมีมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

Spotify ก็กำลังพัฒนาต่อมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งในปี 2015 ที่เพิ่มโลกแห่งการฟังให้หลากหลายมากขึ้นด้วย ‘Podcast’ โดยเริ่มทดลองในสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรก กระแสตอบรับดีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ตอนนี้แพลตฟอร์มนี้แห่งนี้มี Podcast กว่า 4.7 ล้านรายการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เรื่องราวมันก็เป็นไปตามที่เหล่าผู้ก่อตั้งคาดการณ์ไว้จริง ๆ เพราะในวันนี้ Spotify มีมูลค่าอยู่ที่ 15.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีมากกว่า 80 ล้านแทร็กให้เลือกฟัง ทั้งนี้จากรายงานผลประกอบการล่าสุดมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ 456 ล้านบัญชี โดยมีสมัครแบบเสียค่าบริการอยู่ที่ 195 ล้านบัญชีเลยทีเดียว

ที่น่าสนใจคือ ทำไม ‘Spotify’ ถึงมัดใจกลุ่มวัยรุ่นไว้ได้? คำตอบของเรื่องนี้คือการ ‘สุ่มเพลง’ ปัญหาใหญ่สำหรับใครหลาย ๆ คนที่ไม่รู้จะฟังอะไรดี ทั้งนี้เองคนที่ใช้ Spotify อยู่มักจะรู้กันดีว่า Music Streaming นี้เลือกสุ่มเพลงได้ดีโดนใจคุณ ตรงกับแนวเพลงที่เราชื่นชอบ ค้นพบเพลงใหม่ ๆ ได้ไม่ซ้ำจำเจ

ซึ่ง Spotify ถือว่าทำการบ้านมาดีในเรื่องนี้มากเลยทีเดียวเพราะเขาใช้ระบบวิเคราะห์ตัวผู้ฟังมากถึง 3 ระบบ ดังนี้

  • Collaborative Filtering Model เน้นวิเคราะห์พฤติกรรมของเจ้าของบัญชี และคนอื่น ๆ
  • Natural Language Processing Model วิเคราะห์ข้อมูลเนื้อหาของเพลงที่เราฟัง และหาเรื่องราวที่เกี่ยวข้องใกล้เคียงมานำเสนอเป็นสิ่งที่เราสนใจอีกครั้งไม่ว่าจะเป็นเพลง, Podcast สู่เรานั้นเอง
  • Raw Audio Model ใช้วิเคราะห์ไฟล์เพลงดิบ ๆ ใหม่ ๆ เพื่อให้เพลงเหล่านั้นถูกค้นพบ

เมื่อทั้ง 3 ระบบมารวมกันแล้วจึงไม่แปลกเลยที่ Spotify จะสามารถสุ่มเพลงให้กับเราได้อย่างตรงใจ

ไม่เพียงเท่านี้ที่สามารถครองใจกลุ่มวัยรุ่นได้ เพราะSpotifyยังสามารถสร้างเพลย์ลิสต์ส่วนตัว และให้คนอื่นมาฟังไปกับเราได้อีกด้วยหรือที่เรามักจะเห็นกันอยู่บ่อย ๆ กับการนำคำคมมาตั้งเพลย์ลิสต์นั่นเอง

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ต้องยอมรับว่า ‘Spotify’ ถือเป็น Music Streaming ที่ช่วยแก้ปัญหาให้เรื่องของการฟังเพลงเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นเยอะเลยทีเดียว และด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนามาเรื่อย ๆ รวมถึงการสุ่มเพลงที่ถูกใจ จึงไม่แปลกเลยที่วัยรุ่นเทสดีถึงเลือกใช้..

 

เขียนและเรียบเรียง : อโญศิริ สุระตโก

ที่มา :bbc, CNBC, medium

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/o9fQ6fA

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #Spotify #วัยรุ่นเทสดี #ฟังเพลง