King the Land

เรียกแขก หรือไล่แขก ? เพิ่มค่าเข้าโบราณสถาน-พิพิธภัณฑ์เฉพาะต่างชาติ หลังกระแสตามรอยละคร-ซีรีส์มาแรง

ประเทศไทย’ มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางวัฒนธรรมเป็นจำนวนมาก ถือเป็นหนึ่งประเทศที่โดดเด่นในด้านสถานที่ท่องเที่ยว มีการใช้มรดกทางวัฒนธรรมมาต่อยอดพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจนสร้างรายได้ให้กับประเทศได้มหาศาล แต่ก็ไม่เพียงแค่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศเท่านั้น ประชาชน ชุมชนรอบข้างก็ได้รับประโยชน์ไปด้วยหากสถานที่แห่งนั้นเป็นกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว

โดยไทยถูกจัดให้ติดอันดับ Top 10 จุดหมายปลายทางยอดนิยมในปี 2566 (ที่มา : Mastercard Economics Institute) ซึ่งเป็นการจัดอันดับจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่ปลายปี 2565 เนื่องจากเสน่ห์ที่โดดเด่น และนักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ

สำหรับสถานท่องเที่ยวเชิงพิพิธภัณฑ์และโบราณสถานอันสวยงามของไทยมักถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในหลายฉากของสารคดี ละคร และภาพยนตร์ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยภายหลังการออนแอร์ (On Air) ทำให้กระแสการท่องเที่ยวเชิงพิพิธภัณฑ์และโบราณมีความนิยมมากยิ่งขึ้น อย่างละครเรื่องบุพเพสันนิวาสที่โด่งดังข้ามประเทศ จนเกิดการซื้อลิขสิทธิ์ไปฉาย และความฟีเวอร์นี้ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์และโบราณสถานมากขึ้น นอกเหนือจากการท่องเที่ยวการเช่าชุดไทยใส่ตามละครก็กลายเป็น Iconic ของสถานที่ท่องเที่ยวไทยไปโดยปริยาย นับเป็นการสร้างรายได้ที่กระจายแบบทั่วถึง

ล่าสุดซีรีส์เกาหลีชื่อดัง อย่าง King the Land ก็ยกกองมาถ่ายทำที่ไทย โดยในฉากได้โชว์เอกลักษณ์ความเป็นไทย ทั้งในเรื่องอาหาร อย่าง Street Food, สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามของสถาปัตยกรรมไทย และศิลปวัฒนธรรมอื่น ๆ เรียกได้ว่าครบสูตรการโปรโมทท่องเที่ยวไทย ซึ่งภายหลังได้ออนแอร์ก็มีกระแสการตามรอยซีรีส์ King the Land เกิดขึ้น เรียกได้ว่าเป็น Soft Power ชั้นดี

ทั้งนี้เมื่อทุกอย่างมีกระแสที่ร้อนแรง ทางที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงมีมติขึ้นค่าจัดเก็บการเข้าชมและค่าบริการอื่น สำหรับโบราณสถาน และพิพิธภัณฑ์ 72 แห่ง ซึ่งให้เหตุผลว่า ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์และโบราณสถานได้ใช้มาเป็นเวลานานตั้งแต่ปี 2551 โดยอัตราค่าเข้าชมที่กำหนดใหม่ จะคงค่าเข้าชมและค่าบริการสำหรับคนสัญชาติไทยไว้ที่อัตราเดิม และปรับเพิ่มขึ้นเฉพาะกรณีของคนสัญชาติอื่น ดังนี้

1.โบราณสถานประเภทอุทยานประวัติศาสตร์ สำหรับคนสัญชาติไทย คนละ 20 บาท บุคคลสัญชาติอื่น คนละ 120-200 บาท (เดิม 100 บาท)

2.โบราณสถานประเภทแหล่งโบราณคดีหรือสถานที่สำคัญ สำหรับบุคคลสัญชาติไทย คนละ 10-20 บาท บุคคลสัญชาติอื่น คนละ 80-120 บาท (เดิม 50-100 บาท)

กำหนดอัตราค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ดังนี้

1.พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติขนาดเล็ก บุคคลสัญชาติไทย คนละ 10 บาท บุคคลสัญชาติอื่น 80 บาท (เดิม 50 บาท)

2.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขนาดกลาง บุคคลสัญชาติไทย คนละ 10-20 บาท บุคคลสัญชาติอื่น คนละ 120 บาท (เดิม 50-100 บาท)

3.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขนาดใหญ่ บุคคลสัญชาติไทย คนละ 20-30 บาท บุคคลสัญชาติอื่นคนละ 200 บาท (เดิม 100-150 บาท)

สำหรับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่มีผู้เข้าชมจำนวนมาก ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์ สำหรับบุคคลสัญชาติไทย คนละ 30 บาท บุคคลสัญชาติอื่น คนละ 240 บาท (เดิม 200 บาท)

ซึ่งการขึ้นราคาเกือบเท่าตัวนี้จึงทำให้เกิดการตั้งคำถามขึ้นมาว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วจริง ๆ ใช่หรือไม่ ที่จะปรับขึ้นราคาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพิพิธภัณฑ์และโบราณสถาน ในขณะที่การท่องเที่ยวเพิ่งกลับมาฟื้นตัว แทนที่จะเป็นการประชาสัมพันธ์เพื่อต่อยอดจากกระแสที่ได้รับแต่กลับทำสวนทาง

อีกทั้งเมื่อมีการปรับขึ้นค่าเข้า นักท่องเที่ยวอาจจะไปหาแหล่งที่เที่ยวแห่งใหม่ เนื่องจากในมุมมองอาจไม่ได้รู้สึกถึงความคุ้มค่าขนาดนั้น ไหนจะส่วนต่างที่เห็นได้ชัดจากป้ายราคาค่าเข้าของคนท้องถิ่น และคนต่างชาติ ที่มีช่องว่างระหว่างราคาชัดเจน ซึ่งหากมีสถานการณ์นี้เกิดขึ้นจะทำให้รายได้ท่องเที่ยวหายไป ไม่เพียงแค่รายได้ที่เข้าประเทศหายไป แต่รายได้ของผู้ประกอบการในระแวกนั้นก็หายไปด้วย

อย่างไรก็ดีหากมองในอีกแง่มุมนึงก็คือ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ หลังจากที่ไม่ได้มีการปรับขึ้นราคามานานกว่า 10 ปี อีกทั้งสถานการณ์ท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาฟื้นหลังผ่านพ้นสถานการณ์ COVID-19 อาจเปรียบเป็นสำนวนสุภาษิตที่ว่า ‘น้ำขึ้นให้รีบตัก’ ซึ่งก็ต้องมาติดตามกันว่าการปรับขึ้นราคาครั้งนี้จะส่งผลกระทบในเชิงบวกหรือลบมากกว่ากัน

.

ที่มา : Thaigov, IQ

.

เขียนและเรียบเรียง : ศิริวรรณ อรรถสุวรรณ

.
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.facebook.com/businessplusonline/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
.
#Businessplus #thebusinessplus #นิตยสารBusinessplus #KingtheLand #บุพเพสันนิวาส #ท่องเที่ยว #นักท่องเที่ยวต่างชาติ