SISB ตอบโจทย์การศึกษายุค 21 : Thailand Top Company Awards 2020 : รางวัล BEST INNOVATIVE EDUCATION AWARD

โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ (Singapore International School of Bangkok) หรือ SISB ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2001 มีทั้งหมด 5 แคมปัส คือ เอกมัย ประชาอุทิศ สุวรรณภูมิ เชียงใหม่ และธนบุรี ซึ่งจุดเด่นของโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ ยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) เผยว่า เป็นโรงเรียนที่สร้างโอกาสให้กับเยาวชน และมีเวทีให้แสดงความสามารถที่นอกเหนือจากตำราเรียน


สำหรับ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ เป็นโรงเรียนนานาชาติ 3 ภาษา ประกอบด้วย ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน รวมถึงอัดแน่นไปด้วยวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ยิว ฮอค โคว เล่าถึงหลักสูตรของโรงเรียนว่า

“ถ้าเราสร้างพื้นฐานที่ดีให้กับเด็กตั้งแต่ประถม เมื่อไปถึงระดับมหาวิทยาลัยเขาจะมีทางเลือกเยอะขึ้น เพราะถ้าเด็กมีพื้นฐานเกี่ยวกับเลข วิทยาศาสตร์ และภาษา ผมคิดว่าเขาได้เปรียบและมีโอกาสเลือกเยอะ อยากจะไปทางหมอ วิศวกร อยากจะไปเข้าศิลป์ ก็สามารถทำได้”

ยิว ฮอค โคว ไม่เคยหยุดนิ่ง เขาเลือกที่จะพัฒนาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับโรงเรียนเสมอ และเขาก็บอกกับเราว่า “โรงเรียนของเราได้รับการรับรองจาก ศูนย์สอบนานาชาติของเคมบริดจ์ (CIE) ให้เป็นศูนย์กลางการสอบและดำเนินการสอบ IGCSE และการสอบระดับมัธยมปลาย (A/AS Level) ตามหลักสูตรสหราชอาณาจักรด้วย 19 ปีมานี้เราไม่เคยหยุดพัฒนาเกี่ยวกับหลักสูตร เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดมาใช้กับโรงเรียน สุดท้ายก็เป็นประโยชน์ของนักเรียน

สำหรับเดือนสิงหาคมปีนี้ เราก็จะมีหลักสูตรใหม่ของมัธยมปลายเข้ามา คือ IB Diploma เข้ามาเป็นสิ่งที่สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับนักเรียนของเรา เพราะชั่วโมงนี้การศึกษาอาจจะเปลี่ยนไป ไม่ใช่เฉพาะวิชาการอย่างเดียว เราต้องเน้นทักษะสำคัญในยุค 21Century หรือ Digital 4.0 ต่าง ๆ ซึ่งก่อนที่เราจะนำหลักสูตรใหม่ ๆ เข้ามา เราจะทำตามแนวทางที่ Research ออกมา เด็กต้องเป็นอย่างไรบ้างในอนาคต ควรมีทักษะสำคัญอะไร แล้วก็ต้องมีเทคโลยีที่ตอบโจทย์ในการเรียน สถานที่ Design ให้ทันสมัย สอนทุกอย่างให้เขานำไปใช้ในการทำงานได้จริง เช่น เขาไปทำงานที่องค์กร เขาต้องคุ้นเคยกับการ Conference การใช้ Digital มาพรีเซนต์ สิ่งเหล่านี้เราถือว่าเป็นทักษะที่ควรปลูกฝังอย่างยิ่ง”

ไม่เพียงส่งเสริมในเรื่องของวิชาการเท่านั้น สำหรับโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ ยังเปิดเวทีให้นักเรียนแสดงออกในสิ่งที่ตัวเองถนัดอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ ยิว ฮอค โควเล่าว่า

“โรงเรียนของเราจะมีโรงละครชื่อว่า Silapapirom Creative art and media center โรงละครแห่งนี้มีประมาณ 407 ที่นั่ง และถือว่าเป็น Street of Art ด้วยเหมือนกัน อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เครื่องเสียงครบครัน VDO ไฟ แสง สี เสียงค่อนข้างจะเป็นมาตรฐาน หากถามว่าทำไมเราต้องมีโรงละคร เหตุผลก็คือเด็กแต่ละคนมีพรสวรรค์ไม่เหมือนกัน บางคนเก่งการแสดง  บางคนเก่งเรื่องเกี่ยวกับดนตรี โรงเรียนจึงสร้างเวทีให้เขา ซึ่งสามารถแสดงออกในสิ่งที่เขามีได้อย่างเต็มที่ เพราะเราไม่เน้นการเรียนการสอนอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องทำคะแนนให้ได้ A เพียงอย่างเดียว บางคนอาจเรียนไม่ได้ A แต่ถ้าเป็นเรื่องของพรสวรรค์ ได้ทำสิ่งที่เขารัก เขาอาจจะได้ A ก็ได้ เราต้องทำให้เขามีเวที ถ้าโรงเรียนไม่มีเวที เด็กจะไม่มีโอกาสแสดงออก”

ก่อนจบการสนทนา ยิว ฮอค โควกล่าวทิ้งท้ายว่า “นักเรียนในโรงเรียนของเรามี 2 พันกว่าคน เราเป็นที่ยอมรับจากสังคม ซึ่งสิ่งที่ทำให้ได้รับการยอมรับ ผมคิดว่าสิ่งสำคัญก็คือ นอกจากนักเรียนที่จบออกไปมีศักยภาพแล้ว เรายังมีทีมผู้บริหารที่ทำงานด้วยใจ เรามี Passion ในการนำสิ่งดี ๆ ให้ลูกหลานของผู้ปกครองและต่อสังคม”