The Business Plus บิสิเนสพลัส
มวยไทย (Muaythai) นอกจากจะเป็นกีฬาประจำชาติไทย ยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมสร้างความบันเทิงที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก มาวันนี้ก็ต้องการการปรับตัวไปพร้อมกับกระแสโลก ตามความต้องการที่หลากหลายขึ้นเรื่อย ๆ ของผู้บริโภค ถึงกับต้องลุกขึ้นมาออกหมัดด้วยท่วงท่าใหม่ เพราะตอนนี้ทุกสิ่งล้วนก้าวไปสู่โลกดิจิทัลหมดแล้ว
จิต เชี่ยวสกุล นายสนามมวยเวทีราชดำเนินคนที่ 13 และเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ของครอบครัวที่เข้ามาดูแลสนามมวยเวทีราชดำเนิน ได้ก้าวเข้ามาพลิกเกมบริหารให้เวทีมวยก้าวสู่สังเวียนดิจิทัล เร่งฟุตเวิร์กหนี Disrupt ที่เริ่มเข้ามาคุกคามมวยไทย
จุดกำเนิดเวทีมวยไทยราชดำเนิน
อดีตนายกรัฐมนตรี จอมพล ป. พิบูลย์สงคราม มีคำสั่งให้สร้างสนามมวยบนถนนราชดำเนินในปี 2484 ณ บริเวณสวนมิสกวัน มุมถนนพิษณุโลกและราชดำเนินนอก ต่อมาได้มีการพิจารณาให้เปลี่ยนจากสถานที่ที่กำหนดไว้เดิม มาเป็นสถานที่ตั้งในปัจจุบัน เนื่องจากสถานที่เดิมมีขนาดเล็กเกินไปสำหรับสนามมวย ปัจจุบันสนามมวยยังคงตั้งอยู่บนถนนราชดำเนินนอกตัดกับถนนพะเนียง ตรงข้ามกับโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
ในที่สุดสนามมวยแห่งชาติก็พร้อมสำหรับการแข่งขันนัดแรกใน วันที่ 23 ธันวาคม 2488 ตลอดระยะเวลาเจ็ดปีภายใต้การดำเนินงานของสำนักงานทรัพย์สินฯ สนามมวยราชดำเนินประสบการขาดทุนมาตลอด สำนักงานทรัพย์สินฯ จึงมีแผนที่จะวางมือและเสนอให้องค์กรเอกชนเช่าสถานที่และดำเนินกิจการกันเอง (โดยมีเงื่อนไขว่าองค์กรดังกล่าว ต้องมีคนไทยเป็นเจ้าของ) นายเฉลิม ซึ่งยังคงดำรงตำแหน่งผู้จัดการสนามมวยอยู่ ในขณะนั้นเห็นว่าไม่เหมาะสม ที่จะให้องค์กรหรือบุคคลนอกจากวงการมวยมาบริหารและดำเนินกิจการสนามมวย จึงขออนุมัติจากสำนักงานทรัพย์สินฯ ให้ตนเป็นผู้ดำเนินกิจการสนามมวย และได้ก่อตั้ง บริษัท ราชดำเนิน จำกัด ขึ้นเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2496
ตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการ บริษัท ราชดำเนิน จำกัด ได้จัดการแข่งขันมวย ณ เวทีสนามมวยราชดำเนินมาตลอด และได้ทำการขยายและปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค ตลอดจนพัฒนาสนามมวยอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นสนามมวยที่มีชื่อเสียงในระดับสากล และเป็นสถาบันมวยไทยแห่งหนึ่งในประเทศไทย
เวทีราชดำเนินจึงไม่เพียงแต่เป็นเวทีต้นแบบการจัดการแข่งขันชกมวยในระบบมาตรฐาน ที่เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เท่านั้น แต่เป็นเวทีที่เกิดขึ้นมาด้วยความยิ่งใหญ่ ภายใต้การบริหารจัดการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มาตั้งแต่การลงเอกสารสร้างเวที ก่อนที่ บริษัท เวทีราชดำเนิน จำกัด จะได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จัดการบริหารในปี 2496 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
เมื่อมวยไทยถูก Disrupt ด้วยมวยตู้
เวทีมวยราชดำเนิน คือต้นกำเนินของมวยไทยที่ได้รับมาตรฐานอันดับแรกในประเทศไทย ด้วยความเก่าขลังยาวนานก้าวสู่ปีที่ 74 ส่วนอันดับที่ 2 คือเวทีมวยลุมพินี เวทีน้อง แต่ความขลังนี้กลับถูกแทนที่ด้วยความสะดวกสบาย เมื่อมีการเข้ามาของช่องเคเบิลและการถ่ายทอดสดผ่าน TV Digital ซึ่งเมื่อ 5-10 ปีที่ผ่านมา TV Digital เติบโตขึ้น การถ่ายทอดสดของกีฬาประเภทต่าง ๆ ก็เข้ามา มวยไทยมีช่องทางการถ่ายทอดสดเยอะขึ้น จนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘มวยตู้’ ส่งผลให้คนไทยเข้าชมมวยในสนามลดลง แม้จะยังมียอดเรตติ้งมวยตู้สูงอยู่ก็ตาม
มวยไทยกับชาวต่างชาติ
มวยไทยเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวชนิดแยกไม่ได้ เป็นหนึ่งในโปรแกรมกรุ๊ปทัวร์ของชาวต่างชาติ เป็นอีกหนึ่งเดสทิเนชันที่ชาวต่างชาติปักหมุดมาเยี่ยมชม ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวประเทศจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ด้วยเหตุนี้ ทางราชดำเนินจึงตั้งทีมการตลาดขึ้นมาดูแลช่องทางออนไลน์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลมวยไทย รวมถึงการจองตั๋วเข้าชมผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้การเข้าชมและการรับรู้เกี่ยวกับมวยไทยขึ้นไปแตะความเป็นสากลมากขึ้น ซึ่งแฟนมวยไทยเองก็รอที่จะเสพข้อมูลข่าวสารอยู่แล้ว
มวยไทยติดอาวุธ ขึ้นชกบนสังเวียนดิจิทัล
“ผมกลับมาจากเรียนจบก็ตั้งทีมการตลาดสำหรับราชดำเนิน ตั้งใจประชาสัมพันธ์มวยไทยผ่านทางโซเชียลมากขึ้น ทำให้มวยไทยจับต้องได้ง่ายขึ้น และได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์หลากหลาย เพื่อให้ชาวต่างชาติเข้าถึงสนามมวยราชดำเนินได้มากขึ้น รวมถึงกลุ่มเป้าหมายที่เราตั้งใจสื่อสารออกไปคือคนรุ่นใหม่ เพราะไม่อยากให้มีแต่ชาวต่างชาติที่เข้ามาซึมซับวัฒนธรรมของเรา แต่อยากให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจกีฬาประจำชาติมากขึ้น”
จิต เชี่ยวสกุล เอ่ยถึงแผนการที่กำลังก่อร่างสร้างความเชื่อมั่น ให้คนไทยกลับมาชมกีฬามวยยังสนามมวยราชดำเนิน ซึ่งนอกจากการจัดแมทช์ชกที่ดุเดือดแล้ว สนามมวยเวทีราชดำเนินยังรับจัดเลี้ยงอีกด้วย
“เพราะว่าสนามมวยเวทีราชดำเนินเป็นมากกว่าแค่สนามมวย ตัวอาคารเองก็มีความขลังและถือว่าเป็นอีกหนึ่งโบราณสถานทรงคุณค่า บริษัทต่างชาติมาขอใช้สถานที่เพื่อจัดเลี้ยงรับประทานอาหาร เพราะต้องการซึบซับบรรยากาศของสนามมวยอันทรงเกียรติของเรา นี่ไม่ใช่แค่เวทีมวย แต่เป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การรักษาและสืบทอดต่อไป”
Muaythai vs Social
จิต เล่าว่า การอัปเดตคู่ชกบน Facebook รวมไปถึงการลง VDO คู่ชกไฮไลท์ให้ดูเป็นน้ำจิ้ม ถือเป็นการปลุกกระแสคอมวยเป็นอย่างดี เพราะเนื้อหาเหล่านี้มีคนรอเสพอยู่แล้ว เราก็สนองตอบและให้ข้อมูลกับคนที่สนใจ เท่ากับว่าช่องทาง Social ช่วยให้กระแสมวยไทยกลับมาฟูขึ้น ทั้งยังเผื่อเป็นทางหนีทีไล่หากวันหนึ่งไม่มีคนตบเท้าเข้าสนามมวยอีก…ซึ่งทีมงานก็พยายามเต็มที่ที่ในการโพรโมท เพื่อรักษาและเพิ่มยอดคนให้เข้ามาในสนามมวยมากขึ้น…มากขึ้น…
“ตอนนี้เราเพิ่มความสะดวกให้กับชาวต่างชาติด้วยการสร้างเว็บไซต์สำหรับการเข้ามาจองตั๋ว โดยไม่ต้องอาศัยทัวร์หรือไกด์นำเที่ยว สามารถจองตั๋วเองและเดินทางมาชมการแข่งขันเองได้เลย รวมถึงยังมีของที่ระลึกจำหน่ายด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้คือเรื่องราวที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ และเป็นกีฬาประจำชาติที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
โดยเฉพาะช่วงนี้มวยไทยได้รับความนิยมจากประเทศเกาหลีใต้และญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งมีชาวญี่ปุ่นมาจ้างนักมวยที่แขวนนวมแล้ว ให้ไปสอนมวยในยิมที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย การใช้โซเชียลมาเผยแพร่และทำให้เข้าถึงได้ง่าย ก็จะทำให้ Muaithai เติบโตไปได้ไกลขึ้น” จิต กล่าว
นอกจากเส้นทางบทโลกโซเชียลที่เวทีมวยราชดำเนินกำลังเร่งฟุตเวิร์คอยู่ จิตเล่าว่าทางสนามมวยเวทีราชดำเนินก็ยังมีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อื่นเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึง เช่น Traveloka และ KLOOK มาเป็นส่วนหนึ่งในการจำหน่ายบัตรเข้าชม
ในขณะที่กำลังเร่งนำมวยไทยและสนามมวยเวทีราชดำเนินก้าวสู่สังเวียนดิจิทัล จิต เชี่ยวสกุล ก็ขอฝากให้คนรุ่นใหม่ร่วมมือกันรักษาวัฒนธรรมมวยไทยให้มากขึ้น และร่วมกันผลักดันให้เสน่ห์ของมวยไทยเปล่งประกายผ่านโลกดิจิทัล
ติดตามบทความดี ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Business+ Online
