บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR ประกาศว่าที่ประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา อนุมัติการเข้าซื้อหุ้นของ บริษัท คามุ คามุ จำกัด หรือที่รู้จักกันดีคือชานมไข่มุก KAMU จากผู้ถือหุ้นเดิมมูลค่าไม่เกิน 480 ล้านบาท โดย OR ได้ส่งบริษัทย่อยคือ บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ (Modulus) เข้าไปถือหุ้น 25%
โดย OR ระบุว่า การเข้าซื้อในครั้งนี้เพื่อเสริมสร้างศักยภาพกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยเข้ามาช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้า จากเดิมที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า OR เป็นเจ้าของกาแฟชื่อดังอย่าง ‘อเมซอน’ และยังมีแบรนด์ร้านอาหารภายใต้การบริหารอีกมากมาย เช่น โอ้กะจู๋ และ Texas Chicken
ซึ่งครั้งนี้ Business+ จะเจาะข้อมูลเฉพาะในส่วนของชานมไข่มุก KAMU จากข้อมูลผลประกอบการของ KAMU
– ในปี 2560 มีรายได้ 67 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 6 ล้านบาท
– ในปี 2561 มีรายได้ 154 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21 ล้านบาท
– ในปี 2562 มีรายได้ 405 ล้านบาท กำไรสุทธิ 69 ล้านบาท
– ในปี 2563 มีรายได้ 362 ล้านบาท กำไรสุทธิ 97 ล้านบาท
โดยอัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ยต่อปี (CAGR) คือ 239.71% ซึ่งราคาสินค้าของ KAMU มีตั้งแต่ 40 บาท ไปจนถึง 120 บาท
ทั้งนี้เรามาลองวิเคราะห์จากผลประกอบการและเงินลงทุน ว่า ดีลนี้จะสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทได้มากน้อยแค่ไหน และคืนทุนในระยะเวลาเท่าไหร่?
หากคำนวนแบบกำปั้นทุบดินจากสัดส่วนที่ มอดูลัส ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ OR (OR ถือหุ้น 100%) เข้าไปถือหุ้น 25% เท่ากับว่า มอดูลัส จะบันทึกเฉพาะในส่วนของกำไรของ KAMU ตามสัดส่วนการถือหุ้น คือ 25% ของกำไรสุทธิทั้งหมด
ทาง ‘Business+’ จึงประเมินกำไรจาก KAMU ที่ มอดูลัส จะบันทึกเข้ามาคือราว ๆ 24.25 ล้านบาท (คำนวณจากกำไร 97 ล้านบาทในปี 2563) และการที่ มอดูลัส เป็นบริษัทย่อยของ OR (ถือหุ้น 100%) จะทำให้ OR บันทึกทั้งรายได้และกำไรจาก มอดูลัสได้ทั้งหมด 100% คือ 24.25 ล้านบาท เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อประเมินจากอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิจะเห็นว่า KAMU มีการเติบโตที่ก้าวกระโดด ดังนั้นในปี 2564 หากประเมินการเติบโตแบบเว่อวังอลังการว่า KAMU จะเติบโตได้ปีละ 1 เท่าตัว (100%) อาจจะได้เห็นการเติบโตของกำไรสุทธิขึ้นไปแตะระดับ 194 ล้านบาท (บนสมมุติฐานการเติบโต 100% จากปี 2563)
และในปี 2565 อาจจะได้เห็นการเติบโตของกำไรสุทธิขึ้นไปแตะระดับ 388 ล้านบาท ดังนั้นในปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ OR จะสามารถบันทึกกำไรจาก KAMU ได้เต็มปี ซึ่งการรับรู้กำไรตามสัดส่วนถือหุ้น คือ 97 ล้านบาท
เท่ากับว่า ดีลนี้จะคืนทุน (Pay Back Period) ภายใน 4 ปี 9 เดือน นั่นเอง คำนวนจากมูลค่าเข้าซื้อ 480 ล้านบาท บนเงื่อนไขที่ KAMU เติบโตได้ปีละ 1 เท่าตัว (ยังไม่รวมต้นทุนอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมเงินทุน และความอ่อนไหวจากผลกระทบด้านบวก หรือลบอื่น ๆ)
ถึงแม้จำนวนเงิน 97 ล้านบาท คิดเป็นเพียง 1.10% จากกำไรสุทธิรวมในปี 2563 แต่แน่นอนว่า การเข้าลงทุนในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน (non-oil) ทำให้ OR มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ non-oil มากขึ้น และสัดส่วนธุรกิจน้ำมันลดลง ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ OR ที่จะลดการพึ่งพารายได้จากน้ำมันลง เพราะน้ำมันนั้น เป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป หรือใช้เวลานานกว่าจะกว่าจะเกิดขึ้นมาทดแทน
เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ข้อมูล : SET , OR ,KAMU
ติดตาม Business+ ได้ที่ thebusinessplus.com
Line Business+ ได้ที่ https://lin.ee/pbIHCuS
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #SET #OR #KAMU #ชานมไข่มุก