OR “ก้าวสู่สิ่งที่ดีกว่า” : Thailand Top Company Awards 2020 รางวัลอุตสาหกรรมค้าปลีกค้าส่ง

“ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเสมอ เรื่องของเทคโนโลยีก็เช่นกัน หากปรับตัวได้ไวโดยนำเทคโนโลยีไปใช้ ยิ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคและพาให้องค์กรก้าวสู่ความสำเร็จได้เร็วมากยิ่งขึ้น”


สำหรับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ถือเป็นบริษัท Flagship ของกลุ่ม ปตท. ที่ประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องของการบริหารจัดการในองค์กรและความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือเรื่องของการนำเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งการนำเทคโนโลยีมาใช้นี้ก็เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เพราะองค์กรฟังเสียงผู้บริโภคเป็นหลัก

จากที่องค์กรคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (Customer Focus) จึงมีการคิดค้นและพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด อีกทั้งจากการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค พบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปในลักษณะต้องการความรวดเร็วมากขึ้น ต้องการความสะดวกสบาย และเมื่อได้ทราบถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคแล้ว จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เล่าถึงการนำเทคโลยีมาปรับใช้ว่า

“สำหรับธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน จะเห็นได้ว่า PTT Station สาขาสามย่านตรงจุฬาฯ เรามีการจัด Layout ของสถานีบริการน้ำมันแตกต่างจากที่อื่น เพื่อที่จะให้ Flow ของผู้เข้าเติมน้ำมันมีความสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ยังนำตู้จ่ายที่เป็นระบบอัตโนมัติมาใช้เพื่อเพิ่มความเร็วของการเติมน้ำมัน เพิ่มความเร็วในการให้บริการแก่ผู้บริโภคได้มากกว่าตู้จ่ายแบบเดิม ที่เหนือไปกว่านั้น เรายังมีช่องสัญญาณแจ้งว่าตู้จ่ายช่องไหนที่ว่างอยู่ เพื่อให้ผู้บริโภคเห็นชัดเจนในการเข้าใช้บริการ เพราะว่าเรื่องความสะดวกและความรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้บริโภค เราจึงใช้เทคโนโลยีและการออกแบบมารองรับ

 ในส่วนของ Café Amazon ผู้บริโภคสามารถออเดอร์ล่วงหน้าจากมือถือเข้ามายังแอปพลิเคชัน และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญสำหรับสังคมไร้เงินสดก็คือ เราใช้ E-Wallet และ QR Code ที่รองรับการซื้อสินค้าและบริการที่ Café Amazon รวมถึงสถานีบริการน้ำมัน PTT Stationด้วย

 ไม่เพียงแต่ในส่วนของ Front – End เท่านั้น ในส่วนของ Back – End ทางโออาร์ยังนำเทคโนโลยีมาใช้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบการขนส่งน้ำมันซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของโออาร์ที่นำ GPS ติดตามรถบรรทุก โดยจับสัญญาณได้ตลอดว่าคนขับรถบรรทุกขับเกิน Limit หรือมีอาการง่วงนอนหรือไม่ ก็จะมีระบบแจ้งเตือนมายังสำนักงาน

รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อความโปร่งใส เนื่องจากทางด้านของสถานีบริการน้ำมัน PTT Station และ Café Amazon มีผู้ต้องการสมัครเป็น Dealer และ Franchisee จำนวนมาก องค์กรต้องการลดการส่งเอกสารด้วยกระดาษเพื่อลดข้อสงสัยในเรื่องของการลัดคิว โดยเปลี่ยนมาใช้การ Running Number ด้วยระบบ Digital ของผู้ที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาแทน

แม้เทคโนโลยีจะเป็นส่วนขับเคลื่อนให้องค์กรก้าวไปข้างหน้ามากยิ่งขึ้น แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่าเทคโนโลยีที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จก็คือเรื่องของ ‘คน’ จิราพรเล่าว่า

“หลักการของความสำเร็จอยู่ที่พนักงานและผู้บริหารทั้งหมด โดยเฉพาะผู้นำของโออาร์ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งใด เมื่อคุณมีลูกทีม ต้องใช้หลัก 5E สำหรับ E ที่หนึ่งคือ Envisioning นั่นคือเราต้องกำหนดวิสัยทัศน์เพื่อที่จะทำให้องค์กรมุ่งมั่นไปข้างหน้าได้ประสบผลสำเร็จ E ที่สองคือ Explaining การสื่อความนี้นำมาซึ่งการกำหนดแผนธุรกิจ ซึ่งการกำหนดแผนธุรกิจ เราทำในลักษณะของ Bottom line และ Top down เพื่อที่จะทำให้แผนธุรกิจตอบสนองความต้องการทางด้านกลยุทธ์และวิสัยทัศน์ E ที่สามคือ Executing เราต้องทำให้แผนธุรกิจนั้นเสร็จในเวลาด้วยต้นทุนที่คุ้มค่า E ที่สี่คือ Evaluating สื่อถึงคนที่เป็นผู้นำในทุกระดับ จะต้องดูงานในแผนธุรกิจที่ทำกันไว้ ติดตามว่าระหว่างทางทีมงานว่ามีปัญหาอุปสรรคอะไรติดอยู่บ้าง ผู้นำจะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา และอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ E ที่ห้า ก็คือ Engaging เมื่อทางด้านของผู้นำดูแลพนักงานและเป็นที่ปรึกษา พนักงานก็จะมีความผูกพันกับองค์กรและหัวหน้า”

 เมื่อในองค์กรมีทั้งเทคโนโลยีและการบริหารงานอย่างมืออาชีพ เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นสูตรสำเร็จที่ลงตัวของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) แล้ว