ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผย 5 ทำเลทองอสังหาฯ ปี 62 บ้านจัดสรร ย่านบางใหญ่-บางบัวทองรุ่ง ส่วนคอนโดยต้องย่านห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง
5 ทำเลทองอสังหาฯ ปี 62
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า จากการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในพื้นที่กรุงเทพฯ–ปริมณฑลในช่วงครึ่งแรกปี 2562 พบว่า ภาพรวมของอุปทานโครงการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ–ปริมณฑล ในช่วงครึ่งแรกปี 2562 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2561
ทั้งโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุด และคาดว่าตลอดทั้งปี 2562 ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะติดลบ 5-7% และคาดว่าจะชะลอตัวต่อเนื่อง โดยในปี 2563 จะติดลบ 3-5% ถ้าภาครัฐไม่มีมาตรการออกมาช่วยพยุงธุรกิจ นอกจากนี้ จะเริ่มเห็นผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จัดโปรโมชั่นเพื่อระบายสต๊อกบ้านและคอนโดอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อบ้าน ทั้งซื้อเพื่อยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อการลงทุนระยะยาว แต่อย่างไรก็ดี ไม่แนะนำให้ซื้อเพื่อเก็งกำไร เพราะจะทำให้ราคาปรับสูงขึ้นโดยไม่เป็นไปตามกลไกตลาดอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม โครงการอาคารชุดที่อยู่อาศัย (คอนโดมิเนียม) ในเมืองโดยเฉพาะในแนวรถไฟฟ้า ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเทรนด์ของผู้บริโภคเจนเนอเรชั่นใหม่ จะนิยมซื้อที่อยู่อาศัยที่สามารถเดินทางไปทำงานด้วยรถไฟฟ้า ก่อนจะซื้อรถยนต์ ซึ่งจะแตกต่างจากผู้บริโภคยุคก่อนที่นิยมรถยนต์ก่อน แล้วตามมาด้วยการซื้อบ้านที่อยู่นอกเมือง
ทั้งนี้ ครึ่งแรกของปี 2562 พบว่า มีจำนวนโครงการที่ยังอยู่ระหว่างขาย 1,670 โครงการ มีหน่วยเหลือขายจำนวน 152,149 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 669,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 ร้อยละ 11.8 ร้อยละ 15.4 และร้อยละ 28.2 ตามลำดับ
สำหรับโครงการบ้านจัดสรรมีจำนวนโครงการที่ยังอยู่ระหว่างขาย 1,137 โครงการ มีหน่วยเหลือขายจำนวน 87,180 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเหลือขาย 404,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 ร้อยละ 9.2 ร้อยละ 16.3 และร้อยละ 22.3 ตามลำดับ โดยในครึ่งแรกของปี 2561 มีจำนวนโครงการที่ยังอยู่ระหว่างขาย 1,041 โครงการ มีหน่วยเหลือขาย 74,976 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 330,752 ล้านบาท
ส่วนโครงการอาคารชุดมีจำนวนโครงการที่ยังอยู่ระหว่างขาย 533 โครงการ มีหน่วยเหลือขายจำนวน 64,969 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเหลือขาย 265,301 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 ร้อยละ 17.7 ร้อยละ 14.3 และร้อยละ 38.4 ตามลำดับ โดยในครึ่งแรกปี 2561 มีจำนวนโครงการที่ยังอยู่ระหว่างขาย 453 โครงการ มีหน่วยเหลือขาย 56,843 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 191,683 ล้านบาท
5 ทำเลรุ่งบ้านจัดสรร สำหรับทำเลบ้านจัดสรรที่ขายได้ใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรก
-
ทำเลบางใหญ่–บางบัวทอง–บางกรวย–ไทรน้อย มีจำนวน 2,813 หน่วย มีมูลค่าขายได้ใหม่ 12,609 ล้านบาท
-
ทำเลบางพลี–บางบ่อ–บางเสาธง มีจำนวน 2,206 หน่วย มีมูลค่าขายได้ใหม่ 9,069 ล้านบาท
-
ทำเลเมืองสมุทรปราการ–พระประแดง–พระสมุทรเจดีย์ มีจำนวน 1,532 หน่วย มีมูลค่าขายได้ใหม่ 4,638 ล้านบาท
-
ทำเลคลองสามวา–มีนบุรี–หนองจอก–ลาดกระบัง มีจำนวน 1,371 หน่วย มีมูลค่าขายได้ใหม่ 6,598 ล้านบาท
-
ทำเลเมืองนนทบุรี–ปากเกร็ด มีจำนวน 1,357 หน่วย มีมูลค่าขายได้ใหม่ 8,724 ล้านบาท
5 ทำเลรุ่งคอนโด ขณะที่ ทำเลบ้านอาคารชุดที่ขายได้ใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรก
-
ทำเลห้วยขวาง–จตุจักร–ดินแดง มีจำนวน 4,179 หน่วย มีมูลค่าขายได้ใหม่ 17,990 ล้านบาท ส่วนใหญ่ขายได้ใหม่ในประเภท 1 ห้องนอน และอยู่ในระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาทมากที่สุด
-
ทำเลธนบุรี–คลองสาน–บางกอกน้อย–บางกอกใหญ่–บางพลัด มีจำนวน 2,635 หน่วย มีมูลค่าขายได้ใหม่ 9,618 ล้านบาท ส่วนใหญ่ขายได้ใหม่ในประเภท 1 ห้องนอน และอยู่ในระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาทมากที่สุด
-
ทำเลพระโขนง–บางนา–สวนหลวง–ประเวศ มีจำนวน 2,149 หน่วย มีมูลค่าขายได้ใหม่ 7,192 ล้านบาท ส่วนใหญ่ขายได้ใหม่ในประเภท 1 ห้องนอน และอยู่ในระดับ 2.01 – 3.00 ล้านบาทมากที่สุด
-
ทำเลสุขุมวิท มีจำนวน 1,855 หน่วย มีมูลค่าขายได้ใหม่ 16,392 ล้านบาท ส่วนใหญ่ขายได้ใหม่ในประเภท 1 ห้องนอน และอยู่ในระดับราคา 5.01 – 7.00 ล้านบาทมากที่สุด
-
ทำเลเมืองนนทบุรี–ปากเกร็ด มีจำนวน 1,687 หน่วย มีมูลค่าขายได้ใหม่ 3,080 ล้านบาท ส่วนใหญ่ขายได้ใหม่ในประเภท 1 ห้องนอน และอยู่ในระดับราคา 1.01 – 1.50 ล้านบาทมากที่สุด
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: สุรชัย บอจันทึก *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/businessplusonline