ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ “โอ้กะจู๋” ภายใต้ชื่อบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด มหาชน กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย (SET) ด้วยการขาย IPO จำนวนไม่เกิน 159 ล้านหุ้น ภายหลังสำนักงาน ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปีนี้
โดยธุรกิจของบริษัทหลักๆ คือ การขายอาหาร ภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” ที่มีเมนูเพื่อสุขภาพมากมาย เช่น สลัด สเต๊ก สปาเกตตี อาหารจานเดียว ขนมหวาน น้ำผักผลไม้ และยังมีการนำผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์โอ้กะจู๋ เช่น ผัก ผลไม้ สลัด แซนด์วิชแรป เป็นต้น ไปวางขายยังช่องทางต่าง ๆ
ซึ่งมีช่องทางการจำหน่ายคือ Full-service Restaurant, Delivery and Kiosk , Café Amazon , Supermarket ปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 34 สาขา โดยสัดส่วนรายได้หลักมาจากการจำหน่ายอาหาร ภายใต้แบรนด์โอ้กะจู๋ 99.0 – 99.8% ของรายได้รวมสำหรับปี 64 – 66
ข้อมูลรายได้ปี (ปี 66) อยู่ที่ 1,717 ลบ. และมีกำไรสุทธิ 141 ลบ.
ทีนี้มาย้อนดูกันว่าไทม์ไลน์หลักๆ กว่าจะมาเป็นร้านสลัดรายได้ 2 พันล้าน พวกเค้าเดินทางมาอย่างไร โดยร้านอาหารนี้ ก่อตั้งโดยชายหนุ่มสามคนที่ชอบด้านการเกษตร คือ โจ้-จิรายุทธ ภูวพูนผล, อู๋-ชลากร เอกชัยพัฒนกุล และ ต้อง-วรเดช สุชัยบุญศิริ ชื่อ “โอ้กะจู๋” ก็ผวนมาจากชื่อ “อู๋” กับ “โจ้” นั่นเอง
ไทม์ไลน์ที่น่าสนใจเริ่มต้นในปี 2553 ผู้ร่วมก่อตั้งเริ่มต้นทำแปลงผักในรูปแบบเกษตรอินทรีย์แห่งแรก บริเวณอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยสร้างโรงเรือนขนาดเพียง 6 x 30 เมตร สำหรับปลูกผักสวนครัวและผักสลัด เพื่อใช้บริโภคภายในครอบครัว
- ปี 2554 ได้เริ่มจำหน่ายผลผลิตประเภทผักสลัด ผักสวนครัว ให้แก่ลูกค้า และร้านอาหารต่างๆ ทั่วจังหวัดเชียงใหม่
- ปี 2556 ต่อยอดผลผลิตโดยการสร้างคาเฟ่สำหรับคนรักสุขภาพ ในพื้นที่ติดกับสวนสันทราย โดยเน้นเมนูสลัดจากผลผลิตจากสวนเกษตรอินทรีย์ โดยปัจจุบันคาเฟ่ดังกล่าวได้ปรับปรุงเป็นร้านโอ้กะจู๋ และถือเป็นร้านอาหารสาขาแรกของบริษัทฯ
- ปี 2557 จัดตั้งบริษัทฯ ภายใต้ชื่อ “บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด” โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1 ล้านบาท ขยายพื้นที่ปลูกผักอินทรีย์แห่งที่ 2 ในบริเวณอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และต่อมาได้เริ่มเปิดร้านโอ้กะจู๋ สาขาต่างๆตามมา
- ปี 2564 บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เข้าถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด (“Modulus”) (บริษัทที่ OR ถือหุ้นร้อยละ 100.0) รวมเป็นสัดส่วน 20% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ออกและชำระแล้วของบริษัท
- ปี 2567 แปรสภาพจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเปลี่ยนแปลงชื่อเป็น บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) ยื่น IPO เพื่อเข้าตลาดหุ้น
สำหรับคู่แข่งที่มีธุรกิจใกล้เคียงกันในปัจจุบันและมีจำนวนสาขาที่สูสีมีดังนี้
ถึงแม้จะมีคู่แข่งจำนวนมาก แต่อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มยังถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าและการเติบโตสูง โดยสถิติการใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ของผู้บริโภคในประเทศไทย พบว่ามีสัดส่วนถึง 22.9 – 27.2% ของการใช้จ่ายทั้งหมดของผู้บริโภคในปี 2560 – 2565 และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ในช่วงปี 2560 – 2565 ที่ 4.5% ต่อปี และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยประมาณการอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ในช่วงปี 2566 – 2571 ที่ 6% ต่อปี
และเป็นที่น่าจับตาต่อว่าบริษัทจะเติบโตขึ้นได้อย่างก้าวกระโดนหลังจากได้เงินจากการขาย IPO เพราะมีแผนจะนำเงินที่ ไปใช้ในการขยายสาขา สร้างครัวกลางแห่งใหม่ เพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและขีดความสามารถในการแข่งขันแบรนด์ “โอ้กะจู๋” รวมถึงขยายแบรนด์ใหม่ “Ohkajhu Wrap & Roll” และ “Oh! Juice” ครอบคลุมกรุงเทพฯและปริมณฑล
ที่มา : SEC , DBD
ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus #โอ้กะจู๋ #ร้านสลัด