NUSA

เปิดข้อมูลการเงิน NUSA พบขาดทุน 7 ปีติด หนี้สินมากกว่าสินทรัพย์!

หลังจากในคอนเทนต์ก่อนหน้า ‘Business+’ ได้ทำการวิเคราะห์ประเด็นของ บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA ถึงประเด็นการดึงบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) เข้า Backdoor ซึ่งประเด็นนี้ยังต้องติดตามกันต่อไปว่าทาง NUSA จะออกมาชี้แจ้ง และกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นอีกครั้งเมื่อไหร่? ซึ่ง Business+ จะมารายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

แต่ครั้งนี้เราจะพามาเปิดข้อมูลธุรกิจ และข้อมูลทางการเงินของ NUSA ซึ่งบริษัทฯ แห่งนี้จดทะเบียนและเข้าซื้อขายยในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 10 ส.ค. 2535 อยู่ในหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยปัจจุบันมีโครงการบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมซึ่งเป็นที่รู้จักได้แก่ ณุศาศิริ ซิตี้ พระราม 2 , ณุศา มายโอโซน โซน GG เขาใหญ่ , ณุศา ชีวานี พัทยา , ณุศา สเตท ทาวเวอร์ ,  เฟรช คอนโดมิเนียม และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีรายได้อื่นๆ จากการถือหุ้นธุรกิจการแพทย์ และสวนสนุกอีกด้วย

แต่ในแง่ของผลประกอบการแล้ว เราพบข้อมูลว่า NUSA ประสบกับผลขาดทุนสุทธิมาอย่างต่อเนื่อง 7 ปีติดต่อกัน และปี 2566 ก็ยังมีผลขาดทุนสุทธิสูงในไตรมาส 1/2566 นั่นส่งผลให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนสะสมรวมจำนวน 3,294 ล้านบาท และ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 กลุ่มบริษัทมีหนี้สินหมุนเวียนรวมสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียนรวมจำนวน 528 ล้านบาท เมื่อคำนวณอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนของ NUSA เท่ากับ 0.85 เท่า แสดงให้เห็นว่าบริษัทกำลังขาดสภาพคล่อง เสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้

ทั้งนี้ในแง่ของสภาพคล่องการซื้อขายหุ้นนั้น NUSA มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 7,186.42 ล้านบาท (18 ก.ค.2565) ซึ่งปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายกันอยู่ที่ 0.55 บาท ซึ่งต่ำกว่ามูลค่าบัญชีด้วย P/BV ปัจจุบัน 0.70 เท่า (มูลค่าหุ้นทางบัญชี 0.78 บาทต่อหุ้น)

โดย NUSA นั้นมี นายวิษณุ เทพเจริญ เป็นประธานกรรมการ, ประธานกรรมการบริหาร, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายสมคิด ศริ เป็นรองประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ และมีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 อันดับแรกดังนี้

  1. บริษัท ธนา พาวเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด 24.98%
  2. นาย ประเดช กิตติอิสรานนท์ 7.15%
  3. น.ส. เจนจิรา กิตติอิสรานนท์ 4.64%

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/66 นั้น NUSA มีรายได้รวมตามงบการเงินรวมจำนวน 292 ล้านบาท ลดลงจำนวน 453 ล้านบาทหรือลดลง 61% จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายลดลงจำนวน 421 ล้านบาท หรือลดลง 97% จากปีก่อน โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่ลดลงมาจากยอดขาย Antigen Rapid Test Kit จำหน่ายโดยบริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ NUSA ถือหุ้นอยู่

ซึ่ง NUSA นั้นมีประเด็นที่ทำให้ สำนัก ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ต้องให้ชี้แจงเพิ่มเติมอยู่บ่อยครั้ง เช่นกรณีของการเข้าซื้อหุ้นของ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO ในปี 2565 จาก บริษัท ธนา พาวเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด โดยครั้งนั้นที่ปรึกษาทางการเงินมองว่า ธุรกรรมที่ NUSA จะเข้าซื้อ DEMCO มีความไม่สมเหตุสมผล และไม่เหมาะสมในเรื่องต้นทุน และยังมีเรื่องของ การซื้อโรงแรมในเยอรมนีที่ผู้สอบบัญชีจากบริษัท สำนักงาน อีวาย จำกัด ก็ยังได้แสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไขและมีข้อสังเกต จากประเด็นความซับซ้อนของการจัดโครงสร้างของผู้ขายโรงแรมและสิทธิเครื่องหมายทางการค้าและใบอนุญาตต่างๆ ในประเทศเยอรมนี จนล่าสุดมาถึงกรณีของการเข้าซื้อหุ้น WEH ที่เข้าข่าย Backdoor ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอการชี้แจงจากทาง NUSA

NUSA

หากใครยังไม่ได้อ่านคอนเทนต์ก่อนหน้านี้ติดตามได้ที่ : NUSA ดึง ‘วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ’ เข้า Backdoor? หลังขาดทุนติดต่อกันเกือบ ‘ทศวรรษ’

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ที่มา : SET , SEC

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/