นีเวีย ครีม ตลับน้ำเงินในตำนาน ปรับโฉมใหม่ รับเทรนด์รักษ์โลก พร้อมการดูแลผิวที่ทุกคนวางใจ
- นีเวีย ครีม ปรับโฉมรักษ์โลกเปลี่ยนแพกเกจตลับเป็นอะลูมิเนียมรีไซเคิล 80% อีกก้าวสำคัญในการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากนีเวีย
- นอกเหนือจากการดูแลผิวที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว นีเวีย ได้ต่อยอดความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนอีกขั้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากบรรจุภัณฑ์ตลับครีมให้ได้ 8,000 ตันในปี 2568[1]
- สะท้อนถึงยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ทุกบรรจุภัณฑ์ของนีเวีย ครีม ถูกปรับโฉมใหม่หมดทั้งโลโก้ที่ดูทันสมัยและสีสันที่สดใสขึ้น
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย วันที่ 30 ตุลาคม 2567 – เป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษที่ นีเวีย ครีม เป็นเหมือนเครื่องหมายของความไว้วางใจในการฟื้นฟูและปกป้องผิวพรรณ ในขณะเดียวกัน รูปลักษณ์ของครีมตลับน้ำเงินในตำนานนี้ยังได้รับการปรับพัฒนาอยู่เสมอเพื่อให้มีความร่วมสมัย จึงทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่เหนือกาลเวลาไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย วันนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่นีเวียมีความเคลื่อนไหวให้ทันกับกระแสโลก ด้วยการแนะนำบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ตัวตลับนอกจากจะผลิตจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 80% แล้วยังมีการปรับโลโก้แบรนด์ให้ทันสมัยและมีสีสันสดใสมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงไว้คือคุณภาพของ นีเวีย ครีม ซึ่งเป็นที่นิยมมาช้านานด้วยสูตรเนื้อครีมเฉพาะตัวและกลิ่นที่คุ้นเคย
สุภสิตา ไกรศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์นีเวีย ภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ได้แนะนำ นีเวีย ครีม ตลับใหม่ที่ผลิตจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 80% ก้าวย่างครั้งสำคัญนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในเรื่องความยั่งยืนและการลดฟุตพรินต์ในการจัดการกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้งานนี้ นอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้อย่างมีนัยสำคัญแล้วยังส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนอีกด้วย การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้เป็นอีกบทพิสูจน์ถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของเราที่จะดูแลสิ่งแวดล้อม และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในประเทศไทยที่ชื่นชอบและไว้วางใจใน นีเวีย ครีม จะยังคงได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพต่อไป ซึ่งเป็นนิยามของ นีเวีย ครีม จากรุ่นสู่รุ่น สำหรับประเทศไทยถือเป็นตลาดที่ผู้บริโภคกระตือรือร้น ใส่ใจ และรักษ์โลก ได้จุดประกายให้เราได้พยายามสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาคำมั่นสัญญาที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคุณภาพสูงพร้อมกับความใส่ใจด้านความยั่งยืน ที่แสดงให้เห็นว่า นีเวีย ไม่เพียงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิว แต่เรายังปกป้องโลกใบนี้เพื่อคนรุ่นต่อไปอีกด้วย”
สุภสิตา ไกรศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์นีเวีย ภูมิภาคอาเซียน
นีเวีย ครีม ตลับน้ำเงินในตำนาน ปรับโฉมใหม่เพราะใส่ใจมากกว่าการดูแลแค่ผิวพรรณ
ในย่างก้าวของการพัฒนา นีเวีย ครีม ตลับน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ได้รับการปรับเปลี่ยน ซึ่งยังเป็นครั้งแรกที่บรรจุภัณฑ์ผลิตจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 80% อีกด้วย การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของนีเวีย ที่จะทำตามพันธกิจด้านความยั่งยืนโดยการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในบรรจุภัณฑ์ การเปลี่ยนผ่านไปหาทางเลือกที่เป็นมิตรต่อทรัพยากรยิ่งขึ้นนี้เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์ลง 8,000 ตันภายในปี 2568[2] นั่นคือ นีเวีย ครีม ได้เคลื่อนตัวสู่การนำแนวทางหมุนเวียนที่ช่วยลดปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติลงได้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของนีเวียที่มีต่อการดูแลผิว ด้วยการขยายการดูแลไปยังโลกใบนี้
การดูแลและการปกป้องที่ปรับเปลี่ยนให้ทันยุคสมัย
เมื่อมองดูถึงยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นองค์กรที่มีความคิดทันสมัย นั้นคือการที่บรรจุภัณฑ์นีเวีย ครีม ทุกแบบได้รับการปรับโฉมใหม่ โดยตัวอักษรโลโก้มีความเพรียวบางลง และโทนสีฟ้าที่สว่างขึ้น เพื่อให้ดูทันสมัยและสดใสกว่าที่เคย ในฐานะผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ได้รับความไว้วางใจมาตลอดจากรุ่นสู่รุ่น และยังเป็นที่ยอมรับในด้านประสิทธิภาพ ด้วยสูตรที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของนีเวีย ครีม ยังคงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการดูแลและปกป้องผิวได้เป็นอย่างดี ที่ได้รวมเอาปรัชญาในการส่งมอบการดูแลด้วยสูตรที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยกย่องมายาวนานที่รับรองประสิทธิภาพด้านการกักเก็บความชุ่มชื้น และเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวด้วยไฮโดรไลปิดตามธรรมชาติ ผู้ใช้ทั่วโลกต่างยืนยันความน่าเชื่อถือของสูตรที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยคงความสุขภาพดีและความงามของผิวอย่างไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะเผชิญกับสภาวะที่ท้าทาย
[1] แนวทาง Cut-Off Approach ที่เป็นไปตามนโยบาย GHG Protocol, Cradle to gate
[2] แนวทาง Cut-Off Approach ที่เป็นไปตามนโยบาย GHG Protocol, Cradle to gate
######################################
ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus