‘เมืองไทยประกันชีวิต’ ยึดความต้องการลูกค้าเป็นหลัก เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์

“เมืองไทยประกันชีวิต” เป็นหนึ่งในบริษัทประกันชีวิตที่มีความแข็งแกร่งและความมั่นคงทางด้านการเงินเป็นอย่างมาก มีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี และมีการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์และบริการ จึงเป็นที่ชัดเจนว่า “เมืองไทยประกันชีวิต” เป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมประกันภัยที่มีความโดดเด่นและอยู่ในใจลูกค้า

คุณสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  กล่าวกับเราว่า “เมืองไทยประกันชีวิตมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ผ่านมา ผู้คนเริ่มใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น บริษัทจึงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายในส่วนของสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพและโรคร้ายแรงเติบโตได้เป็นอย่างดี”

นอกจากนี้ เมืองไทยประกันชีวิตมีหลักการออกแบบผลิตภัณฑ์แบบ Outside In ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

 “เรามีการพัฒนาแบบประกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งสัญญาเพิ่มเติมที่คุ้มครองเรื่องสุขภาพให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยนำสิ่งที่เรียนรู้จาก Pain Point ในช่วงที่ผ่านมาเป็นแนวทางสำคัญในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าและส่งมอบความคุ้มครองที่มากขึ้น”

นอกจากนี้ในด้านความมั่นคงแข็งแกร่งและเสถียรภาพด้านการเงินของเมืองไทยประกันชีวิต ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Rating) จาก S&P Global Ratings อยู่ที่ระดับ BBB+ โดยมีแนวโน้มมีเสถียรภาพ และจากฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) อยู่ที่ ‘A-‘ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ นอกจากนี้เมืองไทยประกันชีวิตมีความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ในระดับแข็งแกร่งโดยสะท้อนจากอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ที่ 324% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ซึ่งสูงกว่า ระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ที่ 120%

 

นโยบายสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เมืองไทยประกันชีวิตเป็นหนึ่งในบริษัทที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก คือ การให้ความสำคัญกับเรื่อง “การพัฒนาคน” ซึ่งคุณสาระกล่าวว่า “คนในองค์กรจะต้องมีการ Upskill และ Reskill รวมถึงจะต้องมีการปรับ Mindset เพื่อ Transform คนในองค์กร ปรับตัวในยุคดิจิทัลได้ โดยพนักงานของเราจะต้องสามารถนำแนวคิดและความรู้ใหม่ ๆ ที่ได้จากการเรียนรู้เพิ่มเติม มาพัฒนาองค์กรต่อไปได้”

นอกจากนี้ เมืองไทยประกันชีวิตยังมีจุดแข็งในเรื่องดิจิทัล บริษัทฯ ได้พัฒนาแพลตฟอร์มของเมืองไทยประกันชีวิตเพื่อรองรับการใช้บริการภายในองค์กร รวมถึงการเสนอขายประกันผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และช่วยทำให้การให้บริการลูกค้าง่ายขึ้น

มุ่งเน้นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2565 เมืองไทยประกันชีวิตตั้งเป้าหมายการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในทุกมิติ (Sustainable Growth) โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตทางธุรกิจ และตอบโจทย์ลูกค้าอย่างตรงจุด พร้อมเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งในด้านคุ้มครองสุขภาพ ความคุ้มครองโรคร้ายแรง และบริการต่าง ๆ ที่เข้าถึงลูกค้าในแบบที่มีความเฉพาะตัวได้มากยิ่งขึ้น เน้นการสร้างความแตกต่าง และสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างเข้าถึง เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าในทุกเพศ ทุกวัย พร้อมพัฒนาและผสมผสานรูปแบบของการบริการ ทั้งเรื่องของนวัตกรรมใหม่ การบริการผ่านระบบ Digital และ Non Digital เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการทั้ง Self Service และ Human Touch

นอกจากนี้ เมืองไทยประกันชีวิตยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบในด้านการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) การจัดการด้านสังคม (Social) และการจัดการด้านธรรมาภิบาล (Governance) หรือ ESG อีกด้วย

จะเห็นได้ว่า เมืองไทยประกันชีวิต เป็นบริษัทที่มีความพร้อมในด้านนวัตกรรม และมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพและการให้บริการ จึงทำให้ เมืองไทยประกันชีวิต เหมาะสมที่จะได้รับรางวัล THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2022 ประเภท “อุตสาหกรรมประกันภัย” ให้เป็นแบบอย่างในธุรกิจประกันภัย