GPI

บริษัทจัด Motor Show ทำรายได้ไปเท่าไหร่? หลังดีมานด์ตลาดเริ่มฟื้นช่วงครึ่งปีแรก

หลังจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/2566 ที่ผ่านมาเริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์เติบโตขึ้นตาม โดยจำนวนการผลิตได้ในครึ่งปีแรกสูงขึ้นไปแตะ 921,512 คัน เพิ่มขึ้น 5.91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถึงแม้ว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยครึ่งปีแรกจะยังลดลงราว 5% (ข้อมูล : ส.อ.ท.) แต่ก็มีแนวโน้มที่จะขยายตัวขึ้น ทั้งจากทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ซึ่งจะส่งผลให้รายได้จากการบริการและการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ค่าเงินบาทที่เริ่มกลับมาอยู่ในอัตราที่เหมาะสมกับทั้งผู้ส่งออกและนำเข้าก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุน และปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตขึ้นก็เกิดจากการได้รับอานิสงส์นโยบายอุดหนุนการใช้รถไฟฟ้าของภาครัฐ

ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้นอกจากผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์จะได้รับประโยชน์โดยตรงแล้ว ยังมีอีกหนึ่งธุรกิจที่จะได้รับผลดีตามไปด้วย นั่นคือ ผู้จัดงานโชว์แสดงสินค้าประเภทยานยนต์ หรือที่เราคุ้นเคยกับชื่องาน Motor Show นั่นเอง

รู้หรือไม่ว่าเจ้าของงาน Motor Show ที่เราคุ้นเคยกันนั้น อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีชื่อว่า บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ซึ่งนอกจากงาน Motor Show แล้วบริษัทฯ แห่งนี้ยังเป็นผู้ประกอบธุรกิจจัดแสดงสินค้า และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และธุรกิจสื่อดิจิทัลและสื่อสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ และธุรกิจรับจ้างพิมพ์ โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากการจัดงานจัดแสงดสินค้าและกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เช่น บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ บางกอกยูสคาร์โชว์ และดิจิทัลมอเตอร์สปอร์ต และอื่นๆ อีกมากมาย

ซึ่งในช่วงสถานะการณ์โควิด-19 ได้ทำให้บริษัทแห่งนี้สูญเสียรายได้ไปมากมาย จากการที่ไม่สามารถจัดงานแสดงสินค้าได้ นั่นกระทบต่องบการเงินตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ซึ่งในช่วงก่อนหน้านั้น บริษัทแห่งนี้มีกำไรสุทธิสูงถึงระดับ 100 ล้านบาทในปี 2562 แต่ในปี 2563-2565 กำไรสุทธิเหลืออยู่ที่ระดับ 35 ล้านบาทโดยเฉลี่ยเท่านั้น ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทแห่งนี้มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 960 ล้านบาท (Market Cap) เทียบกับปี 2562 อยู่สูงกว่าระดับหนึ่งพันล้าน

อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่รัฐบาลได้เปิดให้ภาคธุรกิจสามารถจัดงานต่างๆ ได้ก็ทำให้ GPI เริ่มกลับมาพลิกฟื้น โดยเห็นผลตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 และช่วงครึ่งปีแรกก็ทำผลงานออกมาได้ค่อนข้างดีหลังสามารถจัดงาน Motor Show  ได้ โดย GPI มีกำไรสุทธิในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 ที่ 158.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 117.17 ล้านบาท  

และธุรกิจที่สร้างรายได้เติบโตในช่วงครึ่งปีแรกคือ  กลุ่มธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้า และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ที่รายได้เติบโตเกือบ 11% ส่วนกลุ่มธุรกิจอื่น เช่น ธุรกิจสื่อสิงพิมพ์และสื่อดิจิทัล กลุ่มธุรกิจรับจ้างพิมพ์ มีรายได้ที่ลดลง

ซึ่งในช่วงดังกล่าว GPI มีรายได้จากการจัดแสดงงาน Bangkok International Motor Show (BIMS) ครั้งที่ 44 โดยในปีนี้ได้มีการขยายพื้นที่บูธจัดแสดงยานยนต์มากกว่าปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับความต้องการเช่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นจากผู้ประกอบการยานยนต์ ขณะที่บริษัทมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเดินงานสูงถึง 147.15 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2566

จะเห็นได้ว่าการจัดงาน Motor Show  ที่กลับมาคึกคักนั้น เกิดจากการแสดงรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาโชว์ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ มาเปิดตัว และการจัดงานแสดงที่มีผู้เข้าร่วม และจองซื้อล้นหลามนั้น แสดงให้เห็นถึงดีมานด์ของคนในประเทศเริ่มฟื้นตัวอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่เพียงในตลาดยานยนต์ แต่แสดงให้เห็นถึงกำลังซื้อของคนในประเทศได้อีกด้วย

เขียนและเรียบเรียง :  พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ที่มา : SET
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS