เรื่องราวของ ‘MK’ ที่เริ่มจากกิจการส้มหล่น สู่อาณาจักรธุรกิจยิ่งใหญ่ ฟันกำไรหลักพันล้าน

หากจะกล่าวถึงร้านสุกี้ที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานและมีชื่อแบรนด์ที่เป็นภาพจำของบรรดาผู้บริโภค ที่แค่เพียงเห็นหรือได้ยินชื่อก็เข้าใจได้ทันทีว่าคือร้านขายสุกี้เจ้าดัง อย่าง ‘MK’ ที่ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงแค่ธุรกิจร้านสุกี้เท่านั้น แต่ยังมีร้านอาหารอื่น ๆ อีกหลายร้านทั้งในและต่างประเทศ ที่ส่งให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างและมีอาณาจักรธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ มีกำไรระดับพันล้านบาทต่อปี แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบว่าอาณาจักรธุรกิจที่ยิ่งใหญ่นี้ แท้จริงแล้วมีจุดเริ่มต้นมาจากกิจการที่ได้รับช่วงต่อมาอีกทีจากนักธุรกิจชาวต่างชาติที่มาทำธุรกิจในประเทศไทย

โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2505 เมื่อ ‘คุณมาคอง คิง ยี’ นักธุรกิจชาวฮ่องกงที่ได้เข้ามาทำธุรกิจร้านอาหารอยู่ในประเทศไทย ได้ทำการย้ายครอบครัวไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้ทำการขายกิจการต่อให้กับ ‘คุณทองคำ เมฆโต’ ซึ่งเดิมทำงานอยู่กับคุณมาคอง

อย่างไรก็ดี ในระยะเริ่มแรกนั้น ‘คุณทองคำ เมฆโต’ ได้ดำเนินกิจการโดยเริ่มจากร้านอาหารไทยเล็ก ๆ ที่มีเนื้อที่เพียง 1 คูหา ซึ่งตั้งอยู่ที่สยาม สแควร์ ซอย 3 โดยมีอาหารขึ้นชื่อหลายอย่าง เช่น ข้าวมันไก่, เนื้อตุ๋น, ผัดไทย, ผัดขี้เมา, เนื้อย่างเกาหลี (เตาถ่าน), ยำทุกชนิด และเค้กที่วางจำหน่ายช่วงเทศกาลปีใหม่

ต่อมาในปี 2527 ‘คุณสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์’ เจ้าของเครือ ‘เซ็นทรัลกรุ๊ป’ ได้ชวนคุณทองคำมาเปิดร้านอาหารไทยในเซ็นทรัล ลาดพร้าว ในชื่อร้านใหม่ว่า ‘กรีน เอ็มเค’ จนกระทั่งในปี 2529 คุณสัมฤทธิ์ได้ชักชวนให้คุณทองคำเปิดร้านสุกียากี้เพิ่มอีกร้าน เนื่องจากในขณะนั้นทางศูนย์การค้ายังไม่มีร้านอาหารประเภทนี้ ซึ่งคุณทองคำก็ได้ตอบรับคำชวนดังกล่าว โดยใช้ชื่อร้านใหม่นี้ว่า ‘สุกี้เอ็มเค’ ซึ่งปรากฏว่ากิจการร้านสุกี้เป็นไปได้ด้วยดีและมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ได้มีการนำการบริหารจัดการและการตลาดสมัยใหม่มาดำเนินกิจการ และเริ่มมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งในปี 2532 ได้ทำการจัดตั้ง ‘บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)’ โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1,000,000 บาท เพื่อดำเนินธุรกิจหลักคือร้านอาหารสุกี้ยากี้ นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้เปิดร้านอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติม

ปี 2549 ดำเนินกิจการร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า ‘ยาโยอิ’

ปี 2555 ดำเนินกิจการร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า ‘ฮากาตะ’ และ ‘เทนจิน’ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ‘มิยาซากิ’)

ในช่วงปลายปี 2562 เข้าลงทุนในบริษัท แหลมเจริญ ซีฟู้ด จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหาร ‘แหลมเจริญ ซีฟู้ด’ โดยมีสัดส่วนการลงทุน 65%

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารในเครืออีกหลายร้าน ได้แก่ ร้านอาหารไทยภายใต้ชื่อ และเครื่องหมายการค้า ‘ณ สยาม” และ ‘เลอ สยาม’ ร้านข้าวกล่อง ‘บิซซี่ บ็อกซ์’ ร้านขนมหวาน ‘เอ็มเค ฮาร์เวสต์’ และ ร้านกาแฟ/เบเกอรี่ ภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า ‘เลอ เพอทิท’

ทั้งนี้ ‘เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป’ ได้มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องจนมีร้านอาหารในเครือรวมกันเกือบ 500 สาขา โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 บริษัทฯมีร้านเอ็มเค สุกี้ อยู่ทั้งหมด 455 สาขาทั่วประเทศ (รวมร้าน เอ็มเค โกลด์ 5 สาขา และเอ็มเค ไลฟ์ 4 สาขา), ร้านอาหารญี่ปุ่น ยาโยอิ 195 สาขา, ร้านอาหารญี่ปุ่นฮากาตะ 2 สาขา, ร้านมิยาซากิ 13 สาขา, ร้านอาหารไทย เลอ สยาม 3 สาขา, ร้านอาหารแหลมเจริญ ซีฟู้ด 36 สาขา, ร้าน ณ สยาม 1 สาขา, ร้านข้าวกล่อง ร้านบิซซี่บ็อกซ์ 2 สาขา และร้านกาแฟ/เบเกอรี่ เลอ เพอทิท 3 สาขา นอกจากนี้ยังมีการขายแฟรนไชส์ร้าน เอ็มเค สุกี้ ให้แก่ผู้ประกอบการในต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเวียดนาม ประเทศลาว และจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในการดำเนินธุรกิจร้านอาหารในประเทศสิงคโปร์

อย่างไรก็ดี ‘บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)’ ได้จดทะเบียนซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2556 ด้วยทุนจดทะเบียน 920 ล้านบาท

ด้านผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี (2563-2565) ของ ‘บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)’ พบว่า

ปี 2563 มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 13,361 บาท ลดลง 4,048 ล้านบาท หรือลดลง 23.3% จากปี 2562 ที่มีรายได้อยู่ที่ 17,409 บาท และมีกำไรสุทธิ 907 ล้านบาท ลดลง 1,696 ล้านบาท หรือลดลง 65.1% จากปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 2,603 ล้านบาท

ปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 8,415,567.81 บาท ลดลง 26.79% จากปี 2562 และขาดทุนสุทธิ 2,682,427.70 บาท เพิ่มขึ้น 18.53% จากปี 2562

ปี 2564 มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 11,182 ล้านบาท ลดลง 2,179 ล้านบาท หรือลดลง 16.3% จากปี 2563 และมีกำไรสุทธิ 131 ล้านบาท ลดลง 776 ล้านบาท หรือลดลง 85.6% จากปี 2563

ปี 2565 มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 15,728 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,546 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 40.7% จากปี 2564 และมีกำไรสุทธิ 1,439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,308 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 998.5% จากปี 2564

ที่มา : mkrestaurant, set

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

#Businessplus #TheBusinessplus #นิตยสารBusinessplus #MK #MKสุกี้ #เอ็มเค #ร้านสุกี้ #เอ็มเคสุกี้