เรื่องราวของรางวัล ‘มิชลินสตาร์’ กับที่มา “แค่อยากเพิ่มยอดขายยางรถยนต์”

ในแวดวงร้านอาหาร อีกหนึ่งรางวัลที่ถือเป็นความภาคภูมิใจของผู้ประกอบการ เพราะนอกจากจะเป็นการการันตีรสชาติและคุณภาพของอาหารแล้ว ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของร้านอาหารนั้น ๆ ต่อผู้บริโภคให้มีความมั่นใจในการเลือกใช้บริการ ทำให้เกิดข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน คงหนีไม่พ้นรางวัล ‘มิชลินสตาร์’ ที่เพียงแค่ได้ยินชื่อก็การันตีได้ถึงชื่อเสียงในอนาคตก็ร้านอาหารได้เลยทีเดียว

ในวันนี้ Business+ จะพาทุกท่านย้อนวันวานไปยังจุดเริ่มต้นของรางวัล ‘มิชลินสตาร์’ กับที่มาที่แสนจะจับพลัดจับผลู เพราะจริง ๆ แล้ว ‘มิชลินไกด์’ ไม่ได้เริ่มต้นมาจากการมอบรางวัลให้ร้านอาหารตั้งแต่แรก แต่มีจุดประสงค์เพื่อการเพิ่มยอดขายยางรถยนต์เท่านั้น

ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1926 ณ เมืองแคลร์มงต์-แฟร์รองด์ ทางตอนกลางของฝรั่งเศส เมื่อสองพี่น้อง ‘Andre’ และ ‘Edouard Michelin’ ผู้ก่อตั้งบริษัทยางรถยนต์ ‘Michelin’ ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ของฝรั่งเศสในช่วงเวลาที่มีรถยนต์ไม่ถึง 3,000 คัน ในประเทศ

โดยในช่วงเวลานั้น 2 พี่น้องมีไอเดียที่อยากจะส่งเสริมให้ผู้คนมีการเดินทางมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ และเกิดการซื้อยางรถยนต์เพิ่มขึ้นไปด้วย ดังนั้น 2 พี่น้องมิชลินจึงได้เริ่มจัดทำคู่มือเล่มเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับนักเดินทาง เช่น แผนที่, ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเปลี่ยนยาง, สถานที่เติมน้ำมัน, ร้านอาหาร หรือแม้แต่ที่พักแบบค้างคืน ภายใต้ชื่อ ‘มิชลินไกด์’ (MICHELIN Guide)

ซึ่ง ‘มิชลินไกด์’ ได้นำเสนอข้อมูลเหล่านี้ฟรีเป็นระยะเวลายาวนานถึง 20 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งในปี 1920 เมื่อ ‘Andre’ เดินทางมาที่ร้านยางรถยนต์ของเขา และเห็นคู่มือที่พวกเขาตั้งใจทำขึ้นมาถูกนำไปใช้ค้ำจุนโต๊ะทำงาน ทำให้เกิดความคิดที่ว่า “มนุษย์จะเคารพในสิ่งที่เขาจ่ายไปอย่างแท้จริงเท่านั้น” ทำให้ ‘มิชลินไกด์’ ฉบับใหม่ซึ่งเปิดตัวในปี 1920 ถูกวางขายในราคา 7 ฟรังก์

ต่อมา ‘มิชลินไกด์’ ก็ได้เพิ่มรายชื่อโรงแรมในปารีส, รายชื่อร้านอาหารตามหมวดหมู่เฉพาะ และยกเลิกโฆษณาแบบชําระเงินในคู่มือนี้

และเนื่องจาก 2 พี่น้องมิชลินได้เห็นถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของส่วนร้านอาหารจาก ‘มิชลินไกด์’ มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พวกเขาได้เริ่มทำการคัดเลือกทีม ‘นักกินลึกลับ’ หรือผู้ตรวจสอบร้านอาหารอย่างที่เรารู้จักในปัจจุบันขึ้นมาเพื่อเยี่ยมชมและรีวิวร้านอาหารโดยไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งต่อมาในปี 1926 ‘มิชลินไกด์’ ได้เริ่มให้รางวัลดาวสำหรับร้านอาหารชั้นเลิศ โดยเริ่มแรกให้ดาวเพียงดวงเดียวเท่านั้น และได้นำลำดับดาวตั้งแต่ 0, 1, 2, 3 ดวงมาใช้ในเวลา 5 ปีต่อมา และได้มีการประกาศเกณฑ์การจัดอันดับดาวขึ้นครั้งแรกในปี 1936

ด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังในช่วงศตวรรษที่ 20 จากแนวทางที่จริงจังและไม่เหมือนใครทำให้ ‘มิชลินไกด์’ กลายเป็นหนังสือขายดีที่ไม่มีใครเทียบได้ จนทำให้ ‘มิชลินไกด์’ มียอดขายมากกว่า 30 ล้านเล่มทั่วโลกนับตั้งแต่นั้นมา และในปัจจุบัน ‘มิชลินไกด์’ ได้ทำการจัดอันดับสถานประกอบการมากกว่า 30,000 แห่งในกว่า 30 ภูมิภาค ใน 3 ทวีป ซึ่ง ‘มิชลินไกด์’ ยังคงดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์อันโดดเด่นของ 2 พี่น้องผู้ก่อตั้งคือการทำให้ทุกคนสนุกกับการขับขี่ ท่องเที่ยว และค้นหาประสบการณ์ที่น่าจดจำ

ที่มา : guide.michelin

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

#Businessplus #TheBusinessplus #นิตยสารBusinessplus #มิชลินสตาร์ #มิชลินไกด์ #MICHELINGuide #MichelinStars