‘มิชลิน’ กับบทบาทผู้นำนวัตกรรมยางรถไฟฟ้า 2 ปีซ้อน

อีกหนึ่งปีแห่งความสำเร็จของ ‘มิชลิน’ กับบทบาทผู้นำตลาดยางสำหรับรถ EV ในประเทศไทย ด้วยสมรรถนะ และเทคโนโลยีของยาง MICHELIN PILOT SPORT EV ที่ล้ำหน้าคู่แข่งในทุก ๆ ด้าน ทำให้กลายเป็นอีกครั้งที่ได้รับการตอบรับอย่างแข็งแกร่ง และในปีนี้ ‘มิชลิน’ มาพร้อมเป้าหมายที่จะทำให้เห็นการเติบโตไปอีกขั้น คือการเพิ่ม Product ยางให้ครอบคลุมสำหรับรถ EV ทุกประเภท

 

คุณชาญวิทย์ สุขุมรัตนาพร Thailand B2C Marketing Director บริษัท สยามมิชลิน จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ ‘มิชลิน’ สามารถเป็นผู้นำตลาดยางรถยนต์ได้เกิดจากการร่วมทำโครงการต่าง ๆ กับบริษัทรถยนต์ ซึ่งทำให้ได้ข้อมูลในเชิงลึก และมองเห็นความต้องการของลูกค้า นำไปสู่การคิดค้น ออกแบบยางรถยนต์ที่มี Performance สูง และเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแท้จริง

 

สำหรับยางที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีตลอดมาอย่าง MICHELIN PILOT SPORT EV ‘มิชลิน’ ได้นำนวัตกรรมของยาง MICHELIN PILOT SPORT ที่เน้นเรื่องของประสิทธิภาพในการขับขี่แบบสปอร์ต มารวมเข้ากับคุณสมบัติที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานรถสปอร์ต EV สมรรถนะสูงโดยเฉพาะ ทำให้เกิดเป็นจุดเด่นของยาง MICHELIN PILOT SPORT EV ที่ทำได้ดีกว่าคู่แข่งในทุก ๆ ระดับ

 

“MICHELIN PILOT SPORT เป็นยางที่ได้รับความนิยมมากอยู่แล้ว เพราะเป็นยางที่มีประสิทธิภาพ เหมาะกับการควบคุมรถในการขับขี่สไตล์สปอร์ต ดังนั้นเราจึงได้นำเอาจุดเด่นเหล่านี้มารวมเข้ากับเทคโนโลยีที่เหมาะกับรถ EV ที่เราทำขึ้นมาโดยเฉพาะ และออกมาเป็นจุดเด่นของ MICHELIN PILOT SPORT EV ที่เหนือกว่าคู่แข่งคุณชาญวิทย์ กล่าว

 

หากพูดถึงจุดเด่นในแง่ของการใช้งาน MICHELIN PILOT SPORT EV คุณชาญวิทย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอายุการใช้งานยางที่ยาวนานเหมาะกับรถ EV ที่มีแรงบิดค่อนข้างสูง ซึ่งหากใช้ยางสำหรับรถยนต์ทั่วไปก็จะทำให้อายุการใช้งานของยางสั้นลง ‘มิชลิน’ จึงออกแบบยางมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ไปพร้อม ๆ กับการใช้นวัตกรรมที่ทำให้เสียงของยางนุ่มเงียบมากขึ้น

 

อีกหนึ่งจุดเด่น คือ MICHELIN PILOT SPORT EV ช่วยให้ระยะทางในการวิ่งต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้งยาวนานขึ้น เนื่องจากมันมีแรงต้านทานในการหมุนต่ำกว่า ทำให้ประหยัดพลังงานจากการช่วยให้ระยะทางในการวิ่งยาวขึ้น

 

“MICHELIN PILOT SPORT EV เป็นยางที่เติบโตมาต่อเนื่อง และจะแข็งแกร่งต่อไปได้ด้วยเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดีต่อเนื่อง จาก Key Benefit ที่ออกแบบมาสำหรับรถ EV โดยเฉพาะ นอกจากนี้ มิชลิน’ มีเครือข่ายเน็ตเวิร์กที่ครอบคลุม ทั้งเครือข่ายของเราเองและพันธมิตรของเรา ที่จะช่วยให้บริการหลังการขายของเราแข็งแกร่ง” คุณชาญวิทย์ กล่าว

 

มุ่งสู่เป้าหมายขยายตลาดให้ครอบคลุมรถ EV ทุกประเภท

‘มิชลิน’ อยู่ในขั้นตอนการพัฒนายางรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่อ ๆ ไป โดยในปี 2566 จะเพิ่มประเภทของยางให้ครอบคลุมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ มากขึ้น เนื่องจากมองเห็นแนวโน้มของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย ‘มิชลิน’ ถือเป็นผู้นำนวัตกรรมในตลาดยางรถ EV ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับ EV transformation และมีเป้าหมายคือเป็นผู้นำในตลาดยางรถ EV ในประเทศไทยต่อไป ซึ่งเป้าหมายนี้เป็นหนึ่งใน Must-Win Battles ที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ในปีนี้

 

“ก่อนหน้านี้ MICHELIN PILOT SPORT EV จะสามารถใช้งานได้กับรถยนต์ไฟฟ้าไม่กี่รุ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นในระดับกลุ่ม Premium ขึ้นไป แต่ตอนนี้มีรถ EV หลายแบรนด์ที่เข้ามาในเมืองไทยมากขึ้น ในปีนี้เราจึงวางแผนที่จะเพิ่มไซซ์ของยางให้ cover รถ EV ทุกประเภท คุณชาญวิทย์ กล่าว

 

นอกจากการขยายตลาดยางสำหรับรถ EV ให้ครอบคลุมทุกประเภทแล้ว ‘มิชลิน’ ยังเน้นไปที่ลูกค้าในกลุ่ม High Value segment และการ Connect ไปสู่กลุ่ม High Value Customer อีกทั้งยังวางแผนที่จะขยายไปสู่ Mass Market ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่อีกด้วย

 

นอกจากนี้ ‘มิชลิน’ ยังเน้นการเติบโตด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ โดยที่ไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่เรื่องของยาง แต่จะมีการขยายไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ ที่เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยาง (Around Tire) ให้ครอบคลุมมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมีการขยายไปสู่ธุรกิจที่มากกว่ายาง (Beyond Tire) เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Hightech material หรือ Green energy รวมไปถึงธุรกิจด้านอุปกรณ์การแพทย์ โดยธุรกิจที่จะขยายเข้าไปนี้ส่วนใหญ่เกิดจากนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ ได้พัฒนามาโดยตลอด ซึ่งภายในปี 2573 ‘มิชลิน’ ตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้จากธุรกิจใหม่ ๆ 30% ของรายได้รวม

 

อย่างไรก็ตาม แผนธุรกิจทั้งหมดนี้จะต้องตั้งอยู่บนความยั่งยืน (Sustainable) ตามนโยบายของ ‘มิชลิน’ ที่จะต้องให้ความสำคัญทั้งหมด 3 ด้าน นั่นคือ ผู้คน (People) การสร้างกำไร (Profit) และ โลก (Planet) โดยบริษัทฯ จะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนจะต้องให้ความสำคัญกับทุกส่วน จึงมอง 3 ส่วนนี้เป็นอีกหนึ่งใน Must-Win Battles คุณชาญวิทย์ กล่าวในตอนท้าย

 

จะเห็นได้ว่าความสำเร็จของ ‘มิชลิน’ เกิดจากการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาพัฒนาสินค้าอยู่เสมอ โดยที่บริษัทแห่งนี้ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ไปพร้อมกับการควบคุมคุณภาพของยางให้มีสมรรถนะที่ดีเยี่ยมยาวนาน มั่นใจตั้งแต่วันแรกที่ใช้จนถึงวันที่เปลี่ยนยางรอบถัดไป จึงไม่แปลกใจที่ ‘มิชลิน’ จะยังคงเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำของผู้บริโภคตลอดมา