MBK GROUP เน้นกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง ดึงจุดแข็งเฉพาะทาง สู่การเชื่อมโยง 8 ธุรกิจ

การปรับกลยุทธ์การบริหารอย่างยืดหยุ่นถือเป็นสิ่งจำเป็นในการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน หนึ่งในบริษัทที่มีธุรกิจหลากหลาย และกระจายความเสี่ยงได้เป็นอย่างดีคือ MBK GROUP ซึ่งบริษัทแห่งนี้ได้นำจุดแข็งด้านโครงสร้างธุรกิจที่หลากหลาย และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาใช้เป็นกลยุทธ์เพื่อก้าวผ่านวิกฤตทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี

คุุณสุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK กล่าวว่า MBK GROUP มีธุรกิจที่หลากหลาย และแตกต่างกันจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า โรงแรม สนามกอล์ฟ อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจการเงิน ธุรกิจการประมูล และศูนย์สนับสนุนองค์กร ดังนั้น จุดเด่นของ MBK GROUP คือการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจได้ดี โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤต เพราะแต่ละธุรกิจได้รับผลกระทบที่แตกต่างกันออกไป จึงมีทั้งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบและไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19

“เราต้องการที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน และมองเห็นการเจริญเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีความแตกต่างกัน ในส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเรามีศูนย์การค้าและโรงแรม ซึ่งเป็นธุรกิจที่อิงกับนักท่องเที่ยว แต่สำหรับธุรกิจอื่น ๆ เช่น การเงิน และอาหารจะอิงกับลูกค้าคนไทยเป็นหลักจึงไม่ได้รับผลกระทบ ดังนั้น เมื่อเรามีธุรกิจที่แตกต่างกันทำให้เราสามารถ Balance ธุรกิจได้ดี โดยการใช้รายได้จากธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบให้เข้ามาทดแทนในช่วง COVID-19”

คุณสุเวทย์ มองว่า ธุรกิจที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนผลประกอบการของ MBK GROUP ในปี 2565 นี้ เป็นธุรกิจที่ไม่ได้พึ่งพานักท่องเที่ยว โดย 2 ธุรกิจหลักที่คาดว่าจะได้เห็นการเติบโตคือ ธุรกิจการเงิน และธุรกิจการประมูล เพราะในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซาคนจะต้องการสินเชื่อมากขึ้น โดยปัจจุบันกำไรจากธุรกิจสินเชื่อการเงินมีสัดส่วนประมาณ 30% เพิ่มขึ้นจากก่อน COVID-19 ซึ่งอยู่ที่ 15%

“การปรับกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจในช่วงที่เกิดวิกฤต ต้องมาจากการตั้งคำถามว่าเราเก่งอะไร เชี่ยวชาญอะไร สำหรับ MBK GROUP เรามุ่งเน้นธุรกิจการเงิน เพราะกรรมการของเรามีความรู้ และความเชี่ยวชาญด้านการเงิน จึงเป็นที่มาของการสร้างธุรกิจที่ทำให้เราแข็งแกร่ง และโดดเด่น”

กลยุทธ์การบริหารฉบับ MBK GROUP จุดเชื่อม 8 ธุรกิจเข้าด้วยกัน
คุณสุเวทย์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญสำหรับการบริหารธุรกิจทั้ง 8 ธุรกิจ คือเรื่องของคน โดยที่ MBK GROUP ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน และการสร้างคน โดยเน้นไปที่การสร้างวัฒนธรรมองค์กร และกำหนดว่าคุณสมบัติของคน MBK GROUP ต้องมีอะไรบ้าง และตั้งเป้าหมายว่าอยากเห็นคนขององค์กรเป็นอย่างไร
โดย MBK GROUP กำหนดอุดมการณ์ของคนที่มีสายเลือด MBK GROUP ด้วยการใช้คำว่า ‘MBK YES’ เพื่อบ่งบอกความเป็นวัฒนธรรมองค์กร
M : MODERN คือความทันสมัย ปรับเปลี่ยนได้ โดยคนของ MBK GROUP ต้องมีความคิดความอ่านที่ทันสมัย ตามเหตุการณ์ตามโลกที่ทันสมัย
B : BELIEF คือความน่าเชื่อถือ และไว้วางใจได้ โดยคนของ MBK GROUP ต้องเป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถเชื่อถือได้
K : KEYS มีคำตอบที่หลากหลาย โดยคนของ MBK GROUP ต้องมีคำตอบให้กับลูกค้าอยู่เสมอ และหลากหลายคำตอบ
Y : YOU เข้าใจลูกค้า ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยคนของ MBK GROUP ต้องรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร และยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก
E : Easy-Going เป็นมิตร เข้าถึงง่าย โดยคนของ MBK GROUP ต้องเป็นคนที่สามารถติดต่อประสานงานได้ง่าย ๆ และสามารถทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
S : STYLE โดดเด่นและน่าจดจำ โดยคนของ MBK GROUP ต้องมีเอกลักษณ์ มีความโดดเด่น

“เราจำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เป็นกรอบกับคนของเรา เพื่อสร้างคนให้สามารถทำงานได้ตามที่องค์กรต้องการ และตามกลยุทธ์ที่วางเอาไว้ เราจึงต้องเน้นวัฒนธรรมองค์กรเพื่อสร้างคนให้เป็นฐานในการบริหารงาน”คุณสุเวทย์ กล่าว

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ MBK GROUP ใช้เป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจคือ การวางระบบงาน ไม่ว่าจะเป็นระบบด้านดิจิทัล หรือระบบด้านวิศวกรรม ซึ่งองค์กรจำเป็นต้องควบคุมให้ได้มาตรฐาน และต้องคอยตรวจสอบอยู่เสมอเพื่อที่จะพัฒนาให้ดีขึ้นอยู่เสมอ
ในแง่ของการปรับใช้เทคโนโลยี คุณสุเวทย์กล่าวว่า เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว MBK GROUP จึงต้องปรับตัวให้ก้าวทัน

โดยปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนระบบงาน เช่น การอนุมัติต่าง ๆ ให้อยู่ในรูปแบบออนไลน์ได้ทั้งหมด อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเรื่องของการตลาด โดยใช้เทคโนโลยีในการเจาะข้อมูลทางการตลาดที่เป็นส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดเพื่อเก็บจำนวนผู้คนเข้าออกศูนย์การค้าและศึกษาพฤติกรรมต่าง ๆ เพื่อจะนำมาพัฒนาการให้บริการ รวมไปถึงใช้ข้อมูลสำหรับการตลาดมากขึ้นในอนาคต

นอกจากการบริหารธุรกิจเพื่อการเติบโตของผลประกอบการแล้ว MBK GROUP ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนเป็นอย่างมาก ในแง่ของสังคมและสิ่งแวดล้อม MBK GROUP ได้ให้ความช่วยเหลือและพัฒนาชุมชนในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตร เพื่อให้เกิดความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยการสนับสนุนผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการมอบทุนการศึกษา มอบอุปกรณ์การศึกษา ทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับการดูแลสิ่งแวดล้อม และให้การช่วยเหลือชุมชนให้สามารถมาจำหน่ายสินค้าได้ที่ศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค

“การดูแลสิ่งแวดล้อมเราต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน อันนั้นคือพื้นฐาน ที่ผ่านมา MBK GROUP ได้ควบคุมและปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นบ่อบำบัดน้ำเสีย การจัดการขยะ การติดตั้งระบบ Solar Roofที่ศูนย์การค้า โรงแรม สนามกอล์ฟ ในเครือเอ็ม บี เค รวมถึงยังมีนวัตกรรมการฆ่าเชื้อโรคในระบบปรับอากาศด้วยแสง UVC มาติดตั้งในระบบอากาศ เพื่อทำให้อากาศในอาคารศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ มีความสะอาดและปราศจากเชื้อโรคและต่อจากนั้นคือ การให้ความช่วยเหลือต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น”

เป้าหมายสู่การฟื้นตัวทั้ง 8 ธุรกิจ
คุณสุเวทย์ กล่าวในตอนท้ายว่า ในช่วงวิกฤตการณ์ที่ผ่านมาทำให้บริษัทต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย และต่อจากนี้เป้าหมาย MBK GROUP คือการทำให้ทุกธุรกิจสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง โดยคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาสำหรับการพลิกฟื้นทั้ง 8 ธุรกิจให้กลับมาสู่ช่วงก่อน COVID-19 ได้ภายใน 3 ปี และเป้าหมายระยะยาวของ MBK GROUP คือการขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ควบคู่ไปกับการสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ที่มา : การสัมภาษณ์พิเศษ

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #MBK #มาบุญครอง