Lost in Scandinavia : 6,500 กิโลเมตรในดินแดนอาร์กติก

หนึ่งในโอกาสหายาก เพื่อไปนั่งหลังพวงมาลัยของรถครอสโอเวอร์ CX-5 บนเส้นทางหนาวเหน็บไปยังดินแดนอาร์กติกที่หนาวเย็นที่สุดในโลก บริเวณแถบคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย  เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ขั้วโลกเหนือแบบที่ไม่เคยมีค่ายรถยนต์ใดทำมาก่อน กับภารกิจพิชิตแสงเหนือกับมาสด้า “Mazda Passion Drive to the New Horizon”

ต้องบอกว่า Road Trip ครั้งนี้ เป็นที่สุดของการเดินทางที่ไม่ใช่ใครจะทำได้ง่ายๆ  ลองคิดว่า คณะเดินทางของเรา ไม่ใช่ไป Booking รถยนต์จากร้านเช่าแล้วตระเวนขับรถไปล่าแสงเหนือ

แต่มีการเตรียมงานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน สำหรับการเตรียมรถยนต์จากเมืองไทยเพื่อปฎิบัติภารกิจนี้
เพื่อจะสร้างประวัติศาสตร์ฉีกกฎทุกการขับขี่ สำหรับการตะลุยคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย 4 ประเทศ รวมระยะทางทั้งสิ้น 6,500 กิโลเมตร


“สแกนดิเนเวีย” ชื่อที่เรียกขานดินแดน 4 ประเทศของยุโรปเหนือ เป็นที่ตั้งของประเทศเดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน มีพื้นที่รวมกัน 1,155,000 ตารางกิโลเมตร โดยมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมดตั้งอยู่แถบขั้วโลกเหนือ
และการที่เราขับรถยนต์มาสด้า CX-5 ลัดเลาะไปในคาบสมุทรสแกนดิเนเวียเป็นครั้งแรก กับประสบการณ์สุดขอบฟ้ากับมาสด้า : Mazda Passion Drive to the New Horizon

เพราะเสน่ห์ของท่องเที่ยวในแผ่นดินนอรร์ดิก คือ ดินแดนที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน (พระอาทิตย์เที่ยงคืน จะเห็นได้ชัดในช่วงฤดูร้อน ประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม) สามารถชมจุดแสงเหนือหรือ Aurora ได้ในหลายเส้นทาง วิธีการเที่ยวที่ดีที่สุด คือมีรถสักคัน แล้วขับออกไปเที่ยวในจุดที่สวยๆ ของแต่ละแห่ง


เราเดินทางถึง Oslo จากนั้นนั่งเครื่องบินภายในประเทศต่อไยังเมือง Honningswag เพื่อเดินทางไปยัง North Cape ในการพิชิตแสงเหนือ


การมาถึงสุดเส้นขอบโลกเพื่อชมแสงเหนือ เราต้องเตรียมพร้อมทั้งสภาพร่างกาย อุปกรณ์ถ่ายรูป และรถยนต์ให้พร้อมที่สุด
แน่นอนเรามากับรถยนต์มาสด้า CX-5 เครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D ขนาด 2.2 ลิตรที่ให้กำลัง 175 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/ต่อนาที แรงบิด 42.8 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบ/ต่อนาที เกียรอัตโนมัติ 6 จังหวะ SKYACTIV-DRIVE และเป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD ล้อขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/55/19 นิ้ว ทำให้มั่นใจว่า ประสิทธิภาพที่ตอบสนองสมรรถนะการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ


โดยการขับรถในต่างประเทศ ระยะทางไกลๆ ระบบควบคุมที่ติดตั้งมาเป็นชุดมาตรฐานอย่าง MRCC (Mazda Radar Cruise Control) ซึ่งเป็นระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ จะคล่องตัวมากๆ

ระบบนี้ จะทำการปรับลดความเร็วลงตามความเร็วของรถคันหน้าและรักษาระยะห่างกับรถคันหน้าให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง ส่วนอุปกรณ์ที่นำติดตัวมาด้วย สำหรับการถ่ายภาพในแบบทันทีทันใดก็คือ GoPro HERO6


ภาพวิดีโอคมชัดที่ความละเอียด 4K60 และ1080p240 และระบบกันภาพสั่นที่ดีที่สุดเท่าที่ GoPro เคยมีมาที่มาพร้อมกับดีไซร์การออกแบบที่ทนทานกันน้ำ พกพกสะดวก คุณจะเปลี่ยนแปลงการผจญภัยของคุณให้กลายเป็นวิดีโอภาพยนตร์บน QuikStory ที่คุณสามารถแชร์ให้ใครดูก็ได้

นอกจากนี้ HERO6 ยังมีการพัฒนาโหมดการถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อภาพที่คมชัดโดดเด่น แถมยังเพิ่มโหมด digital zoom เพื่อเพิ่มความพิเศษให้การถ่ายภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก


นับตั้งแต่ชมแสงเหนือเสร็จสิ้น เราเดินทางผ่านหลายเมืองสำคัญ ๆ อาทิ Bergen (แบร์เกน) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ มี Fish Market ที่ค้าขายปลากันแบบสด ๆ ตัวเป็น ๆ บนท่าเทียบเรือ
เมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของภูมิภาค จึงเรียกกันแบบไม่เป็นทางการว่าเป็นเมืองหลวงของนอร์เวย์ทางตะวันตก


จากนั้นคณะของเรามุ่งหน้าไปยัง Trondheim (ทรอนด์เฮม) ซึ่งคืออดีตเมืองหลวงเก่าของประเทศนอร์เวย์ เพื่อขับผ่านบนเส้นทาง Atlantic Ocean Road มีระยะทางยาวประมาณ 580 กม. ซึ่งเป็นหนึ่งของถนนที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่แฝงไปด้วยความท้าทายทั้งรถและคนขับ


รวมถึงได้ชมทัศนียภาพความสวยงามของทิวทัศน์ระหว่างเส้นทางแบบไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งยังได้รับการยกย่องให้เป็น “Norwegian Structure of The country” และถูกจัดให้เป็น National Tourist Route มรดกทางวัฒนธรรม
จาก Atlantic Ocean Road เราใช้เวลาอีก 3 วัน เพื่อขับผ่านเส้นทางสำคัญต่าง ๆ ของนอร์เวย์ก่อนส่งมอบกุญแจรถคืน ณ โรงแรม Comfort Hotel Grand Central และใช้เวลาชมเมืองออสโลอีกเล็กน้อย ก่อนจะบินกลับกรุงเทพในวันรุ่งขึ้น
อย่างที่บอกว่า การเดินทางในดินแดนคาบสมุทรสแกนดิเนเวียด้วยรถยนต์เป็นหมู่คณะใหญ่ ไม่ใช่ใครจะทำได้ง่ายๆ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ต้องมี Passion และเป้าหมายใหญ่มากๆ “มาสด้า” กล้าที่จะแตกต่างจริง ๆ ครับ …