‘แอลจี’ เจ้าแห่งนวัตกรรม ครองแชมป์ผู้นำทีวีระดับพรีเมียมของไทย 10 ปีซ้อน

‘แอลจี’ เจ้าแห่งนวัตกรรม
.
ครองแชมป์ผู้นำทีวีระดับพรีเมียมของไทย 10 ปีซ้อน
.
หากพูดถึงแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องซักผ้าและโทรทัศน์ที่ผู้บริโภคนึกถึงเป็นเจ้าแรก ๆ จะต้องมีชื่อของ ‘แอลจี’ อย่างแน่นอน โดย LG เป็นแบรนด์ที่ปรับตัวให้สอดรับกับความต้องการของคนไทยมาทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะหากเราเจาะเข้าไปยังกลุ่มโทรทัศน์ระดับพรีเมียมจะเห็นได้ว่าแอลจีได้นำเทรนด์เทคโนโลยีมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ นั่นทำให้พวกเขาสามารถครองสถานะผู้นำในกลุ่มดังกล่าวเป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่อง 10 ปีซ้อน
.
คุณอาภัสรา สังขวิจิตร ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จุดเด่นของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทโทรทัศน์ของแอลจีที่ได้รับการยอมรับของผู้บริโภคชาวไทย คือ การนำนวัตกรรมล่าสุดมาใช้อยู่เสมอ อย่างเช่น นวัตกรรม OLED ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ และโดดเด่นด้วยการแสดงภาพแบบเปล่งแสงเองได้ ซึ่งทำให้ภาพจากจอมีมิติ เด่นชัด และสมจริง นอกจากนี้ยังเป็นทีวีถนอมสายตาที่ได้รับการรับรองจากมาตรฐานระดับโลก ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าจะสามารถรับชมทีวีที่มีทั้งภาพและเสียงที่คมชัดสมจริงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยที่ไม่เมื่อยล้าสายตา
.
นอกเหนือจากเรื่องการแสดงภาพระดับพรีเมียมแล้ว หัวใจสำคัญของทีวี LG คือ การมุ่งมั่นที่จะยกระดับในการพัฒนาประสบการณ์ความบันเทิงในบ้านแบบครบครัน โดยที่มีคุณภาพสมจริง และฟังก์ชันการใช้งานที่ Smart มากขึ้น ซึ่งจะเข้ามาช่วยให้ชีวิตของผู้บริโภคง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสั่งการด้วย Magic Remote ที่สามารถสั่งการได้เหมือนการใช้เม้าส์กับคอมพิวเตอร์
.
และยังมีฟังก์ชันการสั่งงานด้วยเสียงซึ่งสอดคล้องไปตามเทรนด์ของ Internet of Things (IOT) ที่ทุกอย่างต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต อีกหนึ่งจุดเด่นคือทีวีของแอลจีถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม ทำให้สามารถใช้งานเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้
.
“ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่า นอกจากทีวีที่มีทั้งภาพและเสียงที่คมชัดแล้ว ทีวียังถนอมสายตา และยังสามารถใช้ตกแต่งบ้านได้อีกด้วย ส่วนในแง่ของคุณภาพนั้น ค่าเฉลี่ยอายุการใช้งานของทีวี LG ยังทนทานยาวนานเหมือนเดิม และยังมีบริการหลังการขายที่ครบครัน โดยที่มีศูนย์บริการที่เป็นเซอร์วิสเซนเตอร์คอยดูแลลูกค้าตลอด ดังนั้น ผู้บริโภคจึงสามารถมั่นใจได้ว่า หากทีวีเสีย หรือมีปัญหาก็จะสามารถแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ออนไซต์ หรือศูนย์บริการได้” คุณอาภัสรา กล่าว
.
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลัก ๆ ของนวัตกรรมทีวี OLED เป็นลูกค้าระดับบน โดยที่ LG เป็นผู้นำในตลาดทีวีพรีเมียมมา 10 ปีซ้อน โดยลักษณะของลูกค้าระดับบนจะเน้นเรื่องของคุณภาพมากกว่าราคา ดังนั้น กลุ่มเป้าหมายหลัก ๆ ที่ LG ให้ความสำคัญจะไม่ได้คำนึงถึงราคา แต่คำนึงถึงคุณภาพมากกว่า
.
‘แอลจี’ กับแผนขยายสู่ตลาดคนรุ่นใหม่
ถึงแม้ที่ผ่านมาแอลจีจะมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในกลุ่ม Generation X แต่ปัจจุบัน LG ได้ปรับผลิตภัณฑ์ให้มีหลากหลายมากขึ้นเพื่อเจาะตลาด Generation ใหม่ ๆ ทั้ง Generation Y ไปจนถึง Generation Z ด้วยการปรับทั้งดีไซน์ของผลิตภัณฑ์ และปรับปรุงภาพลักษณ์องค์กรให้ทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ในส่วนของฟังก์ชัน LG ยังได้นำเอาเทคโนโลยีนวัตกรรมล่าสุดมาใช้เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายมากขึ้น และยังพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาเพื่อตอบสนองวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่อยู่เสมอ
.
คุณอาภัสรา กล่าวว่า LG ได้เก็บข้อมูลจากการทำการตลาดที่เกาะติด Global Trend เพื่อหาความต้องการของตลาด และยังเก็บข้อมูลความคิดเห็นจาก Social Media โดยตรง ซึ่งจะทำให้ได้รับความคิดเห็นโดยตรงจากผู้บริโภค
.
“เราใช้ Social Media เป็นเหมือน Social media monitoring เพื่อเข้าไปดูข้อมูลความต้องการต่าง ๆ และเข้าไป Take action ทันที เพราะเราเชื่อมั่นว่าการฟังเสียงของลูกค้าเป็นงานหลักของเรา และทุกเสียงนั้น มีคุณค่าสำหรับองค์กรของเรา” คุณอาภัสรา กล่าว
.
สำหรับแผนการพัฒนานั้น ทาง LG จะเปิดไลน์อัพทีวีใหม่ทุกปี เพื่อที่จะตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างครอบคลุมมากขึ้น โดยในปี 2565 ได้เปิดตัว LG SIGNATURE OLED ที่เป็นทีวีระดับเรือธง เป็นที่สุดของความคมชัดสมจริง อย่าง OLED 8K series Z2 ซึ่งเป็นจอขนาดใหญ่ 88 นิ้ว และมีอีกตัวเลือกคือขนาดจอ 77 นิ้ว
.
อีกทั้งยังมี OLED ไลน์อัพอื่น ๆ อีก 4 ซีรีส์ ทั้ง G2, C2, B2 และ A2 รวมทั้งหมด 5 ซีรีส์ โดยปีนี้แอลจียังพัฒนา LG OLED evo ในซีรีส์ G2 และ C2 เพิ่มความสว่างและคมชัดขึ้น ทั้งยังมีขนาดที่หลากหลายมากขึ้นตั้งแต่ 42 นิ้วไปจนถึง 83 นิ้ว และภายในปีนี้จะมีการเปิดตัวของ QNED มี 4 ซีรีส์ด้วยกัน มาให้เลือกตั้งแต่ 55-86 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดจอที่หลากหลายมากขึ้นจากเดิมที่มีให้เลือกเพียงแค่ 75 นิ้ว
.
“ไลน์อัพการออกผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้ เราเชื่อว่าจะตอบสนองความต้องการลูกค้าหลากหลาย และครอบคลุมมากขึ้น โดยที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าเยอะมาก ทั้งตลาดออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่ง LG มีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย ทั้งออนไลน์ อย่างแพลตฟอร์ม Marketplace ต่าง ๆ รวมไปถึง Omni channel” คุณอาภัสรา กล่าว
.
สำหรับเป้าหมายในอนาคตของ LG คือการโฟกัสไปที่ลูกค้าระดับบนและกลางบน ซึ่งจะเน้นที่สินค้าคุณภาพดี และมีความเป็นสินค้านวัตกรรม โดยที่ผ่านมาแอลจียังคงครองสถานะผู้นำในกลุ่มทีวีพรีเมียมเป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่อง 10 ปีซ้อน ด้วยยอดขายผลิตภัณฑ์ทีวี LG OLED ซึ่งเป็นรุ่นพรีเมียมของแอลจี โดยในปี 2565 มียอดขายทีวีทั้งหมด 230,000 เครื่อง มูลค่ารวม 3,738 ล้านบาท แบ่งเป็นทีวี LG OLED ทั้งหมด 10,600 เครื่อง มูลค่า 520 ล้านบาท
.
ขณะที่ยังเล็งเห็นศักยภาพของตลาดทีวีพรีเมียม ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสัดส่วนยอดขายทีวี OLED ของแอลจีซึ่งอยู่ที่ 75% ในปี 2565 เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งเติบโตอยู่ที่ 37% ทำให้แอลจียังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์ทีวีทุกรุ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และได้ตั้งเป้าขยายส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มทีวีรวมเป็น 23% ในปี 2566
.
โดยมุ่งผลักดันตลาดพรีเมียมให้เติบโตยิ่งขึ้น และตั้งเป้ายอดขายกลุ่มทีวี OLED ที่ 75% ในขณะที่ตั้งเป้ายอดขายทีวีหน้าจอขนาดใหญ่ 70 นิ้วขึ้นไปอยู่ที่ 30% โดยที่ตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในกลุ่มลูกค้าทีวีในปี 2023 ประมาณ 5%
.
นอกจาก แอลจีจะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่สามารถตอบสนองต่อตลาดได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน ซึ่งคำนึงถึง ESG (Environment Social และ Governance) ในการพัฒนาขององค์กรอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น กล่องบรรจุภัณฑ์ของสินค้าประเภททีวีของแอลจีนั้นทำมาจากวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ทุกรุ่น
.
นอกจากนี้สินค้าของแอลจียังเน้นที่เรื่องของการประหยัดพลังงาน ทั้งไฟฟ้า รวมถึงทรัพยากรน้ำ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแผนการที่ให้ความสำคัญกับ ESG ของแบรนด์ที่คนภายนอกสามารถมองเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม
.
เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
.
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
.
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #ProductOfTheYearAwards2022 #LG