The Business Plus บิสิเนสพลัส
“ทุกความสำเร็จต้องมีการตั้งเป้าหมาย และสำหรับเป้าหมายของเลอโนโวคือ ก้าวสู่การเป็น Leader and Enable of Intelligent Transformation ซึ่งการจะไปถึงเป้าหมายได้นั้น ‘กลยุทธ์’ ที่ใช้คือหัวใจสำคัญที่สุด”
สำหรับผลประกอบการของเลอโนโว ถือได้ว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะมีรายได้เติบโตต่อเนื่องถึง 10 Quarter ซึ่งกลุ่มธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้กับเลอโนโว คือ กลุ่มธุรกิจ Intelligent Devices Group (IDG) ได้แก่ PC&Smart Devices และ Mobile Business รวมกัน
หลังประสบความสำเร็จ 10 Quarter ธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคอินโดไชน่า บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงกลยุทธ์ที่จะพาเลอโนโวทะยานสู่การเป็น Leader and Enable of Intelligent Transformation ว่า
“สำหรับ Business Strategy ในฐานะที่เราเป็น Local เราได้รับ Strategy จาก Corporate เพื่อนำมาปรับใช้ให้เป็นทิศทางเดียวกันทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกัน ต้องมีกลิ่นอายที่เข้ากับประเทศไทยด้วย ซึ่ง Business Strategy ที่เราใช้คือ Intelligent Transformation จะประกอบไปด้วย 3 ส่วนใหญ่ ๆ ในการสร้าง Smart Technology for all เรียกว่า 3S ประกอบด้วย
Smart Internet of Things หมายถึง Devices ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อ IoT
Smart Infrastructure ได้แก่ Computing, Storage and Networking Power เพื่อสนับสนุนการทำงานของข้อมูลระบบ
Smart Verticals คือ การมี Solution สำหรับ Solution Smart City, Smart Education, Smart Retail, Smart Manufacturing และ Smart Healthcare
ในส่วนของ Vision หลักของเลอโนโว คือการสร้าง Smart Technology for all หรือเรียกว่าเป็นการสร้างเทคโนโลยีที่ทำให้ชีวิตของลูกค้าสะดวกสบายขึ้น มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งหลัง ๆ เราจะเห็นว่าเลอโนโลไม่ได้มีเพียงแค่ผลิตภัณฑ์ Laptop, PC, Tablet หรือโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่ยังมีพวก Smart Devices เช่น นาฬิกาอัจฉริย หรือจอภาพอัจฉริยะ เพิ่มเติมด้วย”
นอกจากนี้ ธเนศเล่าเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้มีสัดส่วนของ Consumer Business ซึ่งเป็นตลาด Retail ที่วางขายตามฟอร์จูน พันธุ์ทิพย์ และห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ถ้ามองสัดส่วนของตลาด Commercial ยังไม่เยอะมากเท่าที่ควร ตรงนี้เป็นจุดที่ต้องปรับ ซึ่งในส่วนของ Business Strategy นั้นเริ่มตั้งแต่การสร้างทีมงาน มี Solution ต่าง ๆ เข้าไปเสริม เพื่อที่จะปลุกตลาด Commercial ให้เกิดขึ้น ซึ่งทำให้เลอโนโวได้รับการตอบรับจากลูกค้าองค์กรมากขึ้น
เมื่อลูกค้าองค์กรตอบรับมากขึ้น จึงมีการปรับสัดส่วนทางการตลาดตามมา จากเดิมที่เคยเป็น Business-to-Consumers (B2C) 60% Business-to-Business (BSB) 40% ก็เปลี่ยนเป็น Business-to-Consumers (B2C) 60% Business-to-Business (BSB) 40%
ธเนศเล่าถึงการเติบโตของเลอโนโวไว้ว่า “ปี 2019 ตั้งเป้าเติบโตไว้ 15% แต่เราโต 20% เพราะฉะนั้น ปี 2020 ก็เลยมีตัวเลขที่จะโตประมาณ 20% ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเงื่อนไขระหว่างปี 2019 และปี 2020 แตกต่างกัน สำหรับปีนี้เกิดวิกฤตที่เป็นปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด Covid-19 ปัญหาเศรษฐกิจต่าง ๆ ถ้าเรา Maintain ลักษณะการเจริญเติบโตนี้ไปได้ ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว”
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้เลอโนโวประสบความสำเร็จอีกสิ่ง ก็คือการมี Portfolio ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมและหลากหลาย ทั้ง Consumer and Commercial
