“เคเอสซีพอร์ท” ขานรับขนส่งทางทะเลโต เดินหน้าขยายกองเรือ ตอบโจทย์ลูกค้า

เคเอสซีพอร์ท บริษัทผู้นำการให้บริการด้านงานโลจิสติกส์ทางทะเลอย่างครบวงจร เจาะดีมานด์ความต้องการขนส่งสินค้าและบริการทางทะล ส่งสัญญาณเติบโตต่อเนื่อง เดินหน้าขยายธุรกิจเพิ่มกองเรือบรรทุกน้ำมันเสริมแกร่ง วางเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านบริการงานโลจิสติกส์ทางทะเลอย่างครบวงจรระดับภูมิภาคอาเซียน

นายกฤษ สีตองอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท เคเอสซีพอร์ท จำกัด และบริษัท ซีมัวร์ มารีน แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์และแผนการขับเคลื่อนธุรกิจภายใน 5 ปี บริษัทต้องการยกระดับด้านการให้บริการขนส่งสินค้าและบริการทางเรือรวมถึงโลจิสติกส์ทางทะเลอย่างครบวงจร พร้อมขยายกองเรือบรรทุกน้ำมันเสริมแกร่งธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะเรือขนาดกลาง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มธุรกิจผลิตปิโตรเลียม ที่ตลาดมีการขยายตัวมากขึ้น

โดยเมื่อ วันที่ 10 กันยายน 65 บริษัทได้ฤกษ์ขยายกองเรือบรรทุกน้ำมันเพิ่มอีก 1 ลำ ชื่อ M.T.THAPANEE 9 (ฐาปนีย์ 9) ขนาดระวางบรรทุกสินค้า 1,300 ตัน เป็นลำที่ 2 ต่อเนื่องจากเดิมที่ได้มีการเปิดตัวเรือบรรทุกน้ำมัน ARISTA2 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจรอบด้าน และยังช่วยการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ นำไปสู่โครงสร้างราคาค่าบริการ ทำให้ได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น ที่สำคัญการลงทุนขยายกองเรือครั้งนี้ จะผลักดันการเติบโตให้แก่บริษัทอย่างยั่งยืน

นายกฤษณชัย ยินดียม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคเอสซีพอร์ท จำกัด และบริษัท ซีมัวร์ มารีน แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ช่วง 2 ปีที่เกิดโควิด-19 บริษัทยังฝ่าวิกฤติ สร้างผลงานความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยมีลูกค้าใช้บริการต่างๆเพิ่มมากขึ้นสวนทางสภาพเศรษกิจในปัจจุบัน

“ความต้องการของลูกค้าในการขนส่งสินค้าทางทะเลปรับตัวสูงขึ้น ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ระบาด กลายเป็นปัจจัยเร่งให้ตลาดขยายตัวแบบก้าวกระโดด ดังนั้นการที่บริษัทลงทุนเพิ่มปริมาณกองเรืออีก 1 ลำ ไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า แต่ช่วยเสริมแกร่งด้านการมีสิ่งอำนวยความสะดวก(Facilities) ของโลจิสติกส์ทางทะเลให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ช่วยผลักดันการเติบโตให้บริษัทในระยะยาวต่อไป”

สำหรับ บริษัท เคเอสซีพอร์ท จำกัด และบริษัท ซีมัวร์ มารีน แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เริ่มดำเนินกิจการโดยกัปตันเดินเรือพาณิชย์ที่มีประสบการณ์กว่า 15 ปี ผนึกกำลังกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งทางเรือและธุรกิจการเดินเรือนอกชายฝั่ง ปลุกปั้นกิจการที่จังหวัดสงขลา เพื่อให้บริการงานโลจิสติกส์ทางทะเลอย่างครบวงจรแก่ลูกค้าต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจผลิตปิโตรเลียมต้นน้ำ(Upstream) สนับสนุนการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมนอกชายฝั่งอ่าวไทย ทะเลอันดามัน และธุรกิจการขนส่งปิโตรเลียมทางทะเล(Downstream) ปัจจุบันมีลูกค้าจำนวนมาก และขอบข่ายการดำเนินธุรกิจเติบโตจากในประเทศ ขยายสู่ระดับภูมิภาค ใน 10 ประเทศอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นไทย สิงคโปร์, มาเลเซีย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และพม่า เป็นต้น สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://seamoormarine.com

และเพื่อต้องการนำพาบริษัทให้ประสบความสำเร็จ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้สอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจในอนาคตที่บริษัทได้มีการตั้งเป้าไว้ คือการเข้าเป็นบริษัทมหาชน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เพื่อระดมทุนขยายกิจการต่อไป