KBTG ใช้เร้ดแฮทช่วยเพิ่มความเร็วและขยายบริการดิจิทัล

กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ทำการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที เพื่อรับมือกับความต้องการในการใช้แอปพลิเคชั่นโมบายแบงกิ้งซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้แพลตฟอร์มเร้ดแฮท คอนเทนเนอร์ และเทคโนโลยีการส่งข้อความ ทำงานร่วมกับกระบวนการทำงานที่รวดเร็วและการทำงานด้าน DevOps เพื่อช่วยให้ธนาคารสามารถสร้างระบบแจ้งเตือนแบบครบวงจรได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มลดจำนวนได้ตามที่ต้องการ เพื่อรองรับปริมาณการทำธุรกรรมที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล เนื่องจากมีฐานผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความต้องการพื้นฐานดังกล่าวนี้ KBTG จึงได้วางแผนทำงานร่วมกับพันธมิตรในการค้นหารูปแบบการดำเนินงานใหม่ ๆ และกรณีศึกษาต่าง ๆ ที่เน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก เพื่อให้สภาพแวดล้อมในการใช้แอปพลิเคชั่นของธนาคารเป็นที่ยอมรับและไว้วางใจจากผู้ใช้บริการ

รองรับการใช้แอปพลิเคชั่นโมบายแบงกิ้งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย

กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) มีหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติงานประจำวันให้กับธนาคารกสิกรไทย และเป็นผู้ให้บริการด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและพันธมิตรให้กับบริษัทฟินเทคในประเทศไทย หนึ่งในบริการที่บริหารจัดการให้กับธนาคารกสิกรไทยคือแอปพลิเคชั่น K PLUS ซึ่งเป็นโมบายแบ้งกิ้งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทยด้วยจำนวนผู้ใช้กว่า 11 ล้านราย1 แอปพลิเคชั่นนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด โอนเงินระหว่างประเทศ บริหารจัดการการลงทุนต่าง ๆ และอื่นๆ อีกมาก

ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ฐานผู้ใช้ K PLUS เพิ่มขึ้นถึงสองเท่า ดังนั้นเพื่อรองรับการเติบโต รวมถึงการส่งฟีเจอร์และบริการต่าง ๆ ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น KBTG จึงจำเป็นต้องยกเครื่องสภาพแวดล้อมไอทีที่มีอยู่ใหม่ เช่น KBTG เปิดตัว K PLUS AI-Driven Experience (KADE) ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่นำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้งานกับระบบหลังบ้านแบบเก่า เพื่อทำการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและนำมาปรับการให้บริการที่มอบประสบการณ์แบบเจาะจงไปยังลูกค้าแต่ละราย นอกจากนี้ธนาคารกสิกรไทยยังตัดสินใจสร้างโอเพ่นแบงกิ้งแพลตฟอร์มที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบต่าง ๆ ของพันธมิตรทางธุรกิจของธนาคารอีกด้วย

นายธนุสศักดิ์ ธัญญสิริ Senior Delivery Manager ของ KBTG กล่าวว่า “ธนาคารต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการดูแลแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแบบเก่าที่เคยใช้อยู่ ซึ่งไม่สามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจเราได้ เรามีลูกค้านับล้านรายที่ทำธุรกรรมรวมแล้ว 5,000 รายการต่อวินาที เราจึงต้องนำเทคโนโลยีใหม่ที่มีความพร้อมใช้งานสูง มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยมาใช้ เพื่อให้สนองตอบความคาดหวังของลูกค้าของเราได้”

สร้างสภาพแวดล้อมใหม่ให้กับแอปพลิเคชั่นด้วยเร้ดแฮท

KBTG ทำการประเมินโซลูชั่นต่าง ๆ ที่มีอยู่ รวมทั้งข้อเสนอจากผู้ให้บริการสามราย ซึ่งหลังจากทดลองใช้แล้ว บริษัทได้เลือกเร้ดแฮท โดยพิจารณาจากความเชี่ยวชาญด้านโมบายและความเป็นผู้ชำนาญการในด้านนี้ของเร้ดแฮท KBTG ได้ทำงานร่วมกับเร้ดแฮท คอนซัลติ้ง ในการโยกย้ายระบบจากแพลตฟอร์มเดิมไปยัง Red Hat Enterprise Linus และ Red Hat JBoss Enterprise Application Platform (EAP) เป็นเวลาประมาณสี่เดือน ซึ่งในส่วนบริการ Professional Services ยังให้บริการด้านการใช้งาน OpenShift ซึ่งประกอบด้วย OpenShift Infrastructure Workshop, OpenShift Application Workshop, CI/CD Integration Workshop, OpenShift Installation, Application Onboarding, CI/CD Integration และการสนับสนุนด้าน OpenShift อย่างต่อเนื่อง

Red Hat Enterprise Linux มอบโครงสร้างที่ใช้ได้กับทุกการใช้งานและใช้ได้กับเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อให้บริการและเวิร์กโหลดได้เร็วขึ้นด้วยการทำงานที่น้อยลง ใช้ได้กับทุกแอปพลิเคชั่น ทุกการใช้งาน และทุกเวลา ส่วน Red Hat JBoss EAP ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นเซิร์ฟเวอร์โอเพ่นซอร์ส Java™ EE 8-compliant ช่วยให้ KBTG สามารถผสานรวมระบบหน้าบ้านและหลังบ้านเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อใช้งานและบริหารจัดการแอปพลิเคชั่นที่อยู่บนสภาพแวดล้อมทั้งหมดได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ KBTG ยังได้สร้าง UCenter ซึ่งเป็นระบบฟีดการแจ้งเตือนแบบรวมศูนย์ และได้นำระบบนี้ไปใช้บน Red Hat OpenShift Container Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่นที่ทำงานบน Kubernetes ทั้งนี้ UCenter ใช้ Red Hat AMQ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มในการส่งข้อความสั้น ๆ เพื่อแจ้งเตือนบริการที่เป็นข้อเสนอต่าง ๆ ตั้งแต่บริการด้านการเงินไปจนถึงบริการด้านไลฟ์สไตล์ เช่น โปรโมชั่นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไปจนถึงแจ้งเรื่องการโอนเงินและการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่น K PLUS

KBTG ได้ใช้บริการเร้ดแฮทเทรนนิ่ง เพื่อช่วยให้ทีมงานของ KBTG ได้รับประสบการณ์ด้านสภาพแวดล้อมทางแอปพลิเคชั่นของเร้ดแฮท คุณธนุสศักดิ์กล่าวว่า “แม้ว่าเทคโนโลยีของเร้ดแฮทเป็นเรื่องใหม่สำหรับเรา แต่การอบรมทั้งทางออนไลน์และในชั้นอบรมที่จัดโดยบริการเร้ดแฮทเทรนนิ่งได้ช่วยให้เรามีทักษะที่ช่วยให้เราสามารถโยกย้ายระบบต่าง ๆ ของเราได้ด้วยตัวเองมากขึ้น”

การตอบสนองเพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทมีประสิทธิภาพมากขึ้นส่งบริการใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น

การใช้เร้ดแฮทคอนเทนเนอร์ แพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีการส่งข้อความ ทำงานร่วมกับกระบวนการในการพัฒนาที่รวดเร็วครอบคลุมและการทำงานด้าน DevOps ได้ช่วยให้ KBTG ลดระยะเวลาในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นลงครึ่งหนึ่งจากการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการเข้าใช้งานทรัพยากรต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น นายธนุสศักดิ์ระบุว่า “ก่อนหน้านี้เราใช้เวลากว่าหนึ่งเดือนในการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ แต่ปัจจุบันเราใช้เวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น เราสามารถตอบกลับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าได้เร็วขึ้น และนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ ๆ ตามที่ลูกค้าคาดหวังได้ในเวลาที่น้อยลง” การทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยสามารถคงตำแหน่งผู้นำด้านโมบายแบงกิ้งในประเทศไทยด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่องทันต่อความต้องการ

เพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมและปรับเพิ่มขนาดการทำงาน

การที่เร้ดแฮทช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเทคโนโลยีในการส่งข้อความและนำมาใช้งานร่วมกับคอนเทนเนอร์ และวิธีการทำงานแบบไมโครเซอร์วิส ช่วยให้ KBTG สามารถเพิ่มการจัดการกับจำนวนธุรกรรมได้มากขึ้น รวมถึงช่วยให้การประสานงานกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อการขยายธุรกิจในอนาคตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นายจรุง เกียรติสุภาพงศ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่สารสนเทศของ KBTG กล่าวว่า “เราได้เพิ่มระบบแจ้งเตือนแบบรวมศูนย์เข้าไปในแอปพลิเคชั่น K PLUS ด้วยแพลตฟอร์ม Red Hat OpenShift Container และ Red Hat AMQ”  “ระบบต่าง ๆ เหล่านี้ รวมถึงการแจ้งเตือนบริการด้านการเงิน และไลฟ์สไตล์ เช่น แจ้งเตือนการถอนเงิน เป็นต้น เราเชื่อว่าการขยายบริการด้านนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน K PLUS จาก 12 ล้านบัญชี เป็น 20 ล้านบัญชี ด้วยความเร็วในการทำธุรกรรม 5,000 รายการต่อวินาทีภายในปี 2563”

การบริหารจัดการให้เข้าถึงหัวใจในการปฏิบัติการที่ดีขึ้นได้อย่างเรียบง่าย

KBTG เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน โดยใช้โอเพ่นซอร์สทำการมอนิเตอร์และควบคุมเทคโนโลยีด้วยคอนโซลบริหารจัดการของ OpenShift เพื่อสร้างแหล่งข้อมูลเชิงลึกที่รวมศูนย์เป็นหนึ่งเดียว ช่วยให้การดูแลรักษาและการแก้ปัญหาสำเร็จได้เร็วขึ้นโดยไม่ยุ่งยาก ทั้งยังช่วยให้มีความพร้อมใช้สูงขึ้นโดยไม่สิ้นเปลืองทรัพยากรไอที นายธนุสศักดิ์กล่าวว่า “เราได้รวบรวมคำสั่งทั้งหมดไว้ในที่เดียวกัน เพื่อจะได้เห็นภาพโครงสร้างพื้นฐานไอที ทั้งหมดของเราอย่างสมบูรณ์ เราสามารถแก้ไขปัญหาได้เร็วขึ้น และกดดันน้อยลง นอกจากนั้น การที่โซลูชั่นที่เราใช้เป็นโอเพ่นซอร์ส เราจึงสามารถนำทรัพยากรมากมายที่มีอยู่ในคอมมิวนิตี้ไปใช้ในการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว” นอกจากนี้ การผสานรวมสภาพแวดล้อมการใช้เร้ดแฮทแอปพลิเคชั่นของ KBTG เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยและนโยบายต่าง ๆ ที่มีอยู่ ช่วยให้ KBTG มองเห็นความเป็นไปในการรักษาความปลอดภัยได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้สามารถปกป้องข้อมูลของลูกค้าและสินทรัพย์ด้านไอทีขององค์กรได้โดยง่าย ด้วยการปฏิบัติตามกฎระเบียบและนโยบายต่าง ๆ

แพลตฟอร์มระดับองค์กรที่เชื่อถือได้เป็นรากฐานของการขยายธุรกิจในอนาคต

จากความสำเร็จในครั้งนี้ KBTG วางแผนเพิ่มการใช้งานโซลูชั่นของเร้ดแฮทกับแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ และงานที่เป็นความท้าทายของธุรกิจทั้งหมด เช่น การที่ธนาคารกสิกรไทยกำลังเป็นผู้นำความคิดริ่เริมด้านการเงินที่เน้นเรื่องความปลอดภัยในภูมิภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบพร้อมเพย์ แอปพลิเคชั่นที่ใช้ในการโอนเงิน และความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทยในการนำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้ นายธนุสศักดิ์กล่าวว่า “โครงการ UCenter เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเร้ดแฮทสามารถสนับสนุนความต้องการของเราได้อย่างเต็มที่ เร้ดแฮทมอบความสามารถในการเพิ่มขนาดการทำงานให้กับเราโดยที่ไม่ลดทอนความพร้อมใช้และคงไว้ซึ่งความปลอดภัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการเดินสู่เป้าหมวยด้านการเติบโตของเรา เราได้เพิ่มการใช้งานกับแอปพลิเคชั่นและกรณีใช้งานอีกห้ารายการ เช่น การตรวจจับภัยคุกคาม ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าเร้ดแฮทสามารถช่วยเรื่องนี้ได้อย่างดี เรายินดีที่ได้ใช้บริการจากเร้ดแฮท โดยเฉพาะการสนับสนุนความเชี่ยวชาญทางเทคนิคที่เร้ดแฮทให้บริการเรา เราหวังว่าจะกระชับความสัมพันธ์ของเรากับเร้ดแฮทให้แนบแน่นขึ้น” “ก่อนหน้านี้เราใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือนในการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ แต่ตอนนี้เราใช้เวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้น และเรายังมอบฟีเจอร์ตามที่ลูกค้าคาดหวังโดยใช้เวลาน้อยลง”