เกือบศตวรรษที่ Jubilee มุ่งมั่นสรรหาและส่งมอบคุณค่าแห่งเครื่องประดับเพชรคุณภาพระดับโลกเพื่อคนไทยทุกคน

จากจุดเริ่มต้นจวบจนปัจจุบัน กว่า 95 ปีที่ยูบิลลี่สืบทอดธุรกิจครอบครัวของคนไทย ผู้สรรค์สร้างเครื่องประดับเพชรแท้คุณภาพระดับโลก ด้วยวิสัยทัศน์ “The World Class Standard” โดยไม่หยุดยั่งที่จะสรรหาอัญมณี และนวัตกรรมเครื่องประดับเพชรที่ดีที่สุดในโลกเพื่อลูกค้าคนสำคัญ

คุณอัญรัตน์ พรประกฤต (อัญ) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ยูบิลลี่ กำลังก้าวสู่ปีที่ 96 ที่ได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากลูกค้า ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่เราคงไว้ซึ่งคุณภาพ เราตั้งเป้าหมายที่จะมอบสินค้าระดับ World Class Quality ให้กับลูกค้าทุกคน สิ่งที่เป็นตัวตนสำคัญของยูบิลลี่ คือ การที่เราไม่เคยว่างเว้นที่จะมองหาความสุดยอดของโลก ตั้งแต่วัตถุดิบที่ดีที่สุด โรงงานผลิตขึ้นรูปตัวเรือน หรือนวัตกรรมต่าง ๆ มาใช้กับเครื่องประดับของยูบิลลี่ ซึ่งทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า และอีกไม่นานยูบิลลี่ก็จะเป็นแบรนด์ไทยที่เข้าสู่ธุรกิจ
100 ปี

นอกจากนี้ฐานสมาชิกของเรามีการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เรามีรอยัลตีโปรแกรมที่มีชื่อว่า “The Sparkling Club” มีสมาชิกประมาณ 200,000 ราย ซึ่งเกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นตั้งใจของเรา ถือเป็น DNA ที่ส่งต่อมาถึงรุ่นที่ 4 โดยได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์และวิสัยทัศน์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากรุ่นคุณพ่อ ซึ่งท่านเป็นคนที่ Active และคิดต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านเป็นคนที่ Change อุตสาหกรรมอัญมณีในประเทศไทยที่ทำให้กลุ่มผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และก่อให้เกิดอาชีพ Diamond Advisor ซึ่งเกิดขึ้นมาจากการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย จากเดิมธุรกิจจำหน่ายเครื่องประดับอัญมณีจะเป็นร้านค้าเดี่ยวที่อยู่ในย่านการค้าดั้งเดิม แต่ยูบิลลี่เป็นผู้บุกเบิกการจำหน่ายเครื่องประดับในห้างสรรพสินค้า มีการขยายสาขาใหม่ ๆ ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างสิ่งแวดล้อม และพฤติกรรมของผู้บริโภคใหม่ ๆ ในการเลือกซื้อเครื่องประดับ นอกจากนี้ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับใหม่ ๆ ที่หลากหลาย จึงทำให้ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะลูกค้าบางกลุ่ม

ด้วยวิสัยทัศน์ของยูบิลลี่ที่จะสร้างคุณค่าในการสวมใส่เครื่องประดับเพชรให้เกิดขึ้นกับคนทุกกลุ่ม ผ่านนวัตกรรมที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพอันเป็นเลิศของวัตถุดิบ คุณภาพของเพชร คุณภาพของตัวเรือน การบริการที่มาตรฐาน และลงรายละเอียดในทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่คุณพ่อส่งต่อมาให้ และอัญเองก็ยังยึดถือมาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เราก็ปรับเปลี่ยนให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้บริโภค การที่เราเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย หรือการมีสินค้าที่หลากหลาย ลูกค้าก็สามารถเป็นเจ้าของเครื่องประดับเพชรแท้คุณภาพระดับโลกในราคาเริ่มต้นเพียงหมื่นกว่าบาทเท่านั้น หรือสินค้าที่เป็นแรร์ไอเทม สินค้างานมาสเตอร์พีซ ซึ่งบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียว หรือเพชรกะรัต ระดับราคาก็จะสูงขึ้น โดยส่วนใหญ่จำหน่ายในแฟลกชิปสโตร์ หรือยูบิลลี่ บูติกช้อป ดังนั้นลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับของยูบิลลี่ชิ้นใด ก็เป็นเครื่องประดับระดับ World Class ที่มั่นใจได้ จึงเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถลดคุณภาพและมาตรฐานนี้ลงไปได้ เพราะเราปลูกฝังแนวความคิดนี้อยู่ภายใน มาจากแพชชันของเรา ที่ทำให้เราก่อร่างสร้างธุรกิจและรูปแบบของธุรกิจ ดังแนวคิด WORLD-CLASS quality for everyone”

สุดยอดเพชรและเครื่องประดับเพชร

คุณอัญกล่าวว่า “ภายใต้ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ เราบริหารจัดการด้วยกัน 3 แบรนด์ ได้แก่ แบรนด์ดั้งเดิมของเราเอง คือ Jubilee Diamond ต่อมาเป็นแบรนด์ระดับโลก คือ De Beers Forevermark ซึ่งเป็นของ De Beers และล่าสุด เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จากความพยายาม ความทุ่มเท และความมุ่งมั่นของเรา รวมถึงอาจเป็นเพราะเคมีตรงกันที่ทำให้เราได้สิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการจัดจำหน่ายแบรนด์เพชรระดับโลกชื่อ LOVE100 ซึ่งเป็นของตระกูล Tolkowsky ตระกูลที่คิดค้นเรื่องการเจียระไนเพชรทรงกลมของโลก ที่มีประวัติกว่า 200 ปีและดำเนินธุรกิจมาถึงรุ่นที่ 8 วันนี้ที่เราเห็นเพชรทรงกลมก็เกิดขึ้นจากตระกูลนี้เป็นผู้คิดตั้งแต่รุ่นที่ 3 ต่อมาในรุ่นที่ 6 Mr.Gabi Tolkowsky ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้เจียระไนเพชรระดับสุดยอดของโลก และเป็นศิลปินด้วย ได้รับความไว้วางใจจาก De Beers ให้เจียระไนเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก 599 กะรัต และเนื่องจากเป็น Master Cutter ระดับโลก จึงได้คิดค้นการเจียระไนที่ยอดเยี่ยมกว่าการเจียระไนเพชรทรงกลมที่ต้นตระกูลได้คิดมา เป็นที่มาของการเจียระไนเพชร Love100 ที่เป็นเพชรทรงกลม 100 เหลี่ยม ซึ่งธรรมดาจะเป็นเพชรทรงกลม 57 เหลี่ยมเท่านั้น และได้ใบรับรองจาก De Beers ด้วย ซึ่งยูบิลลี่เองก็ได้สิทธิ์นี้ด้วยเช่นกัน เป็นประเทศที่ 2 ของโลกต่อจากประเทศจีน และเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นจึงเป็นไปตามวิสัยทัศน์ที่เราจะสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดเป็นสุดยอดของโลกที่เราจะนำเข้ามาเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสและเป็นเจ้าของ”

พฤติกรรมลูกค้ากับการเลือกซื้อเพชร

คุณอัญกล่าวต่อว่า “สมัยก่อนการจะหาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อเพชรเป็นเรื่องยาก แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารและดิจิทัลช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเพชรได้ง่าย เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นจนเข้าใจ ชอบในดีไซน์ ก็จะมาเลือกซื้อที่สโตร์ ทุกวันนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคมักจะหาข้อมูลมาก่อนซื้อสินค้า หรือแม้แต่เมื่อหาถึงร้านแล้วก็ยังอ่านข้อมูลเพิ่มเติมอีก นับเป็นหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค แต่ในฐานะที่เราทำธุรกิจอยู่ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เราจะต้องทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค แล้วเราจะปรับปรุงธุรกิจของเราให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างไร”

“ทุกวันนี้อาจจะมีข้อมูลหลากหลายกระแสที่อาจทำให้ความเชื่อมั่นที่มีต่อการตัดสินใจของลูกค้า จากข้อมูลอินไซด์สามารถยืนยันได้ว่า ตลาดเพชรแท้ยังเป็นที่ต้องการของตลาด ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นที่เป็นแบรนด์ระดับโลกต่างก็ลงมาเล่นในตลาดเครื่องประดับเพชร เพราะเห็นถึงทิศทางในการเติบโตในแง่ของมูลค่าและราคาของเครื่องประดับเพชรแท้ ในขณะที่ผู้บริโภคอาจจะหวั่นไหวกับเครื่องประดับเพชรสังเคราะห์ อย่างไรก็ตามเครื่องประดับเหล่านี้กลับไม่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในตลาดเอเชีย เนื่องจากไม่ได้มีมูลค่าเพิ่มในอนาคต แต่มีระดับราคาที่สูง ดังนั้นจึงทำให้ราคาในปัจจุบันลดลงไปเรื่อย ๆ ผู้ผลิตระดับโลกรายใหญ่หลายรายต่างก็พากันยกเลิกแผนที่จะออกเครื่องประดับเพชรสังเคราะห์ไป”

ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย

คุณอัญกล่าวเสริมว่า “ปัจจุบันยูบิลลี่มี 130 สาขา ในกทม.มี 50 สาขา และต่างจังหวัดอีก 80 สาขาครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ โดยลูกค้าของเราประมาณ 95% เป็นคนไทย ส่วนอีก 5% เป็นชาวต่างชาติผ่านสาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกทม. ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน เอ็มโพเรียม เป็นต้น รวมถึงสาขาในเมืองท่องเที่ยว อาทิ เชียงใหม่ อุดรธานี ภูเก็ต พัทยา ทั้งนี้เป็นลูกค้าเก่าประมาณ 50% และลูกค้าใหม่อีก 50% ซึ่งถือว่ามีฐานลูกค้าเก่าที่สูงมาก น่าจะเป็นเพราะการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของเราให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า จริง ๆ แล้วเราไม่ได้นำเสนอเฉพาะเครื่องประดับเพชรระดับเวิลด์คลาสแต่เราจะต้องสามารถเข้าไปถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เข้าใจการใช้งานของลูกค้า อย่างเช่นลูกค้าบางกลุ่มมีเครื่องประดับเพชรอยู่มากแล้ว หน้าที่เราคือต้องไปเสาะหาว่าในโลกนี้มีอะไรที่ลูกค้าไม่มี และเขาควรค่าแก่การเก็บสะสมเครื่องประดับนี้”

แผนดำเนินงานปี 2568

“ปี 2567 นับเป็นปีที่ท้าทายมาก ทางยูบิลลี่ได้ดำเนินการไปหลายอย่างมาก ในขณะเดียวกันเราก็ได้วางแผนสำหรับปี 2568 โดยสิ่งที่สำคัญคือ การเตรียมความพร้อมขององค์กร เพราะหากเรามีแผนงาน แต่ทีมไม่พร้อมหรือไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน แผนที่เราวางแผนน่าจะไปได้ยาก ดังนั้นจึงมีการปรับเปลี่ยนองค์กร โครงสร้างภายใน ในมุมของลูกค้าเอง ลูกค้าจะได้สัมผัสความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละกลุ่ม และได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เราจัดเตรียมไว้ให้ ทั้งนี้จากฐานลูกค้าเก่าที่สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 50% ดังนั้นลูกค้าที่เป็นสมาชิกก็จะได้รับประสบการณ์เพิ่มเติมขึ้นกว่าเดิม ทั้งในมุมของผลิตภัณฑ์ การบริการ และสิ่งที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ ส่วนลูกค้าใหม่ เราได้วางแผนเรื่องผลิตภัณฑ์ เรื่องการตลาดที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยจะเริ่มตามแผนงานตั้งแต่ต้นปีเลย”

คุณอัญกล่าวสรุปถึงแผนธุรกิจปี 2568 ว่า “ยูบิลลี่มีแผนเรื่องการตกแต่งสโตร์ รวมถึงการเปิดรูปแบบสโตร์ใหม่ ๆ ด้วย ซึ่งในปัจจุบันสาขามีด้วยกัน 5 รูปแบบ เราก็ทำงานตามแต่ละกลุ่มสาขาต่าง ๆ ในปีหน้า เราจะเพิ่มรูปแบบสโตร์ใหม่ ๆ รวมถึงการปรับโฉมออนไลน์สโตร์ นอกจากนี้ยูบิลลี่เป็นบริษัทที่บริหารงานและวางแผนกลยุทธ์ต่าง ๆ ด้วยการจัดการข้อมูล ทำให้เราได้เห็นพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงโอกาสทางการตลาด เรานำข้อมูลเหล่านี้มาสร้างเป็น Business Model ซึ่งทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบร้าน ปรับเปลี่ยนบริการ ผลิตภัณฑ์ ว่าควรเป็นอย่างไร เพราะถ้าเราใช้ความคิดตัวเราก็เหมือนเราเป็นตัวแทนของลูกค้าเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง เราให้บริการลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ดังนั้นการมีข้อมูลจะช่วยเราดำเนินธุรกิจได้อย่างมาก”

ที่มา : สัมภาษณ์พิเศษ

เขียนและเรียบเรียง : ธนิต แกล้วเดชศรี

ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus

Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

Youtube : https://www.youtube.com/@thebusinessplus7829