J&T Express พัฒนาห่วงโซ่อุปทาน ด้วยโซลูชันโลจิสติกส์ครบวงจร

J&T Express ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ระดับโลกที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการกว่า 2,500 ล้านรายทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน ซึ่งเกิดจากการผสานจุดแข็งด้วยโซลูชันโลจิสติกส์แบบครบวงจร และประสิทธิภาพการให้บริการ รวมไปถึงกลยุทธ์การตลาดที่เข้มข้น นำมาสู่การเติบโตต่อเนื่องจนปัจจุบันมีเครือข่ายครอบคลุม 13 ประเทศ

คุณลิลลี่ เฉิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย กล่าวว่า J&T Express ยึดมั่นในพันธกิจ “มุ่งเน้นที่ลูกค้า โดยมีประสิทธิภาพเป็นรากฐาน” ด้วยการใช้โซลูชันโลจิสติกส์แบบครบวงจร ผ่านโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายโลจิสติกส์ดิจิทัลที่มีความชาญฉลาด เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและคุณประโยชน์ทางโลจิสติกส์สู่สังคมโลก เช่นเดียวกับความตั้งใจที่จะพัฒนาบริการในห่วงโซ่อุปทานให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม

ซึ่ง J&T Express มีจุดเด่นในการให้บริการด้านโลจิสติกส์อย่างครบวงจร ด้วยบริการในหลากหลายรูปแบบ คือ

  1. 1. เจท ทรานสปอร์ท (Jet Transport) บริการรถขนส่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย เพื่อสร้างสมรรถนะในการขนส่งให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด
  2. 2. เจแอนด์ที ฟูลฟิลล์เม้นท์ (J&T Fulfillment) บริการจัดการคลังสินค้าอย่างเป็นระบบสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ พร้อมให้บริการคลังสินค้าและแพ็กสินค้า รวมถึงการส่งออก เพื่อสนับสนุนธุรกิจแบบ B2B และ B2C
  3. 3. เจแอนด์ที อินเตอร์เนชั่นแนล (J&T International) บริการขนส่งพัสดุระหว่างประเทศครบวงจร ครอบคลุมบริการตั้งแต่การรวมคลังสินค้าและการกระจายสินค้า พิธีการศุลกากร การผ่านด่าน รวมถึงการส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก

ขณะที่ J&T Express ยังตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วยการเปิดให้บริการตลอด 365 วัน ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ พร้อมให้บริการรับเรื่องร้องเรียนตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์แบบ 1 ต่อ 1 ติดตามพัสดุแบบเรียลไทม์ในรูปแบบของบริการลูกค้าพิเศษแบบตัวต่อตัว

นอกจากนี้ J&T Express ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการ ด้วยการร่วมแคมเปญกับ บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด หรือ BMN ผู้ให้บริการสื่อโฆษณา และพื้นที่จัดกิจกรรม ภายในสถานีรถไฟฟ้า MRT และทางด่วน โดยแคมเปญ “Anywhere MRT, Anywhere J&T” ได้มีการเพิ่มจุดบริการ J&T Express ภายในพื้นที่สถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน จำนวน 32 สถานี เพื่อให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT และผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงสามารถใช้บริการส่งพัสดุด่วนทั่วไทยได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ของการเดินทางในระบบรถไฟฟ้าให้กับผู้โดยสาร MRT มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด The Happy Commercial Hub of MRT

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของ J&T Express มีทั้ง B2B และ B2C โดยในส่วนของ B2B ทาง J&T Express ให้บริการแก่องค์กรขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น บริษัทพลังงาน ธนาคาร ร้านสะดวกซื้อชั้นนำ และห้างสรรพสินค้า ส่วนในมุมของ B2C ทาง J&T Express ร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ เชื่อมต่อด้วยระบบ API เพื่อทำให้กระบวนการจัดการขนส่งง่ายยิ่งขึ้น โดยลูกค้าทั่วไปสามารถใช้บริการส่งพัสดุกับ J&T Express ได้อย่างง่ายดาย

นอกจากโซลูชันที่ครบวงจรแล้ว J&T Express ยังมุ่งเน้นกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ ร่วมงานกับซูเปอร์สตาร์ผู้มีชื่อเสียง เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ โดยที่ J&T Express เป็นผู้ให้บริการขนส่งพัสดุแห่งเดียวในประเทศไทยที่ร่วมงานกับ 2 ซูเปอร์สตาร์ผู้มีชื่อเสียง อย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ ในฐานะ Thailand Brand Ambassador และซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี (Lionel Messi) ซึ่งมาเป็น Global Brand Ambassador คนแรกอีกด้วย นอกจากนี้ยังโปรโมตกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้บริการได้ดียิ่งขึ้น

ปัจจัยทั้งหมดนี้ ประกอบเข้ากับพันธกิจที่ชัดเจน ส่งผลให้ตั้งแต่เปิดให้บริการในประเทศไทย ในเดือนมีนาคม 2562 ทาง J&T Express ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปัจจุบันมีเส้นทางการขนส่งพัสดุครอบคลุม 928 อำเภอ 77 จังหวัด รวมถึงพื้นที่ห่างไกลในต่างจังหวัด

เป้าหมายคือ ‘ผู้นำตลาดขนส่งพัสดุด่วนของไทย’

J&T Express มีเป้าหมายคือการเป็นผู้นำในตลาดขนส่งพัสดุด่วนของประเทศไทย โดยการพัฒนาคุณภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ในฐานะเครือข่ายระดับโลก ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้เป้าหมายสำคัญคือ การเปิดรับสมัครตัวแทนจุดรับพัสดุ J&T HOME ที่สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ว่างที่มีอยู่แล้วให้เป็นจุดบริการรับพัสดุ และถือเป็นพันธมิตรของบริษัทที่จะร่วมพัฒนาโครงสร้างทางธุรกิจ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีความสนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ J&T Express ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยความมุ่งหวังที่จะให้บริการขนส่งพัสดุที่มีคุณภาพและมีศักยภาพสูงสุด

“หน้าที่ของเรา คือการมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้บริการ ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการอยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้ ถูกหล่อหลอมอยู่ในวัฒนธรรมองค์กรของเรา ทำให้เรามีข้อได้เปรียบในธุรกิจขนส่ง” คุณลิลลี่ เฉิน กล่าว

นอกจากนี้ J&T Express ยังเป็นองค์กรที่ห่วงใยและรับผิดชอบต่อสังคมอยู่เสมอ โดยส่งเสริมการใช้ถุงบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลิตจากวัสดุที่มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน สามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง ช่วยลดการบริโภคทรัพยากรที่ไม่จำเป็น นำไปสู่การดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

จะเห็นได้ว่า J&T Express เป็นองค์กรที่มุ่งมั่นให้บริการที่มีคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำในตลาดขนส่งพัสดุด่วนของไทยที่พร้อมให้การสนับสนุนธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผู้ประกอบการ และผู้ใช้บริการ

 

 

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ติดตาม Business+ ได้ที่ Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS