The Business Plus บิสิเนสพลัส
เหลือเวลาอีกไม่นาน ในการขยับเข้าสู่ปี 2022 หลาย ๆ องค์กรก็คงกำลังมีการเตรียมการวางแผน วางเป้าหมายกับความท้าทายใหม่ อย่างไรก็ตามการเดินหน้าเข้าสู่ศักราชใหม่นี้ เรื่องที่ทุกองค์กรไม่ควรมองข้ามก็คือ การให้ความสำคัญกับ ESG ที่ไม่ใช่เพียงจะเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร แต่เป็นอีกหนึ่งภาพลักษณ์สำคัญที่นักลงทุน และคนทั่วโลกจับตามองเป็นอย่างมาก
ESG คืออะไร?
คือ แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับ 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
Environment หรือสิ่งแวดล้อม, Social สังคม, และ Governance การกำกับดูแล
โดยแต่ละส่วน จะมีหลักเกณฑ์การพิจารณา จากการมีส่วนร่วมและรับผิดชอบขององค์กรที่มีต่อสิ่งแวดล้อม การจัดวางการความสัมพันธ์ และการสื่อสารระหว่างบริษัท ลูกจ้าง ลูกค้า ไปจนถึง Supplier รวมถึงการวางหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการจัดการบริหาร เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนขององค์กรต่อไป
ทั้งหมดนี้คือการเตรียมพร้อม และแสดงออกเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ และความมั่นคงขององค์กรไปสู่สายตานักลงทุน
ความสำคัญต่อบริษัทอย่างไร?
ปัจจุบันบรรดานักลงทุนต่างก็ให้ความสนใจในเรื่องของ ESG ประกอบการกับการลงทุนเป็นอย่างมาก โดยมีผลสำรวจจาก State Street Global Advisors ระบุว่า พอร์ตการลงทุนของนักลงทุนร้อยละ 80 มีการจัดสรรเงินลงทุนไปกับองค์กรที่ดำเนินธุรกิจที่ตามหลัก ESG
แสดงให้เห็นว่า ESG เป็นภาพลักษณ์ที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนเป็นอย่างมาก ในอีกด้านหนึ่งหากองค์กรตระหนักในเรื่องดังกล่างล่าช้า อาจส่งผลกระทบให้เกิดความเสี่ยงด้าน ESG
โดยความเสี่ยงด้าน ESG ที่เกิดขึ้นมีทั้งหลากหลายแง่มุม ทั้งความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น การเสียภาษีคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Carbon Tax จากการปล่อยก๊าซของภาคอุตสาหกรรมที่ไม่มีแผนการควบคุมที่เหมาะสม การเลือกใช้วัสดุที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเสี่ยงต่อการถูกแบนจากสังคม
รวมถึงความเสี่ยงด้านบรรษัทภิบาล ที่อาจเกิดจากการเตรียมพร้อมไม่มากพอในการจัดการบริหาร กำกับดูแลมาตรการในองค์กร หรือความไม่โปร่งใส ซึ่งอาจเป็นช่องโหว่ของความน่าเชื่อถือขององค์กรได้
ซึ่ง ESG เป็นเรื่องที่หลายองค์กรทั่วโลกให้ความสนใจตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยมีการให้เกณฑ์การให้คะแนน และจัดอันดับบริษัทเพื่อประเมินทุกปี สำหรับปีนี้ Microsoft ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกในด้าน ESG
Microsoft หนึ่งในบริษัทระดับโลกที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี แม้จะเป็นบริษัทซอฟแวร์ และเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีที่ถ้ามองผิวเผินอาจดูห่างไกลกับเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ในความเป็นจริงแล้ว บริษัทมีคะแนน ESG อยู่ที่ 76.30 มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง จากการจัดอันดับในกลุ่ม IBD’s list of the 100 Best ESG Companies of 2021
โดยบริษัทฯ ได้เตรียมการ และดำเนินการครบรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น
ด้านสิ่งแวดล้อม
บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ตลอด 24 ชม. สู่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2030 และกำจัดเหล่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เคยปล่อยไปแล้วให้หมดไปภายในปี 2050 พร้อมระดมทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับกองทุนนวัตกรรมด้านภูมิอากาศ (Climate Innovation Fund) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์
ด้านสังคม
ในปี 2020 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้บริจาค และมอบส่วนลดสำหรับสินค้าและบริการ รวมมูลค่ากว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไรกว่า 243,000 แห่งทั่วโลก เพื่อให้องค์กรดังกล่าวสามารถให้บริการและเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
พร้อมทั้งสนับสนุน Global Skills Initiative หรือการมีทักษะความคิดริเริ่มสากลให้เข้าถึง 25 ล้าน คนทั่วโลกในภายในปี 2021 นี้ และสามารถสร้างงานในกับผู้คนได้ 149 ล้านคน ภายในปี 2025
ด้านบรรษัทภิบาล
มีการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของฝ่ายบริหาร เพื่อกระจายสิทธิอย่างเหมาะสมให้กับสมาชิกทุกคน รวมถึงผู้ถือหุ้นอีกด้วย พร้อมทั้งบริษัทฯ ตั้งปณิธานในการดึงศักยภาพของทุกคนให้สามารถบรรลุเป้าหมายอย่างที่ตั้งไว้
ทางด้านประเทศไทยก็มีหลายบริษัทให้ความสำคัญในด้าน ESG เช่นกัน
ไม่ว่าจเป็น บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด หรือ WINMED บริษัทประกอบธุรกิจเป็นผู้นำเข้า และจำหน่ายอุปกรณ์ต่าง ๆ ทางการแพทย์
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ดำเนินการด้าน ESG ไม่ว่าจะเป็น
ด้านสิ่งแวดล้อม
บริษัทฯ มีนโยบายประกอบธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ด้านสังคม
WINMED ได้บริจาคเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ Plasma Intercept Blood System ผลิตภัณฑ์จากสหรัฐ จำนวน 50 ชุด ให้แก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ในโครงการรับบริจาค Covid-19 Convalescent Plasma ในการใช้รักษาผู้ป่วย COVID-19 เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2020
รวมทั้งบริษัทฯ มุ่งมั่นในการมอบนวัตกรรมใหม่ ๆ ในผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้โลกปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับคนรุ่นหลัง
ด้านบรรษัทภิบาล
จัดตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 5 ท่าน และกรรมการอิสระอย่างน้อย 1 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมด เพื่อถ่วงดุลอำนาจ รวมถึงให้ความสำคัญต่อการเปิดเผยข้อมูล และข่าวสารบริษัทอย่างถูกต้อง ครบถ้วน โปร่งใส พร้อมเปิดให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกรายสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเท่าเทียม
จะเห็นได้ว่าหลายบริษัททั่วโลกตื่นตัว และให้ความสนใจกับ ESG อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกบริษัทควรให้ความสำคัญและมีแผนดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีให้การดึงดูดนักลงทุน รวมถึงการรับผิดต่อสังคม และการต่อยอดของธุรกิจที่ยั่งยืน
ข้อมูล : investors / SET / microsoft./ WINMED /State Street Global Advisors
