The Business Plus บิสิเนสพลัส
หากจะพูดถึงบริษัทด้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับ ‘Intel’ ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1968 ในชื่อ ‘Integrated Electronics Corporation’ โดยมีสำนักงานอยู่ที่ซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดย ‘Intel’ เป็นผู้ผลิตชิพเซตของเมนบอร์ด, เน็ตเวิร์คการ์ดและแผงวงจรรวม, แฟลชเมโมรี, ชิพกราฟิค, โปรเซสเซอร์ของระบบฝังตัว ตลอดจนอุปกรณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร
นอกจากนี้ ในแง่ของมูลค่าทางตลาดนั้น ‘Intel’ ถูกจัดให้เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกเป็นลำดับที่ 73 ตามมูลค่าตลาด
อย่างไรก็ดี เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เกิดเป็นปรากฏการณ์ที่ทำเอา ‘Intel’ ถึงกับเจ็บซ้ำซ้อน ภายหลังการประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของปีนี้ออกมา โดยมีรายได้ในไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ระดับ 1.53 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 22% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2564 ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.792 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่มีผลขาดทุนสุทธิ 454 ล้านดอลลาร์ และมีอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 36.5% จาก 50.4% ในไตรมาส 1/2565 ส่วนกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 29 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 70 เซนต์ต่อหุ้น
โดยสาเหตุหลักมาจากธุรกิจพีซีมีรายได้อยู่ที่ 7.7 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นการปรับตัวลดลงถึง 25% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ซึ่งทาง ‘Intel’ เปิดเผยว่าในไตรมาส 2/2565 ในส่วนของการจัดส่งพีซีลดลงเกือบ 13% เป็นผลจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อีกทั้งต้นทุนต่อหน่วยที่สูงขึ้น ทำให้รายได้จากการดำเนินงานของกลุ่ม ‘Intel’ ลดลง
ภายหลังการประกาศผลดำเนินงานดังกล่าวออกมา ส่งผลให้หุ้น ‘Intel’ ร่วงลงเกือบ 9% ขณะที่มูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ระดับ 1.48 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสวนทางกับคู่แข่งอย่าง ‘AMD’ หนึ่งในผู้ผลิต CPU และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รายใหญ่ ซึ่งถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ ‘Intel’ ที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 3% เป็นแรงส่งให้ ‘AMD’ มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ระดับ 1.53 แสนล้านดอลลาร์ (ณ วันที่ 29 ก.ค.65)
ด้วยเหตุนี้ ส่งผลให้ ‘Intel’ ปรับลดความคาดหวังทั้งปีลง โดยปรับลดคาดการณ์รายได้อยู่ที่ระดับ 6.5-6.8 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ‘Intel’ ระบุว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2/2565 ถือเป็นจุดต่ำสุดของบริษัทฯ โดยคาดว่าการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าในไตรมาสที่ 3-4 น่าจะช่วยให้ ‘Intel’ มีอัตรากำไรขั้นต้นกลับมาอยู่ที่ระดับ 51-53% ได้
สำหรับรายได้ของ ‘Intel’ ในช่วงระหว่างปี 2562-2564 มีดังนี้
ปี 2562 มีรายได้อยู่ที่ 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.58% จากปี 2561
ปี 2563 มีรายได้อยู่ที่ 7.79 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น8.2%จากปี 2562
ปี 2564 มีรายได้อยู่ที่ 7.9 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.49%จากปี 2563
เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี
ที่มา : Intel, CNBC, macrotrends
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #Intel #CNBC #AMD
