Influencer

อาชีพเดียวคงไม่พอ สาย ‘Influencer’ อาจต้องมีแผนสำรอง?

ปัจจุบันเรามักจะได้ยินประโยคที่ว่า ‘สมัยนี้ทำแค่อาชีพเดียวไม่พอกิน’ ซึ่งนั่นอาจเป็นเรื่องจริงด้วยค่าครองชีพมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับผลตอบแทนที่ได้รับ โดยในทุกวันนี้อาชีพแต่ละอาชีพมีการแข่งขันกันเองค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันก็มีอาชีพที่ไม่เชิงใหม่และเก่า นั่นคือ อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ที่คนเริ่มหันมาให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่เพียงแค่ Gen Y, Gen Z เท่านั้น แต่กลุ่มคนหลากช่วงวัยก็มีความนิยมทำ ในช่วงแรกอาชีพนี้คนยังไม่ค่อยได้ให้ความสนใจมากนัก แต่เมื่อเห็นกลุ่มคนมีรายได้จากการสร้างคอนเทนต์ (Content) หรือ การรีวิว ก็ทำให้เกิดกระแสขึ้น จึงทำให้หลายคนเลือกเป็นอาชีพนี้เป็นอาชีพเสริม หรือ ทำเป็นกิจกรรมยามว่าง แต่บางกลุ่มก็มุ่งเน้นทำเป็นอาชีพจริงจังหาเลี้ยงดำรงชีพ

ซึ่งการที่จะเป็น Influencer ได้นั้นต้องมีผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเยอะในระดับหนึ่ง โดยระดับของผู้ติดตามก็จะบ่งบอกถึงเรทเงินที่จะได้รับในการถูกว่าจ้างแต่ละครั้ง ซึ่งระดับความมีอิทธิพลโดยรวมของ Influencer แบ่งออกเป็น 5 ระดับตามจำนวนของผู้ติดตาม ดังนี้ Nano Influencer (มีผู้ติดตาม 1,000-10,000 คน), Micro Influencer (มีผู้ติดตาม 10,000-50,000 คน), Mid-Tier Influencer (มีผู้ติดตาม 50,000-100,000 คน), Macro Influencer (มีผู้ติดตาม 100,000-1,000,000 คน) และ Mega Influencer (มีผู้ติดตาม มากกว่า 1,000,000 คนขึ้นไป)

สำหรับลักษณะงานของ Influencer จะอยู่ในรูปแบบการสร้างสื่อคอนเทนต์ที่น่าสนใจ โดยจะแตกแขนงออกเป็นหลายสายตามความถนัดของ Influencer นั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น คอนเทนต์ท่องเที่ยว, คอนเทนต์รีวิว, คอนเทนต์แนวไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแต่ละวัน เป็นต้น ทั้งหมดนี้อาจมีการแอบแฝงการโฆษณาสินค้า ซึ่ง Influencer ก็จะได้ผลตอบแทนเป็นค่าจ้างในการโปรโมทแบรนด์

ขณะเดียวกัน Influencer ในตอนนี้ไม่เพียงแค่ผลิตคอนเทนต์เท่านั้น แต่ยังรับจ้างไลฟ์สตรีมมิง (livestreaming) หรือไลฟ์สด ขายสินค้าให้กับแบรนด์ด้วย ซึ่งยิ่ง Influencer คนไหนมีฐานแฟนคลับมาก และหากผสมผสานไปกับความน่าเชื่อถือในตัวบุคคล ก็จะช่วยส่งเสริมยอดขายให้กับแบรนด์เพิ่มขึ้นไปอีก และค่าจ้างที่ Influencer จะได้รับก็จะมากตามจำนวนผู้ติดตาม จึงทำให้หลายคนมุ่งหวังที่จะประกอบอาชีพ Influencer อย่างจริงจัง เพราะคิดว่าหารายได้ง่ายกว่าหลายอาชีพอื่นนั่นเอง

ทั้งนี้การไลฟ์สดขายสินค้าที่ใช้ Influencer มาโปรโมทหรือทำการขายสินค้าให้นั้น ไม่เพียงแค่ยอดนิยมในไทยเท่านั้น แต่ต่างประเทศก็นิยมไม่แพ้กันเพราะสร้างยอดขายได้ดี เช่น ประเทศจีน เป็นต้น แต่ก็ต้องแลกมากับค่าจ้างที่อาจสูง ซึ่งจากรายงานของดาเนียล ซิปเลอร์ นักวิเคราะห์ของแมคคินซี่ ระบุว่า การไลฟ์สด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไลฟ์สดเพื่อขายสินค้านั้น ประเทศจีนกำลังเป็นที่นิยมมากกว่าประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก และขณะนี้บริษัทค้าปลีกหลายแห่งกำลังหันมาใช้ AI แทนคนในการไลฟ์สดขายสินค้า และหลายบริษัทเริ่มใช้ Avatar หรือภาพกราฟิกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้แทนภาพลักษณ์จริงของคน

เสี่ยวเฟิง หวัง นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอร์เรสเตอร์ ระบุว่า การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงเพื่อไลฟ์สดขายสินค้าได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเทศกาลวันคนโสดในจีนปีนี้ โดยคุณภาพของ AI หรือ Avatar ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และดูเหมือนคนจริง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะ AI ที่พัฒนาโดยบริษัทเทนเซ็นต์

“เราคาดว่ากลุ่มผู้ค้าปลีกในจีนจะใช้ AI ในการไลฟ์สดขายสินค้าเพิ่มขึ้นอีก เพื่อสร้างความแตกต่างจากการขายสินค้าทั่วไป และเพื่อลดต้นทุนในการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียง” นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอร์เรสเตอร์ กล่าว

จากข้างต้นจะเห็นได้ว่าในอนาคตอาชีพ Influencer อาจต้องเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น จากเดิมที่แข่งขันกันเพียงแค่มนุษย์กับมนุษย์ อาจจะต้องแข่งขันกับ AI ด้วย เนื่องจากผู้ประกอบการอาจต้องการลดต้นทุนเพราะการจ้าง Influencer ที่มีชื่อเสียงนั้นมีรายจ่ายที่ค่อนข้างสูง ต่างกับ AI ที่สามารถช่วยลดต้นทุนในระยะยาวได้เป็นอย่างดี และมีสามารถบรรยายสรรพคุณสินค้าได้อย่างถูกต้องจากการป้อนข้อมูล

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า คนที่ประกอบอาชีพ Influencer อาจต้องมีแผนสำรอง อย่างเช่น การหาช่องทางอาชีพเสริม หากไม่ได้เป็น Influencer ที่มีผู้ติดตามหลัก 3 ล้านคนขึ้นไป หรือ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แต่จะสังเกตได้ว่า Influencer ที่มีฐานผู้ติดตามในระดับหนึ่งมักจะมีการผลิตสินค้าออกมาจำหน่าย โดยไม่พึ่งการเป็น Influencer อย่างเดียว เพราะการที่มีฐานแฟนคลับหากออกแบรนด์ก็จะมีคนสนับสนุนอย่างแน่นอน ซึ่งนี่ถือเป็นการต่อยอดอย่างเห็นได้ชัด และสุดท้ายในอนาคต AI อาจมีบทบาทมากขึ้นในทุก ๆ อาชีพ

.

ที่มา : IQ, adaddictth

.

เขียนและเรียบเรียง : ศิริวรรณ อรรถสุวรรณ

.

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.facebook.com/businessplusonline/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

.

#Businessplus #thebusinessplus #นิตยสารBusinessplus #อาชีพ #อินฟลูเอนเซอร์ #Influencer #ไลฟ์สตรีมมิง #ไลฟ์สด