บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกลุ่มโรงพยาบาลเป็นอีกกลุ่มที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านผลประกอบการอย่างน่าสนใจ เพราะในขณะที่บางโรงพยาบาลมีรายได้สูงขึ้น และสร้างผลกำไรได้ แต่ก็มีบางโรงพยาบาลที่ขาดทุน
ทาง ‘Business+’ จึงได้นำรายได้ในไตรมาส 3 ของปี 67 และปี 2566 มาคำนวณการเปลี่ยนแปลง และพบว่าจาก 5 บริษัทมีอยู่ 2 บริษัทที่รายได้ลดลง โดยมีรายละเอียดดังนี้
อันดับที่ 1 บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) เป็นบริษัทที่มีรายได้สูงที่สุด ด้วยการสร้างรายได้ไตรมาสล่าสุดที่ 28,596 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 4,246 ล้านบาท และมีบริษัทในเครือทั้งหมดคือ รพ.กรุงเทพ รพ.สมิติเวช รพ.บี เอ็น เอช รพ.พญาไท รพ.เปาโล รพ.รอยัล
อันดับที่ 2 บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) รายได้ไตรมาสล่าสุดที่ 6,521 ล้านบาท ลดลง 4.20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,955 ล้านบาท
อันดับที่ 3 บมจ.โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) รายได้ไตรมาสล่าสุดที่ 2,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 338 ล้านบาท
อันดับที่ 4 บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) รายได้ไตรมาสล่าสุดที่ 2,556 ล้านบาท ลดลง 7.89% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และมีผลขาดทุนสุทธิ 352 ล้านบาท
อันดับที่ 5 บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA) รายได้ไตรมาสล่าสุดที่ 2,425 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 361 ล้านบาท
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า โรงพยาบาลที่มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติจำนวนมากจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น เพราะในช่วงที่ผ่านมากลุ่มผู้ป่วยต่างชาติมีการขยายตัวขึ้น ทำให้รายได้ค่ารักษาพยาบาลเติบโต สาเหตุเป็นเพราะไทยยังได้เปรียบเรื่องราคาที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคุณภาพเดียวกันหรือสูงกว่า ขณะที่อุปสงค์มีรายได้สูงในภูมิภาคอาเซียน เช่น กัมพูชา เมียนมาร์ ลาว ที่ไทยมีคุณภาพของระบบสาธารณสุขมาตรฐานสูงกว่า ส่วนกลุ่มลูกค้าที่มีสัดส่วนชาวไทยสูงนั้นอาจจะเจอข้อจำกัดในการขยายตัว เพราะคนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เน้นป้องกันมากกว่าการรักษา
ที่มา : SET , ttb analytics
เรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS