ทีซีซี-โลตัส ท้าชนบัลลังก์แม็คโคร บนสังเวียน HORECA

4 ปีที่แล้ว เครือ CP ทุ่มเม็ดเงินเกือบ 2 แสนล้านบาทเข้าซื้อกิจการแม็คโคร (Makro) ซึ่งเดิมมีBusiness Model ใน 2 สายธุรกิจ ซึ่งภายหลังแม็คโครได้เพิ่มสายธุรกิจ HORECA เข้ามา

สิ่งที่น่าจับตามองคือ ปัจจุบันธุรกิจ HORECA ของแม็คโครสามารถทำรายได้ถึง 20% ซึ่งถ้ามองกันตรงนี้ ต้องยอมรับว่าแม็คโครคือแม่วัวชั้นดีของเครือซีพีที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอทุกปี จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าทำไมคู่แข่งรายใหญ่ ทั้ง TCC Group และโลตัส ต่างมองไปยังธุรกิจเดียวกับแม็คโคร

Horeca

HORECA อาจไม่ใช่คำที่คุ้นเคยกันมากนัก แต่อันที่จริงแล้ว HORECA ก็ไม่ใช่ธุรกิจใหม่เสียทีเดียวแต่เป็นการจับเอา 3ธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดมาจัดไว้หมวดหมู่เดียว ซึ่งเป็นผลพลอยได้มาจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 3 ธุรกิจที่ว่านี้คือ ธุรกิจโรงแรม (HO-tel) ร้านอาหาร (RE-staurant) ร้านกาแฟ (CA-fe) และธุรกิจจัดเลี้ยง ซึ่งรวม ๆ แล้วมีมูลค่ากว่า 1.1ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้ที่มาจากธุรกิจโรงแรมและที่พัก 5.8 แสนล้านบาท ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 4.48 แสนล้านบาท ในขณะที่ปี 2559 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยว 2.51 ล้านล้านบาทซึ่งทุกคนต่างรู้ดีว่าคือเพชรน้ำเอกที่ดึงเม็ดเงินมหาศาลเข้าประเทศเป็นอันดับ 1 ด้วยมูลค่าการตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี ถึงตรงนี้ต้องบอกว่าสังเวียน HORECA ระอุแน่นอน

เมื่อเจาะลึกไปที่ภาพรวมของแต่ละธุรกิจจะพบว่า กลุ่มธุรกิจโรงแรม ปี พ.ศ. 2559 มีจำนวนที่พัก 14,178 แห่ง และจำนวนห้องพัก 622,123 ห้องพัก เติบโตจากปีที่ผ่านมา 10.02% โดยมีสัดส่วนจำนวนของรีสอร์ทมากที่สุด รองลงมาคือโรงแรม และยังมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศและต่างชาติ

Horeca

กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ร้านอาหารที่เป็นแบรนด์ชั้นนำที่มีสาขา และร้านอาหารทั่วไป โดยมีมูลค่าตลาดตามสัดส่วน ร้านอาหารแบรนด์ชั้นนำที่มีสาขา 110,000 ล้านบาท และร้านอาหารทั่วไป 275,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 4-6.8% และมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต

กลุ่มธุรกิจกาแฟ เบเกอรี่ และไอศกรีม ในตลาดกลุ่มนี้กาแฟมีสัดส่วนมูลค่ามากที่สุด 30,000 ล้านบาท และส่วนแบ่งตลาดสำหรับกาแฟระดับกลางมีมูลค่ามากที่สุด คิดเป็นจำนวน 40% ของตลาดทั้งหมด ส่วนเบเกอรี่และไอศกรีมมีสัดส่วนใกล้เคียงกัน 17,000 ล้านบาท และ 15,000 ล้านบาทตามลำดับ

Horeca

นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์กันว่าภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปี 2560 ทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทย น่าจะสร้างรายได้สู่ภาคการท่องเที่ยวโดยรวม 2.69-2.73 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.2-8.7 จากปี 2559 นั่นหมายความว่ากลุ่มธุรกิจ HORECA มีแนวโน้มที่จะเติบโตตามตลาดต่อเนื่อง นี่จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ผู้ประกอบการณ์ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ไม่อาจละสายตาไปได้

ประกอบกับธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่ (ร้านกาแฟและเบเกอร์รี่) ก็ถือเป็นธุรกิจยอดฮิตที่นักธุรกิจหน้าใหม่ให้ความสนใจและก้าวเข้ามาลงทุนกันอย่างคึกคัก ในขณะที่ผู้เล่นหน้าเก่าก็มีความท้าทายที่ต้องรักษาตำแหน่งเจ้าตลาดและเร่งขยายสาขาเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดให้ได้มากที่สุด

นั่นหมายถึงความต้องการของผู้ประกอบการที่จำเป็นต้องหาแหล่งวัตถุดิบ อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ในการเริ่มต้นธุรกิจหรือขยายธุรกิจ ซึ่งในประเทศไทยแหล่งค้าอุปกรณ์ครบวงจรที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่ม HORECA ยังไม่เกิดขึ้นให้เห็นเป็นรูปธรรม และส่วนมากจะเป็นไปในลักษณะของสแตนอโลนกระจายตามแหล่งต่าง ๆ

Horeca

ในขณะที่ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับ HORECA มีเพียงแม็คโครของเจ้าสัวธนินทร์ ที่เข้ามาปักหมุดและครองตลาดในเซ็กเมนต์ค้าปลีก (B2C) ในลักษณะของ Mass Market กินมาร์เก็ตแชร์รอบด้าน ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ตกแต่งร้าน และอาหารสด

นั่นหมายว่าตลาด HORECA ยังมีช่องว่างทางการตลาดอีกมหาศาล ซึ่ง TCC Asset ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ก็เล็งเห็นโอกาสที่ว่านี้ และไม่พลาดที่จะเข้ามาแจมด้วยการเปิดตัว HORECA SQAURE@CW TOWER พร้อมวางตำแหน่งตัวเองไว้ที่การค้าส่งแบบ B2B ในเซ็กเมนต์ศูนย์ค้าส่งเฉพาะทาง หรือ Niche Market ให้แก่ผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจเป็นล็อตใหญ่ ๆ ไม่แยกชิ้น เจาะตลาดกลุ่มธุรกิจ HORECA ระดับ 2-4 ดาว

Horeca

แน่นอนว่าการกระโดดเข้ามาปักหมุดเจ้าแรกธุรกิจค้าส่ง HORECA ของเจ้าสัวเจริญครั้งนี้ เป็นเหมือนการประเดิมสนามธุรกิจสนามใหม่และกระตุ้นให้เกิดการแข่งขัน ซึ่งนอกจากแม็คโครและ HORECA SQAURE แล้ว อีกหนึ่งผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาสร้างสีสันและเพิ่มองศาการแข่งขันให้เข้มข้นมากขึ้นไปอีก อย่าง โลตัส ก็เริ่มมีการปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจ HORECA อย่างมีนัยสำคัญ โดยเน้นไปที่แผนกอาหารสดและตั้งเป้าสู่การเป็น ‘Modern Cuisine’

Horeca

การกระโดดเข้าสู่สนามธุรกิจใหม่มูลค่าล้านล้านบาท ของผู้เล่นทั้ง 3 ช่วยตอกย้ำให้เห็นว่าตลาด HORECA กำลังเพิ่มองศาความร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ เราคงได้เห็นผู้เล่นรายใหม่ ๆ เข้ามาสร้างความคึกคักให้สนามธุรกิจ HORECA นี้แน่นอน