HAPPY BABY แบรนด์ใน “ดวงใจ”

ออร์แกนิก เพื่อสุขภาพ เทรนด์ที่ยังคงมาแรงและไม่มีทีท่าว่าจะลดความนิยมลงไปแม้แต่น้อย Business+ มีโอกาสได้พูดคุยกับนักธุรกิจสาวที่หันมาจับตลาดผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกเพื่อสุขภาพที่เจ้าตัวยืนยันว่าผลตอบรับดีเกินคาดหมายไปหลายขุม

หญิงเก่งที่เราพูดถึงคือ “อ้อ” ดวงใจ เวชประสิทธิ์ เจ้าของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับเด็กอ่อนเกรดพรีเมียมชั้นนำ แบรนด์ HAPPY BABY ORGANIC ที่หยิบเอาปัญหาสุขภาพส่วนตัวในวัยเด็ก ภูมิแพ้สารเคมี ทำให้ต้องใช้ยาทางการแพทย์เป็นประจำ จนกระทั่งได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญให้ใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ทำให้อาการป่วยดีขึ้นและหายขาดโดยไม่ต้องใช้ยารักษาทางการแพทย์ แต่เนื่องจากเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกต้องสั่งนำเข้าและมีราคาค่อนข้างสูง จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ดวงใจปลุกปั้น HAPPY BABY ORGANIC ขึ้นมา

หลังจากเริ่มต้นชีวิตการทำงานในธุรกิจ Advertising ของครอบครัว ทำให้มีประสบการณ์เกี่ยวกับการบริหารติดตัวมาบ้าง ก่อนจะมาชิมลางเริ่มต้นธุรกิจร้านชุดแต่งงานเป็นของตัวเองและเส้นทางธุรกิจในฝันก็เข้าใกล้ความจริงมากขึ้นเมื่อมีโอกาสได้เข้ามาช่วยบริหารธุรกิจสกินแคร์สำหรับผู้ใหญ่ของครอบครัว

“อ้อสั่งสมประสบการณ์จากธุรกิจสกินแคร์สำหรับผู้ใหญ่มาก่อน พอมาจับตลาดเด็กก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแต่เราต้องใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้น โดยใช้เวลากว่า 1 ปีในการทดลองวิจัย พัฒนาสูตร การออกแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในส่วนขั้นตอนการผลิตเราใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นส่วนใหญ่และบางส่วนนำเข้าจากต่างประเทศ”

image (2)

ขึ้นชื่อว่าผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กเล็ก และความตั้งใจที่อยากให้ HAPPY BABY เป็นแบรนด์ในใจและเป็นผลิตภัณฑ์ตัวเลือกอันดับแรก ๆ ของผู้ปกครอง ทำให้ดวงใจต้องเปลี่ยนแผนการผลิตใหม่จากเดิมที่ตั้งใจใช้บริการ OEM แต่ด้วยไม่สามารถควบคุมการผลิตได้ นำมาซึ่งการตัดสินใจควักกระเป๋าสร้างโรงงานผลิตเอง เพื่อควบคุมคุณภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกตัวได้มาตรฐานและปลอดภัยสำหรับเด็กทารกแน่นอน

นอกจากนี้ ดวงใจยังแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับความนิยมผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกในประเทศไทยว่า ปัจจุบันเทรนด์สุขภาพไม่ได้ลดความนิยมลง ยังคงได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับพ่อแม่ยุคใหม่ส่วนใหญ่มีการศึกษาและหาข้อมูลที่เปิดกว้างมากขึ้น รวมทั้งอัตราการเกิดภูมิแพ้ของคนไทยเพิ่มขึ้นจากการสัมผัสสารเคมีตั้งแต่อยู่ในท้องแม่จากอาหารและผลิตภัณฑ์ที่แม่ใช้

นอกจากนี้ ด้วยความเป็นออร์แกนิก ทำให้ได้ลูกค้านอกเหนือจากกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าบางตัวที่คิดว่าเหมาะกับคนในเมือง กลับได้ผลตอบรับที่ดีกว่าในต่างจังหวัดหรือประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นหรือกลุ่มคนทำงานที่ประสบปัญหาภูมิแพ้เกี่ยวกับผิวหนัง เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่เด็กใช้ได้ ดังนั้นคนทุกวัยจึงใช้ได้ แม้ว่าจะได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่ดวงใจก็ยืนยันว่าอนาคตจะไม่มีการเปลี่ยนแพ็กเกจหรือดีไซน์เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าอื่นอย่างแน่นอน

“ปัจุบันกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือแม่และเด็ก 90% และลูกค้าในกลุ่มที่เราไม่ได้คาดไว้อีกประมาณ 10% ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากจากการออกอีเวนต์ บูธต่าง ๆ แต่เราจะยังคงความเป็น HAPPY BABY ORGANIC สำหรับทารกแบบนี้ เราจะไม่มีการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ตามกลุ่มลูกค้า นี่คือจุดแข็งของเรา ซึ่งลูกค้ารู้อยู่แล้วว่าสินค้าที่เด็กทารกใช้ได้ เขาก็ใช้ได้เช่นกัน ซึ่งในแผนระยะสั้นจะแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับโรงพยาบาลและคลินิก”

ภาพเปิด 2

อย่างที่กล่าวข้างต้นว่า HAPPY BABY เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เข้าตลาดมาได้เพียง 3 ปี แต่ในสถานการณ์ที่การแข่งขันสูงเพราะมีแบรนด์ออร์แกนิกในตลาดจำนวนมาก ทั้งนำเข้าและแบรนด์ในประเทศ แล้วจุดแข็งอะไรทำให้ HAPPY BABY ได้รับความนิยมในตลาดแม่และเด็กค่อนข้างดี ดวงใจเปิดเผยว่าจุดแข็งของแบรนด์อยู่ที่ความเป็นออร์แกนิก 100% ไม่มีการผสมสารที่เป็นสารเคมี ซึ่งเด็กสามารถทาผลิตภัณฑ์แล้วหยิบขนมเข้าปากได้เลยโดยไม่ต้องล้างมือ

ในเรื่องของการตลาดก็สำคัญ ที่ผ่านมาเรามีการทำตลาดเฉพาะทาง ทั้งนิตยสารแม่และเด็ก โซเชียลต่าง ๆ การวางขายสินค้าในห้างเดอะมอลล์ในแผนกแม่และเด็ก รวมทั้งการตลาดแบบตรง ที่ต้องบอกว่ามีการออกบูธกันเยอะมาก ซึ่งทำให้ได้ฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น และในปี 2560 มีแพลนที่จะขยายไปในห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ ต่อไป

“อ้อคาดหวังให้ HAPPY BABY เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่พ่อแม่เลือกให้ลูกใช้ ซึ่งหลังจากนี้อ้อคงโฟกัสที่ HAPPY BABY และคงไม่มีแผนไปทำอย่างอื่นอีกแน่นอน นอกจากขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ให้ครอบคลุมมากขึ้น”