สลากออมทรัพย์ ธอส. นวัตกรรมเพื่อสร้างโอกาส ‘ทำให้คนไทยมีบ้าน’

อย่างที่ทราบกันดีว่า ภารกิจและหน้าที่หลักของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) คือ การทำให้คนไทยมีบ้านอยู่อาศัยอย่างทั่วถึง โดยที่ผ่านมาภายใต้การบริหารงานของคุณฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ มุ่งมั่นดำเนินงานตามพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” เพื่อสร้างความสุขและความมั่นคงให้แก่สถาบันครอบครัวด้วยการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

แม้การปล่อยสินเชื่อใหม่ของธนาคารในปี 2563 ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาด  COVID-19 ทางธอส. ได้ปล่อยสินเชื่อรวมกว่า 182,890 ล้านบาท อีกทั้งยังช่วยเหลือลูกค้าได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มากกว่า 400,000 บัญชี และก็ต้องยอมรับว่า การทำงานภายใต้ปัจจัยไม่เอื้ออำนวยจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทางธอส. จึงนำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการ ภายใต้ชื่อว่า GHB System เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการทำงานอย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ การพัฒนาด้านดิจิทัล ยังส่งผลให้ธอส.ได้รับรางวัลจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้แก่ รางวัลพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจดิจิทัล (Digital Transformation Initiative) ประเภทเชิดชูเกียรติ รวมถึงยังได้รับ อีก 2 รางวัล ประกอบด้วย 1.รางวัลการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสดีเด่น และ 2.รางวัลความร่วมมือเพื่อการพัฒนาดีเด่น ด้านการยกระดับการบริหารจัดการองค์กร ประเภทดีเด่น ซึ่งรางวัลที่ ธอส. ได้รับในปีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้

ขณะที่ในฝั่งของการจัดหาเงินทุนเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินงานของธนาคารและการนำไปปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ซึ่งนอกเหนือจากการระดมเงินผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝากแล้ว การออกสลากออมทรัพย์ธอส.จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงินที่ธอส. นำมาใช้ในการจัดหาเงินทุน

ที่สำคัญเงินจากการจำหน่ายสลากธอส. ได้นำไปปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อสร้างโอกาส “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ได้ง่ายขึ้น  โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธอส.ได้ออกสลากออมทรัพย์ไปแล้ว 4 รุ่น

สำหรับสลากออมทรัพย์ที่ธนาคารจะเริ่มจำหน่ายเป็นรุ่นแรก คือ สลากออมทรัพย์ ธอส. แบบพรีเมียม ชุดวิมานเมฆ หน่วยละ 1 ล้านบาท จำนวน 27,000 หน่วย หรือคิดเป็นกรอบวงเงิน 27,000 ล้านบาท และได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างล้นหลาม กระทั่งต้องมีการ Random ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ซื้อสลาก

จุดเด่นที่ทำให้สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดวิมานเมฆ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวสลากมีอายุ 3 ปี ผลตอบแทนเมื่อฝากครบ 3 ปี จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 42,000 บาท หรือคิดเป็น 1.4% ต่อปี ซึ่งนับว่าให้ผลตอบแทนที่ดีภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง ขณะที่ผู้ซื้อสลากยังได้ลุ้นรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน แบ่งเป็นรางวัลละ 200,000 บาท จำนวน 27 รางวัล/เดือน  หรือตลอดอายุสลาก 3 ปีจะได้ลุ้นรางวัลถึง 36 ครั้ง รวม 972 รางวัล เป็นจำนวนเงินรางวัลรวมถึง 194.4 ล้านบาท คิดเป็นโอกาสในการถูกรางวัลสูงถึง 0.1%

หากถูกรางวัลผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาทิ ถูกรางวัล 1 ครั้ง ผลตอบแทนเฉลี่ยจะอยู่ที่ 8.07% ต่อปี ถูกรางวัล 2 ครั้ง ผลตอบแทนเฉลี่ย 14.73% ต่อปี หรือถูกรางวัล 5 ครั้ง ผลตอบแทนเฉลี่ยจะสูงถึง 34.73% ต่อปี และเมื่อครบ 3 ปี ยังสามารถเลือกที่จะถือสลากต่อเพื่อรับผลตอบแทนตามที่ธนาคารกำหนดหรือมอบเป็นมรดกได้อีก

จากนั้น ในเดือนธันวาคม 2562 ทางธนาคารฯได้จัดทำสลากออมทรัพย์ ธอส.  รุ่นที่ 2 ชุดพราวพิมาน ซึ่งเป็นสลากเลี่ยมทอง แบบซุปเปอร์พรีเมี่ยม เนื่องจากมีมูลค่าสูงถึงหน่วยละ 10 ล้านบาท มีจำนวน 3,000 หน่วย หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท อายุสลาก 2 ปี ออกรางวัลไตรมาสละ 1 ครั้ง ครั้งละ 3 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 3 ล้านบาท คิดเป็นโอกาสในการถูกรางวัล 0.1%

กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า การจัดทำสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพราวพิมาน ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกในการออมให้แก่ผู้ที่ต้องการออมเงินกับผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนดีและมีโอกาสถูกรางวัลสูง อีกทั้งยังมีส่วนสนับสนุนให้คนไทยมีบ้านได้ง่ายขึ้น จากเม็ดเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากชุดดังกล่าว

ทั้งนี้ หากฝากครบ 2 ปี จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 240,000 บาท หรือคิดเป็น 1.2% ต่อปี กรณีฝากครบ 12 เดือน แต่ไม่ครบ 24 เดือน รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 50,000 บาท หรือ 0.5% ต่อปี ฝากครบ 3 เดือนแต่ไม่ครบ 12 เดือนได้รับคืนเฉพาะเงินต้น และกรณีฝากไม่ครบ 3 เดือน ได้รับเงินต้นคืน 9,900,000 บาท

กรณีฝากครบ 2 ปี และถูกรางวัล 3 ล้านบาทเพียง 1 ครั้งจะทำให้ได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็น 16.20% ต่อปี หรือถูกรางวัล 3 ล้านบาท จำนวน 3 ครั้ง ผลตอบแทนเท่ากับ 46.20% ต่อปี และถูกรางวัล 3 ล้านบาท จำนวน 5 ครั้ง จะผลตอบแทนสูงถึง 76.20% ต่อปี และยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับดอกเบี้ยและเงินรางวัลอีกด้วย

สำหรับสลากออมทรัพย์ รุ่นที่ 3 ชุดพิมานมาศ ถือฤกษ์ฉลองวันแห่งความรัก เปิดจำหน่ายวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 เปิดจำหน่ายหมวดแรก หรือ สลากวาเลนไทน์ มูลค่าหน่วยละ 50,000 บาทจำนวน 100,000 หน่วย หรือ 5,000 ล้านบาท ซึ่งความพิเศษของหมวดนี้ เฉพาะผู้ที่ซื้อสลากในวันวาเลนไทน์ หากฝากครบ 3 ปี ธอส.จะได้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.1% ต่อปี ส่วนคนที่ซื้อหลังจากวันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะได้อัตราดอกเบี้ย 1%

สลากออมทรัพย์ ชุดพิมานมาศ มีทั้งสิ้น 1 ล้านหน่วย หรือ 50,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 10 หมวด ๆ ละ 100,000 หน่วย อายุสลาก 3 ปี ออกรางวัลทุกเดือน รวม 36 ครั้ง เดือนละ 100 รางวัล(หมวดละ 10 รางวัล) มูลค่ารางวัลละ 50,000 บาท เริ่มออกรางวัลครั้งแรกวันที่ 16 มีนาคม 2563 ทุกหน่วยมีโอกาสในการถูกรางวัล 0.01% สูงกว่าสลากทั่วไป และยังมีโอกาสลุ้นรางวัล Jackpot  มูลค่ารางวัลละ 500,000 บาท จำนวนถึง 20 รางวัลทุกไตรมาส (หมวดละ  2 รางวัล)

เมื่อฝากครบ 3 ปี รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 51,500 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ย 1.0% ต่อปี กรณีถูกรางวัลมูลค่า 50,000 บาท จำนวน 1 ครั้ง จะทำให้ผู้ซื้อได้รับผลตอบแทน 34.33% ถูกรางวัลแล้วยังมีโอกาสถูกซ้ำได้อีกในทุก ๆ เดือน ซึ่งดอกเบี้ยและเงินรางวัลที่ผู้ฝากได้รับจากสลากออมทรัพย์ ธอส. ยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกด้วย

กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า สลากวาเลนไทน์ ธอส. ชุดพิมานมาศ ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างมาก จากการจำหน่ายหมวดแรกจำนวน 100,000 หน่วย สามารถจำหน่ายได้ครบภายในเวลา 268 นาที

“จุดเด่นที่ทำให้สลากออมทรัพย์ชุดพิมานมาศได้รับความสนใจจากลูกค้าประชาชน คือ ทุกหน่วยมีโอกาสในการถูกรางวัล 0.01% ซึ่งยังถือว่าสูงกว่าสลากทั่วไป และยังสามารถถูกรางวัลซ้ำได้ทุก ๆ เดือน รวมถึงมีโอกาสลุ้นรางวัล Jackpot ทุกไตรมาส หากถูกรางวัลมูลค่า 50,000 บาท จำนวน 1 ครั้ง คิดเป็นผลตอบแทนสูงถึง 34.33% เลยทีเดียว”

ล่าสุด ธอส. ได้ออกสลากออมทรัพย์ รุ่นที่ 4  ชุดเกล็ดดาว หน่วยละ 5,000 บาท กรอบวงเงิน 15,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 หมวด ๆ ละ 1 ล้านหน่วย เปิดจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563

จำหน่ายหมด 1 ล้านหน่วยแล้ว!! สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว หมวดที่ 1  เปิดจำหน่ายหมวดที่ 2 วงเงิน 5,000 ล้านบาทต่อทันที เพื่อเร่งปล่อยสินเชื่อ Two-Gen

กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า หลังจากที่ธนาคารฯได้เริ่มเปิดจำหน่าย สลากออมทรัพย์ ธอส.ชุดเกล็ดดาว หมวดที่ 1 จำนวน 1 ล้านหน่วย หรือคิดเป็นมูลค่า 5,000 ล้านบาท สามารถจำหน่ายได้หมดภายในระยะเวลาราว 1 สัปดาห์เท่านั้น สะท้อนให้เห็นถึงความคุ้มค่าในการออม การลงทุน และความน่าสนใจของสลากออมทรัพย์ ธอส.ชุดเกล็ดดาว ซึ่งออมหน่วยละ 5,000 บาท แต่มีโอกาสในการถูกรางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาทต่อหมวด สูงถึง 0.0045% รวมถึงยังมีรางวัลอื่นๆ ที่ทำให้ผู้ออมมีโอกาสถูกรางวัลมากยิ่งขึ้น อาทิ รางวัลเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว รางวัลเลขสลับเลขท้าย 2 ตัว และรางวัลเลขสลับเลขท้าย 3 ตัว ซึ่งเป็นรางวัลที่ไม่เคยมีในสลากออมทรัพย์ที่ไหนมาก่อน

โลกที่หมุนเร็วขึ้น แต่ด้วยวิสัยทัศน์ Be Simple Make It Simple ยุทธศาสตร์ที่ทำให้ ธอส. ก้าวทันยุคดิจิทัล สะท้อนได้จากสลากทุกชุดที่ได้ผลตอบรับอย่างรวดเร็ว