ทัศนคติกลุ่ม Gen Z จะทำให้โลกเปลี่ยนไป เพราะความเชื่อมั่นในองค์ความรู้+วิทยาศาสตร์ ยึดถือสินค้า BCG มากกว่าเรื่องของราคา!

กลุ่มผู้บริโภค Gen Z ที่มีอายุระหว่าง 10-25 ปี (เกิดปี 1997 – 2009) กำลังกลายเป็นกลุ่มที่นักการตลาดให้ความสำคัญที่สุด เพราะกลุ่มคนเหล่านี้จะกลายเป็นประชากรกลุ่มค่อนข้างใหญ่และจะกลายมาเป็นผู้บริโภคหลักต่อไป

โดยในอาเซียน พบข้อมูลว่าปัจจุบันจำนวนประชากรกลุ่มนี้คิดเป็นประมาณ 24% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ดังนั้นคนในกลุ่ม Gen Z จึงเป็น Gen ที่มีความสำคัญและมีอิทธิพลต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่าในประเทศไทยที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่ Gen Z ก็จะเป็นกลุ่มที่มีบทบาทและมีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้าให้กับผู้สูงอายุ

สำหรับในประเทศแคนาดา ปัจจุบันนี้กลุ่ม Gen Z มีสัดส่วนสูงถึง 20% ของประชากรทั้งหมด และได้กลายเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงกว่ากลุ่มรุ่นก่อนคือ Millennials ในภูมิภาคอเมริกาเหนือ

จากข้อมูลพบว่ากลุ่ม Gen Z มีการใช้จ่ายในปี 2564 มูลค่าสูงถึง 360 พันล้านเหรียญสหรัฐ (12.9 ล้านล้านบาท) ซึ่งมีแหล่งรายได้มาจากงานประจำ งานชั่วคราว หรือจากผู้ปกครอง โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้มีทัศนคติและพฤติกรรมผู้บริโภคแตกต่างจากคนรุ่นก่อน ทำให้นักการตลาดควรศึกษาและทำความเข้าใจคนกลุ่มนี้ เพื่อปรับกลยุทธ์สินค้าการตลาดต่างๆ ให้กับเข้ากับคนกลุ่มนี้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

และถึงแม้ปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มตื่นตัวรับรู้ถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อน (Climate Change) แต่คนกลุ่ม Gen Z จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษมากกว่าคนรุ่นก่อน ๆ โดยกว่า 72% ของ Gen Z มองว่าผลกระทบของภาวะโลกร้อนจะส่งผลต่อความเป็นอยู่ของพวกเขาอย่างมาก

ซึ่งในอนาคตทัศนคติของคนกลุ่ม Gen Z กับมุมมองความเชื่อของข้อมูลวิทยาศาสตร์แตกต่างจากคนรุ่นก่อน ที่มองว่าสินค้า GMO (การดัดแปลงพันธุกรรม โดยเอายีนส์ของ สิ่งมีชีวิตหนึ่งไปใส่สิ่งมีชีวิตหนึ่ง เป็นการผสมข้ามสายพันธุ์หรือไม่ผ่านการผสมแบบดั้งเดิม) อาจไม่ได้เลวร้ายหรือไม่เหมารวมอยู่ในกลุ่มสินค้าไม่ดีต่อสุขภาพ (Unhealthy Food) โดยคนกลุ่มนี้มองว่าวิวัฒนาการทางวิทยาศาสตร์อาทิการตัดต่อพันธุกรรมของพืชจะช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นและดีต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พื้นที่เพาะปลูก ลดการบุกรุกทำลายป่า ลดการใช้ทรัพยากรน้ำ

โดยคน Gen Z จะเชื่อมั่นในองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ นิยมค้นหาความรู้ด้วยตนเอง และกล้าเปิดใจทดลองสิ่งใหม่ๆ อาทิ สินค้า Plant Based หรือเนื้อสัตว์ที่สังเคราะห์ในห้องทดลอง (Lab Grown Meat) ไม่ใช่เป็นเนื้อสัตว์ที่มาจากการทำปศุสัตว

ในอดีต นักการตลาดส่วนใหญ่มองว่ากลุ่ม Gen Z และกลุ่ม Millennials มีพฤติกรรมที่คล้ายกันในการเลือกซื้อสินค้า การใช้ชีวิต หรือทัศนคติของสังคมและสิ่งแวดล้อม โดย
คนในกลุ่ม Millennials มองว่านโยบายเพื่อความยั่งยืน (Sustainability) ของบริษัทเป็น
สิ่งสำคัญ

ขณะที่กลุ่ม Gen Z มองว่านโยบายความยั่งยืนเป็นสิ่งขั้นต่ำพื้นฐานที่จะต้องมีอยู่แล้ว แต่คนกลุ่มนี้จะไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ และจะค้นหาข้อมูลด้วยตนเอง อาทิ จะไปสืบค้นหาเองว่า บริษัทที่อ้างว่ามีการใช้นโยบายความยั่งยืนนั้น จะทำได้จริงในภาคปฏิบัติ คนกลุ่ม Gen Z จะไม่ค่อยเชื่อถือหรือให้ความสำคัญกับสื่อโฆษณา (Advertising) มากนักแต่จะเชื่อถือ Influencer หรือThird Party Product Review มากกว่าเนื่องจากคนกลุ่มนี้เกิดมาพร้อมการเข้าถึงข้อมูลได้หลายช่องทางและมีความเชี่ยวชาญในการค้นหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทั้ง Online/Offline ทำให้อิทธิพลของการใช้สื่อโฆษณามีประสิทธิภาพน้อยกว่าคนรุ่นก่อน

คนส่วนใหญ่เคยเข้าใจว่าผู้บริโภค Gen Z นิยมการจับจ่ายสินค้าและบริการผ่านมือถือ การซื้อสินค้าออนไลน์อย่างเดียว แต่ความเป็นจริงนั้น กลุ่ม Gen Z นิยมการจับจ่ายออนไลน์ ควบคู่ไปกับออฟไลน์ โดยการเข้าเยี่ยมร้านค้าปลีกเพื่อจับต้องสินค้า หรือต้องการมีประสบการณ์กับสินค้าและบริการโดยตรง

ซึ่งการทำวิจัยจากบริษัท Hartman Group ในช่วงปีที่ผ่านมาพบว่า Gen Z ได้ไปจับจ่ายใช้สอยภายในห้างค้าปลีกเฉลี่ย 2.5 ครั้งต่อสัปดาห์ ในขณะที่กลุ่ม Millennials (อายุ 26-41 ปี) ไปจับจ่ายเพียง 1.9 ครั้งต่อสัปดาห์ และ กลุ่ม Gen X (อายุ 42-57 ปี) 1.5 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งกลุ่ม Gen Z นิยมให้ร้านค้าต่าง ๆ สามารถรับการชำระเงินหรือสั่งสินค้าได้หลายช่องทาง ทั้งมือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือแม้กระทั่งการซื้อสินค้าผ่านโทรทัศน์ (Smart TV) ที่เป็น Omnichannel Shopping Experience ในขณะที่ยังอยากเดินช็อปปิ้ง อยากจับต้องสินค้าภายในร้านอีกด้วย

และเป็นเพราะกลุ่ม Gen Z เติบโตมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่อยู่แวดล้อม จึงมีความสามารถในการใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ และเรียนรู้ได้เร็ว จึงมีวิถีการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดและกระตือรือร้นที่จะค้นหาข้อมูล ดังนั้น กลยุทธ์ทำการตลาดกับกลุ่ม Gen Z จึงเป็นเรื่องที่นักการตลาดต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน และยิ่งไปกล่าวนั้น คนกลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับ BCG มากกว่าคนรุ่นก่อน ๆ ดังนั้นนักการตลาดจะต้องเตรียมรูปแบบธุรกิจที่รองรับกับพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะเปลี่ยนโลกใบนี้

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ที่มา : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโทรอนโต

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #GenZ #BCG