Facebook

เยี่ยมชมบ้านใหม่ของ Facebook ประเทศไทย พร้อมเปิดยุทธศาสตร์ปี 2018 เดินเกมเจาะ 3 ตลาด ดัน Facebook โต

หลังเฟซบุ๊กได้ประกาศเปิดตัวสำนักงานอย่างเป็นทางการในไทยเมื่อปี 2558 มาวันนี้ถึงเวลาที่เฟซบุ๊กจะขยายพื้นที่สำนักงานให้ใหญ่กว่าเดิม โดยขอยึดพื้นที่ชั้น 27 อาคารเกษร ทาวเวอร์ ย่านราชประสงค์ รองรับการให้บริการที่ดียิ่งขึ้นกับผู้ใช้งานและลูกค้าชาวไทย

 

ซึ่งการขยายสำนักงานแห่งใหม่ในครั้งนี้ ย่อมเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างที่สำคัญในการรุกตลาดของเฟซบุ๊กในไทยอย่างจริงจัง โดยทิศทางจากนี้ไปพร้อมเดินเครื่องเจาะตลาดใน 3 กลุ่ม ตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก รวมถึงเครือข่ายสังคมดิจิทับ เพื่อดันธุรกิจไทยก้าวสู่สังคมดิจิทัล

 

เมื่อก้าวย่างมาถึงชั้น 27 จะได้พบกับแผนกต้อนรับของ Facebook พร้อมกับผลงานภาพวาดขนาดใหญ่ ที่รังสรรค์โดยศิลปินชาวไทยตั้งตะหง่านอย่างโดดเด่น และก่อนจะเข้าไปภายในจะต้องกรอกรายละเอียดเพื่อยืนยันตัวตนเสียก่อน

 

ส่วนการออกแบบตกแต่งพื้นที่ภายในสำนักงานนั้น ได้รับการดีไซน์มาเป็นบรรยากาศแบบไทย ๆ เป็นพื้นที่แบบเปิดโล่ง ส่วนห้องอาหาร และบริเวณสำหรับทำกิจกรรมผ่อนคลาย อาทิ กระสอบทราย โต๊ะปิงปอง และฟุตบอลมินิเกม อีกทั้งแต่ละห้องทำงาน และห้องประชุม ยังตั้งชื่อได้เก๋ไก๋แบบไทย ๆ แตกต่างกันออกไปอีกด้วย เช่น สวัสดี, สบาย สบาย และ 55555

ลองไปชมกันเลยดีกว่าน่าทำงานขนาดไหน

Facebook

 

อย่างไรก็ตาม นอกจากการเปิดบ้านใหม่ให้สื่อมวลชนได้เข้าชมแล้ว งานนี้ยังได้เผยยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนธุรกิจ Facebook ในไทยอย่างหมดเปลือกอีกด้วย โดย จอห์น แวกเนอร์ กรรมการผู้จัดการ Facebook ประเทศไทย บอกว่า สิ่งที่ Facebook จะโฟกัสในปีนี้มี 3 ตลาดหลัก ทั้งด้านธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs), องค์กรขนาดใหญ่ และสังคมดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์พันธกิจของ Facebook ที่ต้องการสนับสนุนให้ไทยก้าวสู่เป็นสังคมดิจิทัลแท้จริง

 

“จากข้อมูลพบว่าธุรกิจ SMEsในไทยมีจำนวนมากกว่า 2.5 ล้านราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 98% ของธุรกิจไทย และ 51% ของอีคอมเมิร์ซไทย เกิดขึ้นผ่านช่องทางโซเชียล ขณะเดียวกัน คนไทยกว่า 40 ล้านคนยังเชื่อมต่อกับ SMEs ผ่าน Facebook โดยในปี 2017 ไทยนับเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่ผู้คนส่งข้อความถึง SMEs บนเฟซบุ๊กมากที่สุด และเป็นประเทศอันดับ 1 ของเอเชียแปซิฟิก” กรรมการผู้จัดการ Facebook ประเทศไทย ฉายให้ฟังถึงเหตุผลที่ Facebook หันมาให้น้ำหนักกับ SMEs มากขึ้น

 

Facebook
จอห์น แวกเนอร์ กรรมการผู้จัดการ Facebook ประเทศไทย

สำหรับกลยุทธ์ที่ Facebook จะนำมาใช้เพื่อเจาะตลาด SMEs นั้น นอกจากการให้ความสำคัญกับการศึกษาพฤติกรรมการซื้อขายสินค้าออนไลน์ของผู้บริโภคชาวไทยอย่างลึกซึ้งเพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ามากขึ้นแล้ว ดังเช่นฟีเจอร์ Live ที่เดิมทีไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทำการขายของ แต่ผู้ใช้งานชาวไทยกลับนิยมไลฟ์สดเพื่อขายสินค้า จนกระทั่งเกิดการต่อยอดมาเป็นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด Marketplace ซึ่งเป็นพื้นที่ค้าขายสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีที่จะช่วยให้ลูกค้าค้นพบธุรกิจต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงการคิดค้นวิธีที่จะทำให้ผู้บริโภคค้นพบสินค้าง่ายขึ้น ตลอดจนให้ความรู้กับธุรกิจในการใช้ Facebook เพื่อต่อยอดการขายได้มากยิ่งขึ้น

 

ส่วนการบุกธุรกิจขนาดใหญ่นั้น ผู้บริหาร Facebook ยอมรับว่า จากผลสำรวจในหัวข้อ Asia Data Culture โดยไมโครซอฟท์ พบว่า ปัจจุบัน 89% ขององค์กรไทยมีความเชื่อว่าการทรานส์ฟอร์มเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการสร้างการเติบโตในธุรกิจ แต่มีเพียง 29% ของธุรกิจที่มีกลยุทธ์รองรับในการเปลี่ยนผ่านอย่างเต็มรูปแบบ จึงทำให้หลายองค์กรพลาดโอกาสทางธุรกิจไป ดังนั้น สิ่งที่ Facebook จะทำจากนี้ไปคือ การจับมือกับองค์กรธุรกิจต่าง ๆ อาทิ บริษัท เซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท จำกัด, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท อนันดา เดเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ทั้งการจัดเวิร์กชอป จัดอบรมออนไลน์ รวมถึงการนำเสนอเครื่องมือบนโลกออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ขณะที่การสนับสนุนกลุ่มสังคมดิจิทัลนั้น Facebook จะเดินหน้าสนับสนุนผ่านโปรแกรมต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลกระทบในเชิงบวกให้เกิดขึ้นในชุมชนออนไลน์ โดยสถิติล่าสุดพบว่ามีคนไทยได้สร้างกลุ่มบนเฟซบุ๊กมากกว่า 1 ล้านกลุ่มแล้ว อาทิ Run2Gether และ Help Us Read เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ คือแผนการขับเคลื่อนของ Facebook ประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม แม้ในไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ใช้งาน Facebook ในไทยจะมีจำนวนถึง 51 ล้านคนต่อเดือน โดยเติบโตขึ้น 11% จากปี 2559 และมียอดผู้ใช้งานเป็นประจำผ่านโทรศัพท์มือถือ 33 ล้านคน แต่เกมนี้สำหรับ Facebook แล้ว ยังเพิ่งเริ่มต้นแค่ 1% เท่านั้น!!