Exim

ถอดรหัสแนวทางพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนกับ EXIM BANK

ที่ผ่านมา เรามักวัดความสำเร็จของธุรกิจจากการสร้างผลกำไร แต่ปัจจุบันภาคธุรกิจได้รับการคาดหวังจากลูกค้าและองค์กรพันธมิตรให้มีระบบการจัดการทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ สร้างรายได้ในระดับที่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ด้วยตนเอง และสร้างผลกระทบในเชิงบวกให้แก่ “สังคม” และ “สิ่งแวดล้อม” ควบคู่กันไปด้วย เรียกได้ว่า โฉมหน้าธุรกิจแนวใหม่เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG)

อย่างไรก็ตาม มีตัวเลขทางสถิติยืนยันว่า ปีที่ผ่านมาทั่วโลกได้เผชิญความท้าทายทั้ง 2 ด้านพร้อม ๆ กัน นั่นคือ การเติบโตของเศรษฐกิจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมสูงขึ้น ทั่วโลกเกิดภัยธรรรมชาติบ่อยครั้งและรุนแรงขึ้น

ร่วมถอดรหัสแนวทางการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนกับ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ที่เพิ่งรับรางวัล ESG EXCELLENCE AWARD 2024 ในงานประกาศรางวัลอันทรงเกียรติ Thailand Top Company 2024

เพียง 3 ปีที่ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เข้ามาบริหารรัฐวิสาหกิจแห่งนี้ “บทบาท” และ “สถานะ” ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เกิดการ Transformation องค์กรในมิติต่าง ๆ อย่างมีนัยสำคัญ

มิติ “สถานะ” ที่เปลี่ยนไปอย่างน่าชื่นชมก็คือ ตัวเลขการเติบโต ปีที่ผ่านมา EXIM BANK มีวงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 70,628 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินของผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 10,792 ล้านบาท และมีสินเชื่อคงค้าง 175,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,273 ล้านบาท หรือ 4.32% เมื่อเทียบกับปีก่อน สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการในปี 2537

ส่วนมิติ “บทบาท” ที่เปลี่ยนไปคือ ดร.รักษ์ วางเป้าหมายและหมุดหมายการ “Transformation EXIM BANK” ให้สอดคล้องกัน เพื่อมุ่งขยายการสนับสนุน Green Financing ครอบคลุมการดูแลทรัพยากรทางทะเลผ่าน Blue Financing ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ อย่างครบวงจรมากขึ้น โดยตัวเลขการเติบโตในปีที่ผ่านมาจะพบว่า ยอดสินเชื่อกลุ่มนี้มีการเติบโตที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ เขาวางเป้าหมายสุดท้าทายอีกว่า EXIM BANK จะต้องมียอดสินเชื่อ 300,000 ล้านบาท ภายในปี 2570 และครึ่งหนึ่งต้องมาจาก Green Financing และ Blue Financing

สำหรับเป้าหมายและหมุดหมายในการ Transformation EXIM BANK ดร.รักษ์ มองเห็นว่า “ความยั่งยืน” ไม่ใช่เทรนด์อีกต่อไป แต่เป็น Agenda ที่ต้องดำเนินการให้สำเร็จ เป็นทางรอดไม่ใช่เป็นแค่ทางเลือกเหมือนที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนจะต้องดำเนินการและผลักดันให้เกิดขึ้นตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ รวมถึงเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกองค์กรต้องเดินตาม Roadmap นี้  เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายที่ประกาศไว้ภายในปี 2593 และ 2608 ตามลำดับ ดังนั้น EXIM BANK จึงเลือกปักหมุดเส้นทางนี้เป็นทางเดินหลัก

EXIM BANK พร้อมใช้จุดแข็งและความเชี่ยวชาญในการทำหน้าที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมาพัฒนา Greenovation นวัตกรรมการเงินสีเขียว ดูแลการปล่อยคาร์บอนขององค์กรและผู้ประกอบการไทยใน Scope 1-2-3 (การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง ทางอ้อมที่เกิดจากการใช้พลังงาน และทางอ้อมอื่น ๆ จากการดำเนินงานขององค์กร) โดยต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพของไทย ประกอบด้วย อุตสาหกรรมเป้าหมายสู่อนาคต (Future Industries) อาทิ พลังงานหมุนเวียน EV เคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมเกษตรและประมงแปรรูป และธุรกิจบริการและ Soft Power อาทิ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ควบคู่กับการสร้างผู้ส่งออกไทย

ผลิตภัณฑ์ใหม่ด้าน Climate Finance อาทิ EXIM Green Goal สนับสนุน SMEs ที่มีเป้าหมาย Green ชัดเจนและพร้อมเข้าร่วม Green Supply Chain โดยเติมความรู้สีเขียว เติมโอกาสสีเขียว และเติมเงินทุนสีเขียว ด้วยผลิตภัณฑ์ประเภท Green ต่าง ๆ ของ EXIM BANK พร้อมสิทธิประโยชน์และโปรโมชันพิเศษเพื่อส่งเสริมให้เกิดระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่ธุรกิจทุกระดับเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในตลาดการค้าโลก ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ผู้บริโภคและกติกาการค้าโลกยุคใหม่

EXIM BANK ตั้งเป้าหมายสู่ Carbon Neutrality ในปี 2573 และ Net Zero Emissions ในปี 2593 เร็วกว่าเป้าหมายประเทศไทย 20 ปีและ 15 ปีตามลำดับ โดยปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในองค์กร ควบคู่กับการเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน

“ตลอด 3 ทศวรรษ EXIM BANK ได้ทำหน้าที่ธนาคารเพื่อการพัฒนา นำผู้ประกอบการไทยปรับตัวและติดปีกไปสู่ตลาดโลก ในวันนี้เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกโฉม EXIM BANK พร้อมด้วยลูกค้าและหน่วยงานพันธมิตรจะเดินเคียงข้างกันนำพาประเทศไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นและยั่งยืน โดยใช้จุดแข็งและความเชี่ยวชาญขององค์กรพัฒนานวัตกรรมการเงินสีเขียว (Greenovation) สร้างผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ Global Green Supply Chain ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยเศรษฐกิจสีเขียว สร้างโลกที่เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเติบโตอย่างสมดุลไปด้วยกัน” ดร.รักษ์ กล่าวทิ้งท้าย

จะเห็นได้ว่า EXIM BANK ได้สร้างเครือข่ายลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตร ในรูปแบบการสนับสนุนทั้ง Green Financing และ Blue Financing ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เสมือนเป็นการ Reinfrastructure อย่างแข็งแกร่งนั่นเอง

กับรางวัล ESG EXCELLENCE AWARD 2024 ในงานประกาศรางวัล Thailand Top Company 2024 ที่ทางธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) สามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรติไปครองได้ ต้องขอชื่นชม ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร พนักงาน ทีมงาน ตลอดจนคู่ค้า ลูกค้า และพันธมิตร ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง