สร้างอสังหาฯ ต้องทำที่ชาร์จรถ EV ญี่ปุ่นเตรียมงัดไม้แข็งสร้างกฎใหม่ สู่เป้าหมายเลิกขายรถใช้น้ำมันภายในทศวรรษที่ 2030

หลายประเทศทั่วโลกต่างผลักดันให้เกิดการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นหลังจากสภาวะอากาศทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิในโลกสูงขึ้นทุก ๆ ปี หนึ่งในสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นคือ การเผาผลาญพลังงานฟอสซิลจากการใช้พลังงานน้ำมัน หรือถ่านหิน

ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบเป็นโดมิโน่ไปยังทุกภาคอุตสาหกรรม เพราะน้ำมันเป็นต้นทุนของทุกธุรกิจ

สำหรับประเทศไทย รัฐบาลก็ได้ผลักดันในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน โดยเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา ‘ราชกิจจานุเบกษา’ ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องการลดอัตราอากร และยกเว้นอากรศุลกากร สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูป (หรือ รถยนต์ไฟฟ้า BEV 100%)

แต่เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าสถานีให้บริการชาร์จไฟฟ้าในประเทศไทยปัจจุบันนั้น ไม่เพียงพอกับการใช้งานรถ EV ได้ทั่วประเทศ (แผนในอนาคตคือ การเพิ่มสถานีชาร์จเพื่อให้ผู้ใช้ EV สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ออกไปได้ 700 กิโลเมตรในทุกทิศทาง และตั้งเป้าภายในสิ้นปี 2565 จะติดตั้ง Super Fast Charger ให้ผู้ใช้ EV เดินทางไปได้ทุกจังหวัดในประเทศไทย รวมถึงจะพัฒนา Green Charging Station) ในปี 2564 ไทยมีจำนวนสถานีชาร์จไฟ 693 แห่ง และมีหัวจ่ายประมาณ 2,285 หัวจ่าย

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นไปอย่างก้าวกระโดด โดยข้อมูลสถิติของกรมขนส่งทางบกแสดงให้เห็นว่าในปี 2564 ที่ผ่านมา มียอดจดทะเบียนรถยนต์ xEV (Electric Vehicle) เพิ่มมากถึง 40,710 คัน ในขณะที่ปี 2563 และ 2562 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 30,750 คัน และ 2,854 คันเท่านั้น

นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ภาครัฐต้องเร่งให้การผลักดันการตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้ามากพอ ๆ กับมาตรการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ EV เพราะถึงแม้จะมีมาตรการทางภาษีเข้ามาช่วย แต่ความรวดเร็วของการชาร์จไฟฟ้า และการมีสถานีให้บริการอย่างทั่วถึง ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดที่จะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนการใช้งานรถ EV

ทีนี้ลองมาดูประเทศแห่งเทคโนโลยีอย่างญี่ปุ่น ที่ล่าสุดได้ออกมาตรการสนับสนุนประเด็นนี้กันอย่างน่าสนใจ นั่นคือ “เตรียมพิจารณาให้อาคาร และบ้านพักอาศัยสร้างใหม่โตเกียวต้องมีอุปกรณ์สำหรับชาร์จ EV”

ซึ่งมาตรการนี้จะมีขึ้นเพื่อส่งเสริมให้มีการใช้รถ EV เพิ่มมากขึ้น โดยกรุงโตเกียวกำลังพิจารณาที่จะให้อาคาร และบ้านพักอาศัยสร้างใหม่ต้องมีอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเนื่องจากกรุงโตเกียวกำลังพยายามผลักดันให้มีการใช้รถยนต์ที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงครึ่งหนึ่งจากปี 2543 ภายในปี 2573 (นโยบาย Carbon Half)

โดย อาคารสำนักงาน แมนชันที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ที่กำลังจะสร้างใหม่จะต้องติดตั้งอุปกรณ์สำหรับชาร์จไฟฟ้าดังกล่าวตามจำนวนที่สอดคล้องกับขนาดของที่จอดรถด้วย สำหรับบ้านพักอาศัย หากมีการสร้างที่จอดรถ บริษัทผู้สร้างบ้านพักอาศัยก็จำเป็นจะต้องติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าด้วยเช่นกัน

ซึ่งหลังจากนี้จะมีการประชุมหารือของผู้เชี่ยวชาญถึงการร่างรายละเอียดแผนงานที่ชัดเจนขึ้น และการแก้ไขระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในขณะเดียวกัน ทางการกรุงโตเกียวก็ยังสนับสนุนการติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าในอาคารที่อยู่อาศัยจำพวกแมนชัน หรือคอนโดมิเนียมที่มีอยู่ในปัจจุบันด้วยการตั้งระบบเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ หากอาคารนั้น ๆ จะมีการติดตั้งอุปกรณ์อีกด้วย ทั้งนี้ในปีงบประมาณนี้เป็นต้นไป ก็จะขยายขอบเขตไปยังบ้านที่อยู่อาศัยด้วย โดยจะให้เงินสนับสนุนสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ 25,000 เยน (ประมาณ 6,600 บาท)

โดยแผนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเนื่องจากญี่ปุ่นมีแผนจะยกเลิกการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันภายในกลางทศวรรษที่ 2030 แต่ปัญหาสำคัญที่พบก็คือ การมีจุดชาร์จไฟฟ้าที่ไม่เพียงพอ มีผู้บริโภคบางรายกล่าวว่า อยากจะซื้อรถ EV แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจยังไม่ซื้อ เนื่องจากที่จอดรถของอาคารที่พักอยู่ ไม่มีที่ชาร์จ ทำให้ไม่สะดวกที่จะใช้รถ EV นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ภาครัฐในญี่ปุ่นเข้ามามีบทบาทในการให้เงินช่วยเหลือในการติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้า เพื่อผลักดันให้มีการใช้รถยนต์ EV ในวงกว้างมากขึ้น

ซึ่งมาตรการนี้คาดกว่าจะทำให้ตลาดรถ EV ในญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะคึกคักมากขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากภาครัฐมีการผลักดันอย่างจริงจังอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น

ดังนั้น ประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตรถยนต์อุปกรณ์ต่าง ๆ คู่ค้าสำคัญของญี่ปุ่นก็จำเป็นที่จะต้องพร้อมที่จะรับมือกับความต้องการของตลาดที่จะเปลี่ยนไปในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ที่มา : DITP, กฟผ.

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #รถยนต์ไฟฟ้า #EV #ยานยนต์ไฟฟ้า