EA ต่อยอดพัฒนาธุรกิจอย่างรู้คุณค่าทรัพยากรธรรมชาติ ตอกย้ำผู้นำด้านพลังงานบริสุทธิ์

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำนวัตกรรมพลังงานสะอาด พร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง นำมาซึ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ‘BiO PCM’ ที่เกิดจากการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบจากธรรมชาติ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด

คุณจีรพันธ์ ปัญญานันท์ Executive Vice President สายงานปฏิบัติการธุรกิจไบโอดีเซล บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวถึง บริษัท อีเอ ไบโออินโนเวชั่น จำกัด บริษัทในกลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ ได้จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทขึ้นเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2560 ด้วยทุนจดทะเบียน 400,100,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือการนำวัตถุดิบจากธรรมชาตินำมาพัฒนาต่อยอดให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม ด้วยวัตถุดิบหลักที่นำมาพัฒนาต่อยอดเพิ่มมูลค่า ได้แก่ น้ำมันปาล์มที่ผ่านกระบวนการ (RBD) น้ำมันพืชใช้แล้ว (Used Cooking Oil) กรดปาล์ม (PFAD) ไขมันเจียว (TALLOW) เป็นต้น โดยผ่านโรงงานที่มีกำลังการผลิตกว่า 130 ตันต่อวัน

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ คือ ‘BiO PCM’ (Phase Change Material) หรือผลิตภัณฑ์สารเปลี่ยนสถานะ ที่ผลิตได้จากวัตถุดิบดังกล่าว นำมาทำปฏิกิริยากับไฮโดรเจนบนตัวเร่งปฏิกิริยา ภายใต้อุณหภูมิและความดันสูง โดยคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์สารเปลี่ยนสถานะ คือ มีความสามารถในการกักเก็บพลังงานสูง ช่วยรักษาอุณหภูมิให้คงที่ที่ค่าใดค่าหนึ่ง ด้วยการดูดซับและปลดปล่อยพลังงานความร้อน และเปลี่ยนสถานะสารจากของเหลวกลายเป็นของแข็งและของแข็งเป็นของเหลวได้จากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไป จึงสามารถใช้ไปเป็นส่วนผสมให้กับวัสดุต่าง ๆ ในการรักษาอุณหภูมิ และด้วยการเปลี่ยนคุณสมบัติของการเปลี่ยนแปลงสถานะที่อุณหภูมิคงที่ของ PCM นี้ ให้ผลประโยชน์มหาศาลในเรื่องการอนุรักษ์พลังงานในอุตสาหกรรมหลาย ๆ ประเภท เช่น อาคารและการก่อสร้าง การขนส่ง เสื้อผ้า บรรจุภัณฑ์ และอื่น ๆ ที่ต้องการรักษาอุณหภูมิที่มีประสิทธิภาพ

โดยสารเปลี่ยนสถานะ (PCM) เป็นที่ได้รับความสนใจจากหลาย ๆ ประเทศที่ต้องการผลักดันเรื่องการลดใช้พลังงาน หรือใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด จึงเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ตลาดมีความต้องการมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น จีน เกาหลี สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเป็นการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มและช่วยสร้างเสถียรภาพราคาปาล์มให้สูงขึ้น

สำหรับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ‘BiO PCM’ คือ กระบวนการผลิตที่ผ่านการพัฒนาและจดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาเป็นรายแรกของโลก เน้นการใช้อนุพันธ์ปาล์มน้ำมันซึ่งประเทศไทยเป็นแหล่งวัตถุดิบหลัก ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุด ผ่านการวิจัยและพัฒนาด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงสามารถมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีความได้เปรียบทั้งในเชิงของต้นทุนและความมั่นคงในการจัดหาวัตถุดิบ พร้อมมองหาโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดผู้บริโภค

“บริษัทฯ ยังคงนำนวัตกรรมมาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังยุโรป และอเมริกาให้มากขึ้น โดยมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Bio PCM ชนิดใหม่ ที่เหมาะสมกับการใช้งานกับอุตสาหกรรม Cold Chain Logistic เพื่อบริหารจัดการระบบขนส่งควบคุมอุณหภูมิ เพื่อให้สามารถรักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์ รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม” คุณจีรพันธ์ กล่าว

กลยุทธ์ 3P ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน

ในแง่ของการดำเนินธุรกิจ EA ได้มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มชีวภาพ โดยมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงที่สามารถใช้วัตถุดิบจากในประเทศ ผ่านเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นจำหน่ายสินค้าไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้กลยุทธ์ บริหารธุรกิจผ่านแนวคิด CSI (Corporate Social Innovation) หรือนวัตกรรมสังคมองค์กรปรับเปลี่ยนและพัฒนาองค์กรสู่การบริหารและการทำงานแบบบูรณาการยังประโยชน์สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน ด้วยการคำนึงถึงความสมดุลย์ 3P ดังนี้

Planet เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและโลก โดยการบริหารพลังงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ

People สร้างประโยชน์ให้เกิดแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย

Profit สร้างกลไกให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนที่ดี สามารถแบ่งปันผลตอบแทนกลับสู่วงจรเศรษฐกิจ

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจกลุ่มไบโอ ในปี 2024 ยังคงเน้นไปที่การลงทุนต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพิ่มเติม ประกอบด้วย

  1. สารพาราฟินชีวภาพ (Bio-Normal Paraffin) สามารถใช้ทดแทนพาราฟินจากปิโตรเลียม นำไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิต สารทำความสะอาด หรือใช้อุตสาหกรรมการผลิตพอลิเมอร์ เป็นต้น
  2. น้ำมันอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel หรือ SAF) โดยเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพใช้สำหรับเครื่องบิน ซึ่งคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงกับน้ำมันเครื่องบินที่เป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก