EA พลังงาน

EA สู่ผู้นำธุรกิจพลังงานทางเลือก

EA สู่ผู้นำธุรกิจพลังงานทางเลือก

อุตสาหกรรมพลังงาน นับว่ามีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้คนเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่ภาคธุรกิจต่าง ๆ ยังต้องพึ่งพิงพลังงานในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี แหล่งพลังงานหลายอย่างโดยเฉพาะที่มาจากฟอสซิลเริ่มลดน้อยลง อีกทั้งยังสร้างมลภาวะให้กับโลกด้วย

จากผลกระทบดังกล่าว ทำให้หลายภาคส่วนเริ่มมองหาแหล่งพลังงานใหม่ ๆ เพื่อมาทดแทนแหล่งพลังงานเดิม เช่นเดียวกับ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ที่มองเห็นถึงโอกาสในธุรกิจพลังงานทางเลือก และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านพลังงานทั้งไบโอดีเซล และไฟฟ้าออกมาอย่างต่อเนื่อง จนอาจกล่าวได้ว่า EA คือหนึ่งในผู้นำธุรกิจพลังงานทดแทนของไทยก็ว่าได้

จากจุดเริ่มต้นธุรกิจหลักของ EA คือการผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล (Bio Diesel) โดยใช้เทคโนโลยีของตัวเอง แต่เมื่อธุรกิจมีการแข่งขันสูง จึงมองหาโอกาสในธุรกิจใหม่ เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น จึงรุกเข้าสู่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานทดแทนอย่างเต็มตัว

แน่นอนว่า ธุรกิจอะไรก็ตามที่ทำแล้วมีผลตอบแทนที่ดี ย่อมมีคู่แข่งเข้ามาในธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุผลดังกล่าว EA จึงมองหาโอกาสในธุรกิจใหม่ ๆ และใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้นอยู่เสมอ โดยธุรกิจใหม่ที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วอีก 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ (Energy Storage) เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมไฟฟ้า และยานยนต์ และธุรกิจในบริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging) ซึ่งเป็นธุรกิจที่มาต่อยอดธุรกิจเดิมให้มีศักยภาพในการแข่งขันได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

อมร ทรัพย์ทวีกุล กรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) กล่าวว่า ปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้ EA สามารถขยายธุรกิจและเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง มาจากการวิเคราะห์และมองถึงโอกาสในธุรกิจใหม่ตลอดเวลา เพราะเป็นที่ทราบดีว่า การแข่งขันในโลกธุรกิจปัจจุบันต้องช่วงชิงโอกาสและปักหมุดก่อนให้ได้ และเมื่อได้โอกาสแล้ว เราจะลงรายละเอียดกันทุกอณู พร้อมทั้งสร้างความแตกต่าง นั่นจึงทำให้ EA ขยายไปยังธุรกิจที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีก่อนคู่แข่งอยู่เสมอ

หากจำแนกธุรกิจของ EA ในปัจจุบัน แบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก ๆ ประกอบด้วย

กลุ่มแรกคือ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล (Bio Diesel) โดยแบ่งออกเป็น ไบโอดีเซล (B100) กลีเซอรีนบริสุทธิ์ และผลิตภัณฑ์พลอยได้ที่ได้จากการผลิต

กลุ่มที่สองคือ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสจากไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Power) โดยแบ่งออกเป็นพลังงานจากแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ซึ่งทั้ง 2 ธุรกิจนี้ เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักของ EA ในปัจจุบัน

กลุ่มที่สาม คือ ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่สำรองพลังงาน (Energy Storage) เป็นการเข้าไปถือหุ้นใน Amita Technologies Inc ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนา และผลิตแบตเตอรี่จากประเทศไต้หวัน โดยปัจจุบันธุรกิจอยู่ระหว่างเตรียมก่อสร้างโรงงาน ขนาด 50 กิกะวัตต์-ชั่วโมง (GWh)

และกลุ่มสุดท้าย ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า หรือชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging) ภายใต้แบรนด์การค้า EA Anywhere เพื่อรองรับการให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าที่คาดว่าจะมีจำนวนมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ ขณะเดียวกันทาง EA ยังได้ทำการวิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบของตนเอง ซึ่งนับว่าเป็นรถนยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่ออกแบบและผลิตโดยคนไทย 100% และเตรียมทำตลาดในเชิงพาณิชย์ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าต่อไป

EA พลังงาน

“เราทำการวิจัยและพัฒนาเพื่อหาโอกาสทางธุรกิจใหม่อยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ซึ่งจะเห็นได้จากเส้นทางธุรกิจของ EA ตลอดเวลาที่ผ่านมา จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากไบโอดีเซล มาพลังงานไฟฟ้าทางเลือก และกำลังรุกเข้าสู่ธุรกิจ Energy Storage และรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งนับได้ว่าเป็นธุรกิจที่จะมาต่อยอดธุรกิจผลิตไฟฟ้าได้อย่างครบวงจร พร้อมทำให้ EA เปลี่ยนจากผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไปเป็นผู้ให้บริการระบบไฟฟ้าครบวงจร “

จะเห็นได้ว่า จากธุรกิจที่ EA ภายในช่วงเวลาเพียง 10 ปี บริษัท สามารถรักษาขีดความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่ดี และมั่นคงโดยมีแผนธุรกิจในอนาคตที่ชัดเจน อันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บริษัทฯ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานทางเลือกได้อย่างเต็มภาคภูมิ