9 อัตลักษณ์ในบริบทใหม่ ก่อนยลโฉม Dusit Central Park
หลายคนมีความทรงจำในอดีตของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ก่อนที่จะปิดปรับปรุงใหม่ ซึ่งแน่นอนว่า หลังวันที่ 27 กันยายน ศกนี้ ทางโรงแรมพร้อมจะเปิดให้บริการอีกครั้ง และเราก็รวบรวม 9 อัตลักษณ์ในบริบทใหม่ที่ทุกคนจะมาเยือน ดุสิตธานี กรุงเทพ ณ Dusit Central Park
1.Golden Spire ยอดเสาสีทอง สัญลักษณ์แห่งความทรงจำ
ยอดเสาปลายแหลมสีทองบนยอดตึก ถูกออกแบบครั้งแรกเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว โดยสถาปนิกญี่ปุ่น Mr. Yozo Shibata หัวหน้าสถาปนิกจากบริษัท Kanko Kikaku Sekkeisha (KKS) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ยอดของพระปรางค์ วัดอรุณราชวราราม จนกลายเป็นอัตลักษณ์สำคัญที่ใครเห็นก็ล้วนทราบว่า สถานที่แห่งนี้คือเมืองดุสิตธานี ทางเราจึงได้สร้างสรรค์ยอดเสาใหม่ที่มีลักษณะโปร่ง มีความสวยงามร่วมสมัยมากขึ้น
2.Golden Façade กรอบอาคารมงคลสีทอง
ส่วนด้านหน้าของอาคาร หรือกรอบอาคาร (Golden Façade) ถูกสร้างสรรค์ผ่านการวางสมมาตรตามศาสตร์ฮวงจุ้ยเพื่อเสริมมงคล โดยแรงบันดาลใจมาจากกรอบอาคารสีทองเดิม แต่นำมาปรับรูปแบบใหม่ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น และเมื่อเวลาแขกถ่ายรูปจากห้องพัก ตัวกรอบอาคารนี้จะทำหน้าที่เป็นกรอบรูปสีทอง ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นพร้อมรับ Panoramic View ของสวนลุมพินีได้อย่างเต็มตา
3.Library 1918 สถานที่รำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
ก่อนที่จะมาเป็นห้องไลบรารี่นั้น ห้องนี้เคยเป็นห้องอาหารอิตาเลียนและห้องจัดเลี้ยงนํ้าชาที่จัดถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์ในรัชกาลที่ 6 ภายหลังเมื่อได้ปรับมาเป็นห้องประชุม จึงได้ออกแบบให้ภายในห้องตกแต่งด้วยหัตถศิลป์งานฉลุไม้ ตกแต่งด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ และมีข้าวของเครื่องใช้ในองค์รัชกาลที่ 6 ซึ่งของสะสมต่าง ๆ เหล่านี้ถือเป็นการเทิดพระเกียรติองค์รัชกาลที่ 6 ในฐานะผู้สร้างเมืองจำลองดุสิตธานีขึ้น
4.Trees from original Dusit Thani Bangkok ต้นไม้ต้นแรกที่ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ปลูกไว้
การกลับมาของสวนไม้เมืองร้อน ตอกยํ้าวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว และสร้างพื้นที่พักใจให้กับผู้ที่มาพักอาศัย สะท้อนการดูแลอย่างใส่ใจทั้งโครงการรวมถึงต้นไม้ ทางโครงการฯ ได้รักษาต้นลีลาวดีที่ท่านผู้หญิงชนัตถ์เป็นคนปลูก และเมื่ออาคารของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ต้นไม้แห่งความทรงจำนี้จะถูกนำมาปลูกไว้ภายในโครงการฯ ตามเดิม
อีกหนึ่งความตั้งใจของคุณชนินทธ์ โทณวณิก คือการพัฒนาที่ดินให้ควบคู่ไปกับการพัฒนาเมืองและชุมชน เราจึงออกแบบให้โครงการฯ มี Roof Park หรือพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นอีก 7 ไร่ เพื่อให้ส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และใช้เป็นพื้นที่เพื่อการพักผ่อนและสันทนาการ
5.Signature Cascading Waterfall นํ้าตกสวรรค์ชั้นดุสิต
หนึ่งในซิกเนเจอร์ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ คือ นํ้าตก 9 ชั้น ที่สร้างความสงบและร่มเย็นต้อนรับนักท่องเที่ยวและแขกผู้มาเยือน นํ้าตกจะถูกแบ่งระดับชั้นเป็น 3 ชั้น (ด้านบน) หมายถึง ไตรภูมิทั้ง 3 โลก และ 6 ชั้น (ด้านล่าง) หมายถึง สวรรค์ 6 ชั้น และเมื่อนำทั้งสองเลขมารวมกันจะได้เป็นเลข 9 ตัวเลขมงคลที่ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งโรงแรมให้ความสำคัญ โดยการกลับมาครั้งใหม่นี้ “นํ้าตกสวรรค์ชั้นดุสิต” จะกลับมาสร้างความร่มรื่นและสดชื่นให้กับผู้พักอาศัย บนพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้นและสมบูรณ์แบบกว่าเดิม
6.Signature Lobby’s Ceiling เพดานล็อบบี้สีทองอร่าม
ดีไซน์ฝ้าเพดานหลุมในบริเวณล็อบบี้ชั้นล่างของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ จะเป็นการสร้างสรรค์ที่ผสานความทันสมัยแบบใหม่และอัตลักษณ์ของรูปทรงฝ้าดั้งเดิมของโรงแรมเข้าด้วยกัน โดยดีไซน์ให้เป็นฝ้าขั้นบันไดทรงสี่เหลี่ยมสีทอง ซึ่งต่อเนื่องมาจากบริเวณ Drop off ด้านนอกเข้าจนถึงด้านใน Lobby ผสานกับการออกแบบแสงไฟที่ลงตัว เพื่อให้เกิดมิติด้านความงดงามอย่างลงตัว ทั้งหมดนี้จะส่งเสริมให้เกิดเอกลักษณ์กับพื้นที่สำหรับรับรองแขกคนสำคัญ และจะสร้างการจดจำที่ประทับใจในทุกครั้งที่ได้มาเยือน
7.Decorative Lobby’s Screens อัตลักษณ์ไทยแท้
เส้นโค้งที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “สินเทา” งานจิตรกรรมฝาผนังแบบดั้งเดิมของไทย ทว่ามีการปรับเปลี่ยนให้เป็นรูปทรงที่ดูคล้ายก้อนเมฆ เพื่อสื่อถึงแนวคิดเรื่องสรวงสวรรค์ที่เชื่อมโยงกับความหมายตามชื่อ “ดุสิต” สะท้อนความสง่างามที่จะสะกดสายตาผู้มาเยือนทุกคน สำหรับผืนภาพภายในได้หยิบยกความสวยงามของโครงสร้างฝ้าเพดานและเสาที่โดดเด่นเป็นอัตลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งเดิมมาเป็นแรงบันดาลใจ ที่นับเป็นสถาปัตยกรรมตกแต่งงดงามตามเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยร่วมสมัย ซึ่งออกแบบจากผลงานจิตรกรรมรูปสระบัวของ “ขรัวอินโข่ง” ศิลปินชาวไทยผู้มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับอย่างสูงในช่วง พ.ศ. 2393 – 2403 (ค.ศ. 1850 – 1860) โดยสะท้อนความหมายของดอกบัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เครื่องบูชาและความดีงามของพระพุทธศาสนา จากการที่ดอกบัวจะผุดขึ้นสู่แสงสว่างและความอบอุ่น ซึ่งเป็นนัยสื่อแทนการตรัสรู้ และด้วยแนวคิดการออกแบบซึ่งมีที่มาจากการเติบโตของบัวเช่นนี้ ดีไซน์ดังกล่าวจึงสื่อถึงจินตนาการดุจดั่งกำลังเดินอยู่เบื้องล่างของสระบัว
8.เสาเบญจรงค์ กับผลงานชิ้นเอกที่สรรค์สร้างอย่างบรรจง
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่อยู่คู่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ มานาน 50 กว่าปีนั้นคือ เสาเบญจรงค์ เสาเอกขนาดใหญ่ 2 ต้น ที่มีนํ้าหนักรวมกว่า 10 ตัน โดยนับเป็นผลงานศิลปะที่ดำรงไว้เพื่อสะท้อนความเป็นเมืองดุสิตธานี โดยได้ถูกนำกลับมาเป็นอัตลักษณ์ เพื่อเชื่อมรอยต่อของประวัติศาสตร์อีกครั้ง ด้วยความวิจิตรของตัวเสาที่ได้ถูกวาดลวดลายจิตรกรรมไทยไว้อย่างประณีต นับเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซ โดย “ท่านกูฏ” อาจารย์ไพบูลย์ สุวรรณกูฏ ศิษย์รุ่นแรกของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ที่ใช้เวลาค้นคว้าหาข้อมูล และถอดความหมายจากภาพจิตรกรรมวัดโพธิ์ ทั้งการใช้สีและลวดลายก่อนลงมือเพนต์จริง นับว่าเป็นผลงานที่เชื้อเชิญให้ผู้ที่มาเยือนเข้ามาสัมผัสวัฒนธรรมไทยอย่างเต็มเปี่ยมตามที่ทางโครงการมุ่งมั่นรักษาคุณค่าความเป็นไทยแบบดั้งเดิมไว้
9.Heritage Suites ผสานต้นแบบความเป็นไทยอย่างครบสมบูรณ์
จากอดีตถึงปัจจุบัน ห้องสวีตที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ นับเป็นต้นแบบความเป็นไทยที่แท้จริง ไม่ว่าชาวไทยหรือชาวต่างชาติ ต่างก็หลงใหลตั้งแต่แรกเข้าพัก โดยมีเอกลักษณ์ของการออกแบบ บวกกับการตกแต่งห้องที่รังสรรค์อย่างประณีตบรรจง ผ่านการสอดแทรกวัฒนธรรมและความเป็นอยู่อย่างไทยในแบบฉบับของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ
และแน่นอนว่าการกลับมาใหม่ครั้งนี้ ห้องพักทั้ง 257 ห้องจะมีขนาดใหญ่ขึ้น และทั้งหมดสามารถมองเห็นความร่มรื่นของสวนลุมพินีได้อย่างเต็มตา ผ่านช่องหน้าต่างที่เป็นกระจกบานใหญ่ สูงจากพื้นจรดเพดาน ซึ่งตกแต่งด้วยขอบสีทองหรูหรา เพื่อสื่อถึงภาพความทรงจำที่น่าประทับใจ และยังเสริมความพิเศษด้วยพื้นที่พักกายชมวิวริมหน้าต่าง เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้ผ่อนคลาย เพื่อชื่นชมความงดงามของธรรมชาติกับบรรยากาศอันแสนสงบจากภายในห้องพัก
รวมถึงการตกแต่งภายในของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ได้รับการออกแบบจาก André Fu Studio ซึ่งได้รับการยกย่องและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยการออกแบบได้คำนึงถึงความต่อเนื่องจากอดีตสู่ปัจจุบันอย่างลงตัว สื่อความหมายของคำว่า Heritage ได้อย่างสมบูรณ์
ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus