ประเทศไทย กับว่าที่สถิติต่างๆ มากมาย อาทิ ค่าน้ำมันแพงติดอันดับโลก เมืองท่องเที่ยวชั้นนำ รถติดอันดับต้นๆ ของโลก เป็นต้น แต่ท่ามกลางภาพลักษณ์ในแง่ร้าย ไทยก็มีมุมดีๆ กับเขาบ้างเช่น คาดหวังจะเป็น Leader สำหรับการสร้าง Startup ในอาเซียนกระทั่งมาตราการเอื้อการลงทุนเงินสกุลดิจิทัล เป็นต้น
จะว่าไปแล้ว ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เอกชนและรัฐบาลตื่นตัวกับกระแส DISRUPTION มาก จนได้เห็น Movements สำคัญๆ ในหลายธุรกิจมากมายหนึ่งในธุรกิจที่น่าจับตามองก็คือ อสังหาริมทรัพย์ ทำไมธุรกิจนี้จึงน่าสนใจ
เพราะธุรกิจนี้ จะไม่ใช่แค่เปิดหน้าเว็บไซต์ หรือลงประกาศขายห้องพัก แล้วมีคนซื้อเหมือนเดิมอีกต่อไป คนขาย ซึ่งก็คือ Developer ทั้งหลายกำลังสร้างภาพลักษณ์ตัวเองให้เป็น “แพลตฟอร์ม”หมายความว่า อะไรที่ง่ายๆ ดาษๆ จะไม่สามารถขายสินค้าให้อย่างเย้ายวนเหมือนเช่นในอดีตเพราะการเกิดขึ้นของ Prop Tech ซึ่งเกิดจากมันสมองของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ กำลังท้าทายอุตสาหกรรมนี้
คนเหล่านี้เชื่อว่า ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี สามารถทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ กระทั่งสินทรัพย์ที่เขาซื้อมา มีมูลค่าสูงกว่าเดิมมาก เช่น อยากกินอาหาร หรือสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เพียงกดสั่งจากโทรศัพท์มือถือได้ทันที หรืออย่างการจอดรถในคอนโด ที่ปรกติ ต้องวิ่งวุ่น หรือวนไปชั้นต่างๆ เพื่อจอดรถ
แต่จากนี้ ปัญหาดังกล่าวจะไปหมดไป ด้วยเทคโนโลยี Duo robot automatic parking ระบบนี้ก็เสมือนเป็นผู้ช่วยในการจัดเก็บรถ หรือเข้าใจง่ายๆ คือ โรงจัดเก็บรถอัจฉริยะ ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัทที่เผยแพร่และเป็นรายแรกสำหรับการติดตั้งในเมืองไทยคือ บริษัท ปาร์คพลัส จำกัด เจ้าของกิจการคือ นักธุรกิจรุ่นใหม่ชื่อ อภิราม สีตกะลินและวานิตา ศรีเฟื่องฟุ้ง ทั้งคู่ลงทุนกับปาร์คพลัส ไม่ใช่แค่จะขายระบบติดตั้ง Duo robot automatic parking ให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่ทั้งคู่ได้เปิดตัวแอพลิเคชัน park2Go (ปาร์คทูโก) ด้วยวิธีคิดใหม่ คือ บริหารจัดการพื้นที่ว่างเปล่าให้เกิดมูลค่าสูงสุด
หมายความว่า ทั้งระบบ Duo robot automatic parking และแอพลิเคชัน park2Go คือ การสนองให้ครบห่วงโซ่บริการ แอพลิเคชัน park2Go เหมาะแก่ B2C ซึ่งปาร์คพลัสจะทำการเช่าพื้นที่เป้าหมาย แล้วสร้างที่จอดรถลอยฟ้า คนใช้บริการเพียงดาว์นโหลดแอพนี้เข้่ามามือถือ เลือกลานจอดรถที่คุณต้องการใช้บริการ โดยเสียค่าเช่าเป็นรายชั่วโมง ถือว่าเป็นการสนองตอบค่าจอดรถในพื้นที่หายากอย่างในสีลม หรือสุขุมวิท เป็นต้น
ส่วน Duo robot automatic parking เหมาะสำหรับ B2B กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่แต่เดิมต้องเสียพื้นที่ 1 ใน 3 เพื่อสร้างที่จอดรถ แต่หากติดตั้งระบบนี้ในภายในอาคาร ผู้ประกอบการอสังหาฯ สามารถนำพื้นที่ส่วนที่เหลือไปขาย หรือสร้างห้องชุดขายได้เพิ่มขึ้น win win ทั้ง 2 ฝ่าย
อภิราม ประเมินว่า มูลค่าตลาดรวมธุรกิจที่จอดรถและระบบที่จอดรถอัตโนมัติ มีราว 10,000 ล้านบาท แต่ในอนาคตมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นตามในปริมาณของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยคาดว่ามูลค่าตลาดอาจจะถึง 1 แสนล้านบาท แค่จอดรถเพียง 3 นาที แต่อาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาจัดการ
อภิราม กำลัง DISRUPT ธุรกิจที่จอดรถ ซึ่งผลิตและออกแบบ Warehousing ตั้งแต่ปี 1905 เดิมพันอนาคตด้วยมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านบาท OMG …!!!