ดีแทค เน็ตทำกิน เปิดใจผู้ก้าวพลาด 16 ปี กับการถูกจำกัดอิสรภาพกับโอกาสใหม่ และทุนความรู้บนโลกออนไลน์

ความอยากรู้อยากลอง และความคึกคะนอง เป็นลักษณะหนึ่งที่อธิบายถึงการก้าวสู่ความเป็น “วัยรุ่น” ได้อย่างชัดเจน เพราะเป็นวัยที่สมองยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่โดยเฉพาะเรื่องการคิดวิเคราะห์และการตัดสินใจ และนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้วัยรุ่นจำนวนไม่น้อย “หลงผิด” เข้าสู่วังวนของยาเสพติด

ข้อมูลจากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ในช่วงปี 2560-2565 มีจำนวนผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติดราว 310,000 คน และพบว่ากว่า 50% ของสัดส่วนทั้งหมดเป็นเยาวชนอายุ 15-24 ปี ซึ่งหนึ่งในผู้ก้าวพลาดดังกล่าวก็คือ วุฑฒิชัย สีหานารถ หรือ ฟลุค

ตกกระไดพลอยโจน 

เขาเล่าอดีตอันน่าเจ็บปวดให้ฟังว่า ในช่วงวัยรุ่น เขาเองค่อนข้างเป็นคนคึกคะนอง ตัดสินใจออกจากโรงเรียนกลางคันเพื่อมาทำงานเป็นผู้ช่วยอยู่ในเวดดิ้งสตูดิโอแห่งหนึ่ง แต่แล้วฟลุคในวัย 19 ปีก็ต้องพบเจอกับเหตุการณ์หนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล

“คืนนั้น ผมกับเพื่อนกำลังจะไปเที่ยวกลางคืนกัน ผมนั่งรถไปกับเพื่อน เมื่อถึงบ้านเพื่อนรุ่นพี่อีกคน ก็ถูกค้นรถค้นตัว ก็พบว่าเพื่อนที่มาด้วยนั้นมีของกลางยาบ้าอยู่ในกระเป๋านับพันเม็ด ส่วนเพื่อนรุ่นพี่อีกคนกำลังจะเอายาบ้ามาใส่รถอีกนับหลายพันเม็ดเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าตกกระไดพลอยโจนของจริง” ฟลุคเล่าย้อนเหตุการณ์ค่ำคืนที่มืดมิดกว่าปกติ

แม้เขาจะยืนยันด้วยความบริสุทธิใจว่า เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับของกลางดังกล่าวเลย แต่ด้วยหลักในการพิจารณาทางอาญาทำให้ศาลตัดสินว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับของกลางดังกล่าว ต้องโทษตามวาระจากทั้งสิ้น 25 ปีเหลือ 12 ปี

“ผมเสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนั้นมาก ตอนนั้นตั้งใจทำงานจนสามารถหาซื้อรถได้ เรียกได้ว่า ชีวิตกำลังไปได้สวย ที่สำคัญ ผมทำให้คนที่สำคัญมากที่สุดคนหนึ่งในชีวิต ‘ผิดหวัง’ นั่นก็คือ ‘คุณพ่อ’ ยิ่งท่านรับราชการตำรวจด้วย แม้ท่านจะเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ก็รับรู้ได้ว่าโกรธ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และความคึกคะนอง ทำให้ชีวิตต้องมาพลาดพลั้งไป” เขาเปิดความในใจ

ทุนความรู้

ภายใต้ชีวิตหลังกำแพง ฟลุคตั้งมั่นคิดว่าจะทำอย่างไรให้ชีวิตข้างในไม่เสียเปล่า เพราะแม้แต่วุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นก็ไม่มี เขาจึงลงเรียนการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 และเรียนต่อในระดับปริญญาตรี ในสาขาวิชานิเทศศาสตร์ เอกภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เพื่อต่อยอดจากประสบการณ์ที่มีในเวดดิ้งสตูดิโอ จนเหลือเก็บหน่วยกิตอีกเพียง 2 วิชาก็จะสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีอย่างสมบูรณ์

ฟลุคตั้งใจที่จะเหลืออีก 2 วิชาเพื่อจบการศึกษาข้างนอกและหวังว่าจะได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ เนื่องจากเขาได้รับพระราชทานอภัยโทษเหลือ 8 ปี 10 เดือน จากสถานะนักโทษชั้นเยี่ยม

“ถ้าเราเคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้ว เมื่อออกมาแล้วหวนกลับไปวังวนนั้นอีก มันง่ายมากเลยนะ” ฟลุค กล่าว

สำหรับความผิดพลาดในครั้งที่ 2 นี้ เขาผิดข้อสัญญากับครอบครัวจนประกาศตัดญาติขาดมิตร แต่กระนั้น เขาก็ตั้งมั่นที่จะเอาดีด้านการเรียน เพื่อสามารถออกไปต่อยอดได้ทันที จึงลงเรียนอีก 2 วิชาที่เหลือให้ครบหน่วยกิตจนสามารถเอาปริญญาบัตรมาครอบครองได้สำเร็จ เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรกับผู้แทนพระองค์ที่เรือนจำบางขวาง

และเพราะเรื่องการศึกษาอีกเช่นเดียวกัน เขาจึงใช้เรื่องนี้เป็นตัวสานสัมพันธ์กับครอบครัว และนี่จึงเป็นเหมือนกำลังใจสำคัญในการใช้ชีวิตในโลกหลังกำแพง เพราะเวลาแต่ละวันเรือนจำนั้นช้ามาก มีเพียง “ครอบครัวและความหวัง” ที่เป็นเหมือนยาชุบกำลังให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง ความหวังที่ต้องการเริ่มต้นใหม่ หวังที่จะใช้ชีวิตนอกกำแพงอีกครั้ง และท้ายที่สุด เขาได้รับพระราชทานอภัยโทษจำคุกเหลือ 7 ปี 4 เดือน

16 ปีแห่งการสูญสิ้นโอกาส

ความผิดพลาดทั้ง 2 ครั้งนี้ถูกแลกมาด้วยอิสรภาพทั้งสิ้น 16 ปีเต็ม 16 ปีภายใต้มุ้งเหล็กในวัยที่เปี่ยวด้วยกำลังวังชา ทำให้เขารู้สึกเสียโอกาส เกินที่จะอธิบายได้ ฟลุคต้องการเพียงยืนหยัดเหมือนคนธรรมดาคนอื่น ไม่อยากเสียรถ ไม่อยากเสียคนรักอีกต่อไปแล้ว

ภายหลังได้รับอิสรภาพอีกครั้ง ฟลุคมีความฝันที่จะทำงานในเกี่ยวกับภาพยนตร์ งานกองถ่าย เพื่อต่อยอดในสิ่งที่ร่ำเรียนมา รวมถึงสวัสดิการจากการทำงาน แต่เขาก็พบว่า “มันไม่ง่ายเลย” นอกจากด่านความรู้ความสามารถ เขามักเจออุปสรรคที่เรียกว่า “ประวัติอาชญากรรม”

“โลกข้างนอกโหดร้ายจริง ผมส่งใบสมัครไปหลายสิบหลายร้อยที่ก็ไม่มีใครเรียกแม้แต่สัมภาษณ์ สมัครอะไรก็ไม่ผ่าน สิ่งที่ตอบกลับมามีแต่ความเงียบ” ฟลุคอธิบาย

โอกาสใหม่บนโลกออนไลน์

ถึงกระนั้น เขาก็ไม่ยอมแพ้ ฟลุคขอรับความช่วยเหลือจากศูนย์ CARE ของกรมราชทัณฑ์ เพื่อตั้งต้นสำหรับการมีอาชีพ โดยได้รับทุนเบื้องต้นเป็นรถเข็นอาหารตั้งใจว่าจะขายของกินที่ตลาด เลือกอยู่นานเพื่อให้แตกต่างจากอาหารที่มีขายอยู่ก่อน ร่วมกันคิดสูตรกับคุณแม่ที่มีฝีมือปลายจวักจนออกมาเป็น “ฟลุค กระเพาะปลาแท้ สูตรโบราณเจ้าเก่า

ช่วงแรกๆ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่มาสะดุดอีกครั้งเมื่อต้นปี 2565 ที่วิกฤตโควิดระบาดหนักๆ จากเชื้อโอไมครอน ตลาดปิดเป็นการชั่วคราว เลยเลือกโกออนไลน์ขายผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์ ยิ่งได้เข้าโครงการ #ชิมเรียกยิ้ม ซึ่งทางดีแทค ร่วมกับ TIJ และ Robinhood ในการเรียนรู้เทคนิคการตลาดออนไลน์ ทำให้เขาต่อสู้ผ่านวิกฤตไปได้ วันหนี่งๆ สร้างยอดขายราว 6,000-7,000 บาท

“การตลาดออนไลน์สำคัญมากในยุคที่วิถีชีวิตผู้คนเปลี่ยนไป การสร้างตัวตน การสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่องถือเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งตรงนี้ทีมโค้ชดีแทคเน็ตทำกินช่วยเปิดโลกให้กับคนที่อยู่หลังกำแพงอย่างผมได้มากเลย” ฟลุค กล่าว

เขาเล่าเสริมว่า แม้วันนี้จะบอกได้ไม่เต็มปากว่าชีวิตดีขึ้นแล้ว เพราะการค้ามีขึ้นมีลง ทุกวันนี้ต้องทำงาน 2 อย่าง ตื่นตี 3 มารับจ้างส่งน้ำแข็งถึงบ่ายโมง ตกบ่ายก็ต้องมาเตรียมของเพื่อไปขายกระเพาะปลาที่ตลาด แม้จะลำบากยากเข็ญสักเพียงไร เขาก็ไม่ย่อท้อ พร้อมดิ้นรนเพื่อแรงใจตัวน้อยรออยู่

ทุกท่านสามารถร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้พ่อลูกอ่อนคนนี้ สามารถอุดหนุนได้ที่หน้า 7-Eleven สาขาแจ้งลำหิน จุด 2 หรือติดต่อที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100040191589723  หรือสามารถสั่งซื้อผ่าน Robin Hood ได้ที่ https://static.robinhood.in.th/share_link.html?&URI=robinhoodth://merchantlanding/id/70216 เขารับประกันความสด อร่อย กระเพาะปลาแท้จากเยาวราช ปรุงสดใหม่ทุกวัน